จากบทความที่แล้วตู่ได้เขียนเกี่ยวกับแนวคิดและประสบการณ์ในการเปลี่ยนตัวเองตัวเอง ลงท้ายประโยคด้วยคำว่า

“เริ่มเถอะค่ะ!!!”  หรือหลายคนอาจจะเคยไปนั่งสัมมนา หรือหาหนังสือเกี่ยวกับการสร้างแรงบันดาลใจมาอ่าน อ่านเสร็จไฟลุกโชนมาเลย ความรู้สึกฮึกเหิมมากๆ อยากทำแล้ว อยากทำมาก อยากทำที่สุด . . . แล้วก็ไปจบด้วยประโยคคำถาม

เริ่มยังไงดี . . เริ่มยังไงดี . .เริ่มยังไงดี??

ใครมีคำถามแบบนี้บ้างคะ ตู่เองก็เคยมี ตู่เชื่ออย่างหนึ่งว่าการตั้งคำถามที่ดีจะนำมาซึ่งคำตอบที่ดีเช่นกัน
ตู่ขอรวบรวม  3 สิ่งที่ต้องรู้ จากประสบการณ์ที่ตัวเองมี ในการเริ่มต้นลงทุน เผื่อว่าจะเป็นไอเดีย หรือ แนวทาง ให้กับคนที่อยากเริ่มต้นนะคะ . .

  1. รู้อะไรไม่สู้ รู้ตัวเอง คุณต้องรู้ก่อนว่าคุณ รักอะไร ชอบการลงทุนแบบไหน ตู่เชื่ออย่างหนึ่งว่าการทำสิ่งที่เรารัก เราจะไม่ล้มเลิกง่ายๆ เพราะในโลกของการลงทุนมีเครื่องมือให้คุณเลือกเยอะมาก  ไม่ว่าจะเป็น หุ้น พันธบัตร กองทุน ธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ ทองคำ แม้กระทั่งของสะสม และแต่ละเครื่องมือก็จะมีวิธีที่ต่างกัน  ยกตัวอย่างนะคะอย่างเช่น ตู่เลือกลงทุนในคอนโด และหุ้น ลักษณะการลงทุนที่ตู่ชอบคือ การลงทุนระยะยาว ตู่ซื้อมาเพื่อปล่อยเช่า โดยเอาค่าเช่าผ่อนกับธนาคาร เพื่อรอ capital gain (มูลค่าสินทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นตามระยะเวลา) ในส่วนของหุ้นก็เหมือนกันค่ะ  ตู่จะเน้นการลงทุน ในหุ้นที่มีพื้นฐานที่ดี มีเงินปันผล และมีโอกาสเติบโต ไม่เน้นความหวือหวา ไม่ชอบกราฟรถไฟเหาะตีลังกา เพราะตัวเองเป็นคนไม่ชอบลุ้น อันนี้คุณต้องรู้ตัวเอง เพราะจริตการลงทุนแต่ละคนไม่เหมือนกัน

Question: แล้วจะหาตัวเองยังไง???

Answer: –   การเริ่มต้นในการลงทุนของตู่เกิดจากการเข้าร่วมงานสัมนาค่ะ หาความรู้ ไปฟังประสบการณ์จากคนที่เขาทำสำเร็จมาแล้ว คุณจะเริ่มเห็นแนวคิด เห็นไอเดีย เรียนรู้ความผิดพลาดจากประสบการณ์คนอื่นค่ะ ตู่เชื่อว่าความรู้ ความเข้าใจ เป็นต้นทุนที่สำคัญที่สุดของการเริ่มต้น ไม่ใช่เงินนะคะ พอความรู้ความเข้าใจมี เราจะมองเห็นโอกาสเดี๋ยวก็จะมีวิธีการหาเงินเองค่ะ

  • การเริ่มต้นไม่จำเป็นต้องใช้เงินเยอะค่ะ แต่ใช้ใจเยอะมาก เพราะอะไร ??  ตู่เริ่มต้นการลงทุนหุ้น เพื่อสังเกตจริตตัวเองแบบที่เขียนนี้ด้วยเงิน 10,000 บาทในการเปิดพอร์ทซื้อหุ้นตัวแรก แต่ที่บอกว่าใช้ใจเยอะ เพราะต้องรวบรวมแรงในการชนะความขี้เกียจของตัวเองค่ะ  ( หัวเราะหนักมาก )

ดังนั้นคุณจะรู้ตัวเองได้ มันต้องเริ่มจากการ “ ศึกษา และ ลงมือทำ” อย่างเดียวเลย เพราะการลงมือทำจะเป็นตัวบอกคุณเองค่ะ ว่าคุณสนุกกับการลงทุนนั้นแค่ไหน คุณรู้สึกตื่นเต้น หรือคุณเครียด หรือว่ารู้สึกยังไง แล้วคุณชอบตัวเองแบบนั้นไหม ?

