อสังหาฯหลายค่ายแห่รีโมเดลธุรกิจรับมือผู้บริโภคยุคใหม่ สินค้าต้องดี –บริการต้องเป๊ะ ตอบทุกโจทย์ความต้องการตั้งแต่เริ่มหาที่พักอาศัย รวมไปจนถึงบริการย้ายเข้า-ออก และให้บริการด้านการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ตั้งแต่ทำความสะอาดยันถึงงานซ่อมบำรุง

 

ยุคแห่งเทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามามีอิทธิพลในทางธุรกิจซึ่งก็รวมถึงภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้านที่อยู่อาศัยที่ปัจจุบันแทบจะทุกค่ายต่างขับเคลื่อนที่อยู่อาศัยด้วยนวัตกรรมเสริมสร้างศักยภาพ พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆรวมถึงแตกธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้องเปิดช่องทางสร้างรายได้ใหม่ โดยที่ผ่านมาบิ๊กแบรนด์อสังหาฯ ลงทุนหรือขยายบริการครบเครื่องผ่านบริษัทในเครือทั้ง ฝากซื้อ  ฝากขาย ฝากเช่า ฯลฯ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าไม่ว่าจะเป็น อนันดา ,แสนสิริ ,เอพี(ไทยแลนด์),แอล.พี.เอ็น. รวมถึงพฤกษา ที่ได้มีการจัดตั้งทีมงาน”โฮมแคร์เซอร์วิส”เพื่อดูแลลูกบ้านของพฤกษาฯหลังจากที่เปิดโครงการ เป็นต้น

 

“จากการศึกษาโครงสร้างธุรกิจฝากขาย – ให้เช่าในประเทศไทย พบว่าช่องว่างคือการสร้างความมั่นใจ และความน่าเชื่อถือของกลุ่มลูกค้า และบริการหลังการขาย ซึ่งถือเป็นอีกแรงขับเคลื่อนสำคัญของวงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์”  อัษฏา แก้วเขียว รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือMQDC กล่าวดังนั้น MQDC จึงปรับแผนงานและโครงสร้างทางธุรกิจ เพื่อสอดคล้องกับความต้องการด้วยการจัดตั้ง บริษัท ดิ เอสเตท (ไทยแลนด์) จำกัด ที่ครอบคลุมทุกด้านในการอยู่อาศัย การลงทุน และการใช้ชีวิต โดยให้บริการและคำแนะนำตั้งแต่ก่อนขาย หลังการขาย ไปจนถึงดูแลให้คำปรึกษาลูกค้าในทุกโครงการอสังหาฯภายใต้ MQDC ตั้งเป้าปีแรกที่เปิดดำเนินการจะมีลูกค้าที่มาใช้บริการคิดเป็นยอดขายกว่า 1,000 ล้านบาทและในอนาคตจะขยายไปตลาดต่างประเทศอีกด้วย

 

ส่วนบมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จับมือบริษัแอคคิวท์ เรียลตี้เสริมทัพเข้าถือหุ้นบริษัทลูก ลีฟวิ่ง เอเจ้นท์ เพิ่มความแกร่งให้ธุรกิจนายหน้าอสังหาฯครบวงจรผ่านแอพพลิเคชั่น“ 360Living-Agent” เน้นสร้างโปรโมชั่นน่าสนใจตอบโจทย์ลูกค้ารายย่อย –นักลงทุน ตั้งเป้ายอดขายปีแรก 750 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15% ของยอดโอนของเสนาฯ  4,000-5,000 ล้านบาท

 

บมจ.เอสซี แอสเสท ที่ประกาศขับเคลื่อนธุรกิจด้วยการวางยุทธศาสตร์4.0การใช้นวัตกรรมผสมผสานกันเพื่อพัฒนาโปรดักส์และบริการภายใต้แนวคิด “Human Centric”ลุยลงทุนร่วมกับ “ฟิกซิ” กลุ่ม Startup เปิดบริษัทใหม่ “เอสซี เอเบิล”ต่อยอดธุรกิจตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มด้วย Total Solution หวังยกระดับมาตรฐานบริการหลังการขายของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทยภายใต้สโลแกน “Your Home in Good Hands – มือโปรของทุกบ้าน”

 

บมจ.เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ที่ประกาศแผนธุรกิจครึ่งหลังปี 2560 ซึ่งนอกจากจะรุกตลาดไฮเอนด์ ขยายพอร์ตกว่าหมื่นห้าพันล้านบาท ยังตอบโจทย์ทุกความต้องการธุรกิจอสังหาฯจึงได้ทำการขยายกลุ่มบริษัทในเครือขึ้นอีกสี่บริษัท เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการทุกด้านของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งหนึ่งในสี่บริษัทคือบริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลแทนท์หรือMDC ที่ปรึกษาด้านการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แก่ลูกค้าด้วยเช่นกัน

 

ขณะที่บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ได้วางวิสัยทัศน์ใหม่เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ด้วยการมุ่งเป้าเป็น “Your Digital Butler” เพื่อหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องนวัตกรรมและการบริการหลังการขาย มาเป็นปัจจัยที่ 4 และปัจจัยที่ 5 ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยยุค “Digital Life Attitude”ด้วยการจับมือกับบริษัท บางกอก สมาร์ทการ์ด ซิสเท็ม จำกัด (บีเอสเอส) ผู้ให้บริการบัตรแรบบิท จัดทำบัตร ORIGIN Family Club Card ใช้บัตรเพียงใบเดียวเข้าได้ทั้งคอนโดมิเนียมและรถไฟฟ้าบีทีเอส พร้อมได้รับทั้งแต้มของบริษัทและแต้มของแรบบิทสำหรับใช้รับสิทธิพิเศษต่างๆ

 

การชูบริการหลังการขายแบบพร้อมเสิร์ฟด้วยความรวดเร็ว ตรงตามความต้องการที่พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลในทุกขั้นตอน จะเป็นยุทธศาสตร์ส่งเสริมการขายทางอ้อมของผู้ประกอบการอสังหาฯ กล่าวได้ว่าในยุคที่ทุกกำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เกมรุกต่างๆที่เกิดขึ้น ก็เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายในการเติมเต็มธุรกิจให้มีความหลากหลายในแง่ธุรกิจอสังหาฯที่ครบวงจร

[ubmbanner = “extrabanner_01”]

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*