เครือทีซีซี ขยับแผนลงทุนอาคารสำนักงานใหม่-รีโนเวตอาคารเก่า รับความต้องการของตลาดที่เติบโตต่อเนื่อง เชื่อปี60 ต่างชาติปรับแผนหันลงทุนตลาดเอเชียมากขึ้น ส่งผลราคาค่าเช่าขึ้นเฉลี่ย 5-6% อัตราเข้าใช้พื้นที่ 90-100% 

นายเอกอธิป รัตนอารี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีซีซี คอมเมอร์เชียล พร็อพเพอร์ตี้ แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในเครือกลุ่มทีซีซีแลนด์ เปิเผยว่าในปี 2560 บริษัทฯมีแผนขยายพอร์ตการลงทุนในส่วนที่เป็นอาคารสำนักงานเพิ่ม และอยู่ระหว่างรอผ่านการพิจารณาจากบอร์ดบริษัทฯก่อน คาดว่าจะสามารถเปิดเผยข้อมูลได้ในปีหน้า ซึ่งจะเป็นการลงทุนเองของบริษัทฯทั้งหมด เนื่องจากผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของอาคารสำนักงานที่ก่อสร้างไปแล้วหลายปี มักไม่ปล่อยขาย ดังนั้นประเด็นการเทกโอเวอร์อาคารสำนักงานจึงไม่ค่อยมี ปัจจุบันบริษัทฯมีพื้นที่ให้เช่าอาคารสำนักงานรวม 600,000 ตารางเมตร(ตร.ม.) และคาดว่าในปี 2560 จะเพิ่มมากขึ้นเป็น 800,000 ตารางเมตร

นอกจากนี้บริษัทฯยังได้ตั้งเป้าในการตอกย้ำแบรนด์ผู้บริหารพื้นที่สำนักงานและอาคารให้เช่าโดยเฉพาะการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ที่ผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐาน ISO 9001:2015 ด้านบริหารอาคาร ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพและความสามารถในระดับสากลเทียบเท่าบริษัทต่างชาติ พร้อมพัฒนาระบบสารสนเทศและบุคลากรในการบริหารจัดการฐานข้อมูล ที่สามารถสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
An image
ปัจจุบันบริษัทฯมีอาคารสำนักงานที่พัฒนาเอง จำนวน 5 อาคาร  คือ แอทธินี ทาวเวอร์ ,อาคารพลับพลาไชย ,อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์,อาคาร208 วายเลส โร้ด และอาคาร อินเตอร์ ลิงค์ โดยในช่วงที่ผ่านมา บริษัทฯได้เดินหน้าในการสร้างคุณค่าเพิ่มให้โครงการ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ต่างๆ ของผู้เช่าอาคารที่แตกต่างกัน โดยบริษัท ใช้งบลงทุน 1,100 ล้านบาท ปรับปรุงบางส่วนของอาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์  ขนาดพื้นที่ 13,306 ตารางเมตร เป็นพื้นที่คอมมูนิตี้มอลล์ ในชื่อ เอ็มสเปซ แอท เอ็มไพร์ (EM Space @ Empire) ซึ่งสามารถให้บริการลูกค้าภายในอาคาร ประชาชนในย่านสาทร สีลมและย่านใกล้เคียง ด้วยบริการครบวงจร ทั้งร้านอาหาร ธนาคาร ฟิตเนส ซูเปอร์มาร์เก็ต
ในส่วนของอาคาร208วายเลส โร้ด บนถนนวิทยุ ขนาดพื้นที่รวม 24,926 ตารางเมตร บริษัทฯได้ใช้งบ70 ล้านบาท ปรับปรุงอาคารแล้วเสร็จเมื่อกลางปี 2559 ตามแนวคิด บูติกออฟฟิศ ที่เน้นความเรียบหรู บรรยากาศสบายท่ามกลางบรรยากาศสีเขียวบนถนนวิทยุ พร้อมจุดเด่นด้านทำเลที่ตั้งใกล้สถานีรถไฟฟ้าเพลินจิตด้วยพื้นที่ให้บริการ 26,000 ตารางเมตร
ในปี2560บริษัทมีแผนเตรียมใช้งบลงทุนอีก30ล้านบาท ในการปรับปรุงอาคาร อินเตอร์ ลิงค์ (Interlink Tower)บนถนนบางนา-ตราด เพื่อรองรับรถไฟฟ้าสายบางนา-สุวรรณภูมิ ในอนาคตเช่นเดียวกัน พร้อมตั้งเป้าในการขยายพื้นที่ให้บริการจาก600,000ตารางเมตรเป็น800,000ตารางเมตรภายในปี2560ทั้งการให้บริการบริหารอาคารทั้งภายในและภายนอกกลุ่มบริษัท