ถ้าชอบ ถ้าใช่แบบนี้ก็แปลว่าไปต่อได้  และที่สำคัญที่สุด ยิ่งคุณศึกษามาก ยิ่งคุณลงมือทำมาก มันจะช่วยลดความกลัวในใจของคุณเองไปได้ในตัว ไม่เชื่อลองดู !!

 

2. รู้แผนการลงทุน ในเรื่องของการลงทุนอสังหาฯ มีพี่คนหนึ่งเคยสอนไว้
“ แผนการลงทุนที่ดี มีค่ามากกว่าทำเลที่ดี..” อันนี้ตู่เห็นด้วยเป็นอย่างมาก
เพราะแผนการลงทุนนั้น จะต้องตอบ 3 สถานการณ์ที่จะเป็นไปได้ ดังนี้
แย่ที่สุด ดีที่สุด  และเป็นไปได้มากสุดที่สุด
สถานการณ์ที่เราคิดไว้เรานี้ จะเป็นตัวกำหนดกลยุทธ์ ตั้งแต่การหาแหล่งเงินทุน ว่าคุณจะใช้เงินลงทุนตัวเอง หรือเงินคนเงินคนอื่น  ระยะเวลาในการลงทุน สั้นหรือยาว  และที่สำคัญที่สุดคือ ในวันที่เลวร้ายที่สุด
คุณรับความเสี่ยงนั้นได้ไหม เป็นที่มาของสิ่งจำเป็นแล้วต้องเตรียมไว้คือ เงินสำรอง
ตู่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากเพราะตู่เชื่อว่าการลงทุนที่ดีนั้น เราจะต้องกินอิ่มนอนหลับ
ไม่เป็นภาระให้คนที่อยู่รอบข้างเรา ท่องไว้ในใจเลยค่ะข้อนี้

 

3. รู้ว่าใครจะเป็นทีมเดียวกับคุณ จริงๆ การลงทุนทำคนเดียวก็ได้ค่ะ แต่ว่าการมีเพื่อนคู่คิด มีมิตรยามยากสนุกกว่า เพราะในชีวิตประจำวันโดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนแบบตู่ วันหนึ่งเราจะต้องทุ่มเทเวลาหลักให้กับงานประจำ บางครั้งคุณอาจจะเหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง ตู่เองก็ได้เพื่อนนักลงทุนที่มีแนวคิดเดียวกันนี่แหล่ะค่ะ ( ย้ำ ! แนวคิดเดียวกันนะคะ) เป็นคนช่วยให้เราอยู่ในบรรยากาศในการลงทุนเสมอ ทั้งพบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิด การมีทีมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แม้กระทั่งนายหน้า หรือ เซลล์ประจำที่คอยช่วยเหลือเรา เพราะตู่เชื่อว่าคนเราไม่ได้ถนัดไปทุกอย่าง และไม่ได้รู้ไปซะทุกเรื่อง ดังนั้น การมีทีมจะช่วยทำให้การลงทุนของเราสนุกและง่ายมากขึ้น

 

อ่านจบแล้วตู่หวังว่าบทความนี้ น่าจะเป็นประโยชน์ และ เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อยากเริ่มต้นในการลงทุนนะคะ ตู่เชื่อว่าทุกคนทำได้ แม้ว่ามันจะยากที่สุด . . .ตอนเริ่มต้น ก็ตามที

 

ไว้ตอนหน้าตู่จะมาเล่าต่อนะคะ ว่าในการเลือกลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ในแบบฉบับมนุษย์เงินเดือนแบบเรา ลุยแบบไหนได้บ้าง

ขอบคุณค่ะ