An image

“อยุธยา สร้างบ้าน” เผยตลาดรับสร้างบ้าน 5 เดือนแรกยังนิ่ง เชื่อครึ่งปีหลังเริ่มฟื้นตัว เร่งรุกสร้างแบรนด์ “ AYB RESORTHOUSE”เข้าถึงลูกค้าพื้นที่กทม.-จังหวัดใกล้เคียงมากขึ้น เมินรับงานประเทศเพื่อนบ้านหวั่นปัญหามาก คาดปี60 รายได้แตะ 180 ล้านบาท จากลูกค้า 15 หลังโต 15%

 

นายธีร์ บุญวาสนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท อยุธยา สร้างบ้าน จำกัด หรือ AYB ผู้รับสร้างบ้านแบรนด์ “AYB RESORTHOUSE” เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาว่า (ม.ค.-พ.ค.2560) ค่อนข้างทรงตัวแต่ก็เริ่มมีสัญญาที่เริ่มดีขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา สำหรับกลุ่มตลาดบ้านระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป โดยลูกค้ากลุ่มดังกล่าวส่วนใหญ่จะมีที่ดินเตรียมที่จะสร้างบ้านและมีงบประมาณอยู่แล้ว จะเหลือเพียงหากมีแบบบ้านที่เหมาะสมและมีความเชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจก็จะพร้อมสร้างบ้านของตนเอง อย่างไรก็ตามกระบวนการตัดสินใจสร้างบ้านต้องใช้ระยะเวลา 4-6 เดือน ทำให้คาดว่าน่าจะส่งผลดีต่อตลาดรับสร้างบ้านในครึ่งปีหลัง ซึ่งปัจจุบันจำนวนบ้านสร้างเองในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลมี 20,000 หลัง เฉลี่ยหลังละประมาณ 2 ล้านบาท  รวมมูลค่าประมาณ 40,000 ล้านบาท ซึ่งในส่วนของบริษัทรับสร้างบ้านมีส่วนแบ่งในตลาดเพียง 15% ทำให้ยังมีโอกาสในการสร้างความเติบโตทางธุรกิจได้

An image

ส่วนราคารับสร้างบ้านในปีนี้เชื่อว่ายังไม่ขยับขึ้น เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยมากระทบ แต่คาดว่าในปี 2561 ราคาน่าจะขยับไม่เกิน 5% เนื่องจากเกิดการลงทุนโครงการต่างๆของภาครัฐ ซึ่งจะส่งผลต่อความต้องใช้วัสดุก่อสร้างภายในประเทศ รวมถึงแรงงานที่จะไหลไปยังงานก่อสร้างภาครัฐจำนวนมาก แต่ในส่วนของบริษัทฯขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบเพราะแรงไทยสัดส่วน 70% ยังเป็นคนไทย

 

สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้  บริษัทฯเน้นการทำตลาดเชิงรุกมากขึ้น หลังจากที่มีการปรับสร้างแบรนด์ ” AYB RESORTHOUSE” เมื่อปี 2559 ที่ผ่านมาให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นและมีความเข้าใจในคอนเซ็ปต์และสไตล์บ้านที่บริษัทพัฒนาขึ้นมากที่เน้นในรูปแบบบ้านสไตล์รีสอร์ท ปัจจุบันมีทั้งหมด 4 กลุ่ม จาก 60 แบบ และจะเฉพาะตลาดกรุงเทพฯ-ปริมณฑล สัดส่วน 60% และต่างจังหวัดโดยรอบกทม.สัดส่วน 40% แต่ในปี 2561 จะปรับสัดส่วนทั้ง 2 กลุ่มให้อยู่ในระดับที่เท่ากันคือ 50:50 ทั้งนี้เพราะบริษัทฯต้องการที่จะสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รับรู้ในกลุ่มลูกค้าที่อยู่จังหวัดใกล้เคียงกทม.ก่อน และยังไม่มีแผนที่จะไปรับงานยังประเทศเพื่อนบ้านแต่อย่างใด เพราะมองว่าการขยายตัวที่มากเกินกำลังและทีมงานไม่รองรับจะส่งผลให้เกิดปัญหาตามมาอย่างแน่นอน

 

นายธีร์ กล่าวถึงส่วนความคืบหน้าที่ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อศาลปกครองเมื่อต้นปี 2560 เพื่อขอความคุ้มครองชั่วคราวในการให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.)ทบทวนข้อความรายละเอียด “บี.โอ.คิว.” หรือ B.O.Q.-Bill of Quantity (บัญชีแจกแจงรายการ ปริมาณ ค่าวัสดุ ค่าแรง และค่าดำเนินการ )ล่าสุดทางสคบ.ได้ขอขยายระยะเวลาในการส่งรายละเอียดต่อศาลปกครองเป็นครั้งที่ 2 จากเดิมครบกำหนดในวันที่ 29 เมษายน 2560 เป็นวันที่ 28 พฤษภาคม 2560 ซึ่งบริษัทก็ต้องปรับตัวเพื่อรับกับเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน

 

ในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ายอดรายได้รวมไว้ที่ 180 ล้านบาท จากลูกค้าที่จะสามารถดีลได้ประมาณ 15 หลัง คิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 15% จากปี 2559 ที่มีรายได้ 167 ล้านบาท จากการสร้างบ้าน 15 หลัง โดยยอดขายกว่า 50% มาจากกลุ่มเอวายบี รีสอร์ทเฮาส์  และขณะนี้ทางบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้าในการตัดสินใจสร้างบ้านมูลค่าประมาณ 80-90 ล้านบาท