การดำเนินการต่างๆดังกล่าวก็เพื่อรองรับกับความต้องการของตลาดที่เชื่อว่ามีแนวโน้มดีต่อเนื่องทั้งจำนวนลูกค้าที่มาเช่าพื้นที่เพิ่มและอัตราค่าเช่าที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยเห็นได้จากสัญญาณภาพรวมตลาดอาคารสำนักงานในปี 2559 ยังมีแนวโน้มที่ดี ผู้ประกอบการมีการปรับอัตราค่าเช่ามาโดยตลอด หากเป็นโซนที่ติดรถไฟฟ้าจะได้รับการตอบรับดี แลนด์ลอร์ดมีความพอใจในอัตราค่าเช่า และผู้เช่าในอาคารสำนักงาน ปัจจุบันในกทม.มีพื้นที่อาคารสำนักงาน รวม 8.54 ล้านตารางเมตร มีอัตราการเข้าใช้พื้นที่เฉลี่ยที่ 81 % และมีการปรับค่าเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้นมาเฉลี่ยที่ 5-6 %

An image
ส่วนแนวโน้มตลาดอาคารสำนักงานในปี2560 นักลงทุนจากทั่วโลกจะหันขยายการลงทุนมายังประเทศแถบเอเชียมากขึ้น เพราะสภาวะเศษฐกิจยังมีอัตราการเติบโต ดังนั้นภายในระยะเวลา 1-2 ปีนี้ อาคารสำนักงานจึงต้องมีตอบสนองดีมานด์ดังกล่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  โดยอาคารสำนักงานที่จะได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ซิดนีย์ เมลเบิร์น นิวเดลี และกรุงเทพฯในขณะที่อัตราค่าเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานในประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง และเซียงไฮ้ ประเทศจีน ปัจจุบันราคาค่าเช่าพื้นที่เริ่มนิ่งแล้ว ในขณะที่กรุงเทพฯ ยังเป็นที่ต้องการของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติเนื่องจากมีอัตราค่าเช่าพื้นที่ต่ำกว่าประเทศอื่นในเอเชีย ทำให้มีข้อได้เปรียบกว่า และในปีหน้าคาดว่าจะมีซัพพลายใหม่เข้ามาอีกประมาณ 400,000 ตารางเมตร อัตราค่าเช่าพื้นที่จะปรับเพิ่มขึ้นที่เฉลี่ย 5-6 % เท่ากับปี2559 ส่วนอัตราการเข้าใช้พื้นที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 90-100 % ซึ่งตลาดโดยรวมยังเป็นของแลนด์ลอร์ดอยู่ คาดว่าพื้นที่อาคารสำนักให้เช่าในปี 2560 โดยเฉพาะในโซนCฺBD อัตราค่าเช่าจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 1,100 – 1,200 บาท/ตารางเมตร/เดือน จากปัจจุบันอยู่ที่ 900- 950 บาท/ตารางเมตร/ เดือน ส่วนพื้นที่รอบนอกราคาค่าเช่าเฉลี่ยที่ 600-700 บาท/ตารางเมตร/เดือน หากอาคารสำนักงานแห่งใดที่มีบริษัทข้ามชาติเช่าพื้นที่ ส่วนใหญ่จะเป็นการเช่าระยะยาวมากกว่า 15 ปี
สำหรับปัจจัยในการตัดสินใจเลือกเช่าพื้นที่อาคารสำนักงานของลูกค้าจะให้ความสำคัญในเรื่องทำเลที่ตั้ง ที่ต้องอยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้า รวมถึงถึงราคาค่าเช่า หากมีความบาลานซ์กับทำเล ก็จะตัดสินใจได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญในเรื่องดีไซน์ ที่โล่ง โปร่งสบาย ซึ่งเทรนด์สมัยใหม่จะเป็นในรูปแบบ Open Spece ไม่ต้องมีเสากลางพื้นที่ ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของลูกค้าทั้ง ญี่ปุ่น สหรัฐ และอังกฤษ ซึ่งในปี 2560 จะมีอาคารสำนักงานเปิดให้เช่าพื้นที่ได้อีกอย่างน้อย 2 แห่ง คือ อาคารสำนักงานของกลุ่มเกษร และอาคารสำนักงานของกลุ่มสิงห์ เอสเตท จำกัด(มหาชน)
“จากนี้ไปจนถึงปี 2563 จะมีผู้ประกอบการรายใหญ่ลงทุนพัฒนาอาคารสำนักงานมากขึ้นเป็นล้านตารางเมตร ซึ่ง ณ วันนั้นตลาดคงเปลี่ยนไปเกิดโอเวอร์ซัพพลายและต้องจับตาดู”นายเอกอธิป กล่าวในตอนท้าย

– See more at: https://prop2morrow.com/home/news/872#sthash.zZPEyr2d.dpuf

1 ความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*