An image

เจ.เอส.พี.ฯเผยแม้ต้นปี60 เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว แต่ไตรมาส1ฟันยอดขาย1,090 ล้านบาท จากกำลังซื้อที่คืนตลาด เดินหน้ารุกผุดที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท กทม.-ปริมณฑล-ตจว.7โครงการ มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท หวังขยายฐายลูกค้าครอบคลุม ตั้งเป้าสิ้นปีกวาดรายได้รวมแตะ 5,000 ล้านบาท โตไม่ต่ำกว่า 20%

 

นายไพโรจน์ วัฒนวโรดม กรรมการผู้จัดการบริษัท เจ.เอส.พี.แอสพลัส จำกัด และรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน)หรือJSP เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กรุงเทพ-ปริมณฑล ในช่วงต้นปี 2560 พบว่าเศรษฐกิจยังค่อนข้างชะลอตัว แต่ก็ยังมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอยู่บ้าง และยังคงไปได้ต่อ โดยเห็นได้จากผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส1/2560 ที่ผ่านมาของเจ.เอส.พี. นั้น สามารถทำยอดขายได้อยู่ที่ 1,090 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าที่คาดการณ์ไว้  โดยปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลกำไรไตรมาสแรกปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจากการทยอยรับรู้รายได้จากยอดขายที่รอโอนกรรมสิทธิ์เข้ามาอย่างต่อเนื่องของในช่วงปลายปีที่แล้ว อีกทั้งกำลังซื้อของผู้บริโภคเริ่มกลับมาจึงส่งผลให้ในไตรมาสแรกของปี บริษัทฯสามารถกวาดรายได้อย่างงดงาม

 

ในช่วงไตรมาส 1/2560 บริษัทฯ มีรายได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวมประมาณ 524 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทฯ มียอดรับรู้รายได้ในมือกว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ภายในปีนี้ราว 3,000 ล้านบาท และส่วนที่เหลืออีกราว 1,000 ล้านบาทนั้นจะทยอยรับรู้ในต้นปี 2561  จึงทำให้บริษัทฯ เชื่อว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2560 นี้ จะเห็นภาพการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอีก ในขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้ทยอยเปิดโครงการแนวราบ ซึ่งจะดำเนินการพรีเซลและโอนกรรมสิทธิ์ค่อนข้างเร็ว เนื่องจากโครงการฯ ส่วนใหญ่ที่เปิดใหม่เป็นโครงการแนวราบ ซึ่งหากสร้างบ้านเสร็จก็สามารถโอนได้ทันที ทำให้บริษัทฯ สามารถประเมินยอดโอนในไตรมาส 2/2560 ได้ล่วงหน้า

 

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมุ่งพัฒนาที่อยู่อาศัยในกลุ่มราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาท เนื่องจากเป็นฐานกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ โดยจะเน้นพัฒนาโครงการในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑลเป็นหลักในสัดส่วน 80% และ ต่างจังหวัดอีก 20% ปัจจุบันจึงได้ทำการพัฒนา 22 โครงการ และ 16 ทำเล เพื่อเพิ่มความหลากหลายของที่อยู่อาศัย ให้สามารถตอบสนอง และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ภายใต้มาตรฐาน  J ID  หรือ J Intelligent Design ในปีนี้จึงมีแผนที่จะเปิดตัวใหม่อีกประมาณ 7 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการเจ แกรนด์ สาทร-กัลปพฤกษ์ ,โครงการเจ ซิตี้ รัตนาธิเบศร์-บางบัวทอง, โครงการเจ วิลล่า วงแหวนบางใหญ่, โครงการเจ แกรนด์ สาทร-กัลปพฤกษ์, โครงการเจ ซิตี้ อัสสัมชัญ-ศรีราชา, เจ คอนโด บางเสร่ และโครงการย่านพระราม 4

 

อย่างไรก็ตามในปีนี้คาดว่าจะมียอดโอน (Transfers) อยู่ที่จำนวน 5,067 ล้านบาท ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มียอดโอนอยู่ที่ 3,050 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็นโครงการบ้านเดี่ยว จำนวน 3,142 ล้านบาท หรือคิดเป็น 62% โครงการคอนโดมิเนียม จำนวน 940 ล้านบาท หรือคิดเป็น 19% และโครงการอาคารพาณิชย์ จำนวน 985 ล้านบาท หรือคิดเป็น 19%”

 

ในปีนี้เจ.เอส.พี. ยังคงเน้นกลยุทธ์การบริหารสต็อกสินค้า เพิ่มยอดขาย และเร่งโอน พร้อมเน้นโครงการที่เปิดแล้ว ภายใต้คอนเซปต์สินค้า “ทำเลดี ราคาเป็นมิตร” มั่นใจปี2560 บริษัทฯ จะทำรายได้ถึง 5,000 ล้านบาท หรือเติบโตว่า 20% จากปีก่อน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*