เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเส้นทางรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินเป็นตัวแปรสำคัญที่สุดที่มีผลต่อการขยายตัวของตลาดคอนโดมิเนียม เพราะพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า / ใต้ดินมีการขยายตัวของคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่ก่อนที่เส้นทางรถไฟฟ้า / ใต้ดินจะเปิดให้บริการ และถ้าพิจารณาจากเส้นทางที่เพิ่งเปิดให้บริการในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจะเห็นว่าตลาดคอนโดมิเนียมเพิ่งขยายตัวแบบเห็นได้ชัดตามความคืบหน้าของการก่อสร้างและจนถึงการเปิดให้บริการ  บางพื้นที่ที่ไม่เคยมีโครงการคอนโดมิเนียมมาก่อนก็มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่

 

แต่ถ้ามาพิจารณาในเรื่องของระดับราคาของคอนโดเนียมและดูการขยายตัวรายปีตั้งแต่ปีพ.ศ.2554 เป็นต้นมาเพื่อดูว่าผู้ประกอบการให้ความสนใจหรือว่าเปิดขายโครงการในระดับราคาไหนมากกว่ากันก็ต้องดูที่กราฟด้านล่างนี้ซึ่งเป็นจำนวนคอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่สะสมตั้งแต่ปีพ.ศ.2554 เป็นต้นมาถึงครึ่งแรกปีพ.ศ.2559

ที่มา: ฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนลประเทศไทย

 

จะเห็นได้ว่าในปีพ.ศ.2554 ผู้ประกอบการยังคงให้ความสำคัญกับกลุ่มผู้ซื้อที่มีราคาขายในช่วงต่ำกว่าหรือเท่ากับ 50,000 บาทต่อตารางเมตรลงไปกับกลุ่มที่มีราคาขายประมาณ 50,001 – 100,000 บาทต่อตารางเมตรหรือถ้าคิดเป็นราคาต่อยูนิตในกรณีที่ห้องขนาด 30 ตารางเมตรก็ราคาขายต่ำกว่าหรือเท่ากับ 1.5 ล้านบาทและกลุ่มที่มีราคาขายมากกว่า 1.5 ล้านบาทขึ้นไปถึง 3 ล้านบาทต่อยูนิต โดยกลุ่มนี้คือผู้ที่มีเงินเดือนหรือว่ารายได้ต่อเดือนอยู่ในช่วงดังนี้

 

 

รายได้

(บาทต่อเดือน)

ราคาที่ซื้อได้

(บาทต่อยูนิต)

≤ 17,000 ≤ 1.5 ล้านบาท
> 17,000 – 35,000 1.5 – 3 ล้านบาท

หมายเหตุ: จากโปรแกรมคำนวณเงินกู้ของธนาคารกรุงศรีอยุธยาโดยคิดที่ระยะเวลากู้ 30 ปีอัตราดอกเบี้ย 7% ตลอดระยะเวลากู้ โดยไม่ได้คำนึงถึงรายจ่ายทุกประการ และเป็นการคิดจากฐานรายได้ของคนเพียง 1 คนไม่ใช่รายได้ต่อครอบครัว

 

แต่หลังจากที่กลุ่มที่มีรายได้ต่ำกว่า 17,000 บาทต่อเดือนมีปัญหาเรื่องหนี้ครัวเรือนทั้งจากนโยบายรถคันแรก และบัตรเครดิต บัตรเงินสดต่างๆ ผู้ประกอบการจึงเริ่มหนีขึ้นไปจับกลุ่มที่มีรายได้มากกว่า 17,000 บาทต่อเดือนมากขึ้น หรือจับกลุ่มที่เพิ่งเริ่มทำงานหรือทำงานมาได้สักระยะแล้ว และเป็นกลุ่มที่ผู้ประกอบการทั้งหลายยังคงให้ความสนใจต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ดังจะเห็นได้จากกราฟว่าคอนโดมิเนียมที่มีราคาขายช่วง 50,001 – 100,000 บาทต่อตารางเมตรเป็นกลุ่มที่มีการขยายตัวมากที่สุดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ปัจจัยอีกอย่างที่มีผลทำให้คอนโดมิเนียมระดับราคานี้ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการคือการที่ราคาที่ดินตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าในอนาคตปรับเพิ่มขึ้นตลอดทำให้คอนโดมิเนียมที่เปิดขายจำเป็นต้องมีราคาสูงขึ้นด้วย