ทายาทรุ่น3 อาร์เค กรุ๊ป ลงขันกลุ่มเพื่อนวงการอสังหาฯ ผุดคอนโดฯแบรนด์ “MAXXI Condo”มูลค่า 450 ล้านบาทสนองดีมานด์ย่านพหลโยธิน พร้อมเปิดพรีเซล 24-25 มิ.ย.60 นี้ อัดโปรโมชั่นเร้าใจ นำห้องขนาด 22 ตารางเมตร ขายเพียง 9.99 แสนบาท 2 รางวัล คาดปิดจ็อบภายใน 6 เดือน เตรียมรุกคืบเข้ากลางเมือง สนซื้อที่ดิน 2 แปลง ผุดคอนโดฯต่อ ทั้งจ่อขยายแนวราบระดับลักชัวรี่ 10 ล้านบาทขึ้นไป

 

นายวรวุฒิ  กิตติอุดม ประธานกรรมการบริหาร และผู้อำนวยการสายการเงินบริษัท อาร์เค พลัส เอสเตท จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2560 นี้ว่าแม้จะไม่หวือหวามากนัก ด้วยเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและปัญหาหนี้เสียรวมถึงปัญหาการปฎิเสธการอนุมัติเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารที่ค่อนข้างสูง แต่มองว่าดีมานด์ก็ยังมีกำลังซื้อ แต่สินค้าที่พัฒนาต้องตอบโจทย์ ซึ่งบริษัทฯได้ทำการศึกษาตลาดมาเป็นอย่างดีเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้มากที่สุด โดยยึดหลักสร้างบ้านให้เหมือนกับมาอยู่อาศัยเอง ทำอย่างดีที่สุดจากใจ

จากประสบการณ์ในฐานะทายาทรุ่นที่3 ของกลุ่มอาร์เค กรุ๊ป ที่พัฒนาโครงการอสังหาฯในกทม.โซนตะวันออกมาประมาณ 40 ปี โดยตนช่วยครอบครัวร่วมพัฒนาโครงการมาประมาณ 15 ปี จึงอยากแยกตัวมาพัฒนาโครงการของตนเองและจากการที่คุยกับเพื่อนๆในแวดวงอสังหาฯและก่อสร้าง พบว่าทุกคนมีแนวความคิดเดียวกันที่ต้องการพัฒนาโครงการที่แปลกใหม่และแรง เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า โดยเน้นโครงการระดับพรีเมี่ยมและใช้วัสดุก่อสร้างเกรดเอ ไม่หวังผลกำไรมาก  จึงได้ก่อตั้งบริษัท อาร์เค พลัส เอสเตท จำกัด ขึ้นมาเมื่อปี2559 ที่ผ่านมา ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท(ชำระเต็ม)

โดยเริ่มจากการพัฒนาโครงการ MAXXI Condo ( แมกซ์ซี่ คอนโด ) รัชโยธิน-พหลฯ34ภายใต้แนวคิดการออกแบบด้วยคอนเซ็ปต์ LIVE IT TO THE MAX  ตั้งอยู่บนพื้นที่ 2 ไร่เศษ ในรูปแบบของคอนโดฯโลว์ไรส์ สูง 8 ชั้น ขนาด 22-37 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 1.29-2.6ล้านบาทจำนวน 249 ยูนิต มูลค่าโครงการ 450 ล้านบาท โดยเริ่มเปิดพรีเซลวันที่ 24-25 มิถุนายน 2560 นี้ และพิเศษสุดในวัน Pre-Sale จะมีการจับฉลาก ห้องโปรโมชั่น ขนาด 22 ตารางเมตร จำนวน 2 รางวัล ราคาเพียง 9.99 แสนบาท โดยผู้สนใจสามารถเข้าร่วมลุ้นราคาห้องโปรโมชั่นกันได้ ใน 2 วันดังกล่าว(จับฉลากวันละ 1 ห้อง)ซึ่งได้มอบหมายให้บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นผู้บริหารงานขาย ขณะนี้มีผู้สนใจลงทะเบียนจองแล้วประมาณ 1,500 ราย คาดว่าภายในระยะเวลา 2 วัน จะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 40-50% และปิดการขายภายในระยะเวลา 6 เดือน

 

โครงการนี้เกิดจากการรวมกลุ่มของเพื่อนๆ นักธุรกิจที่เป็นคนรุ่นใหม่มีความชอบและทัศนคติที่เหมือนกัน คือ อยากจะสร้างคอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ที่เน้นความทันสมัย เน้นภาพลักษณ์มาก่อนเรื่องตัวเลข  ซึ่งหุ้นส่วนแต่ละคนต่างมีความเชี่ยวชาญในแต่ละสาขา ไม่ว่าจะงานก่อสร้าง การเงิน การตลาด การขายและการประชาสัมพันธ์ จึงได้นำความชำนาญ ความได้เปรียบดังกล่าวมาสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านการสร้างที่อยู่อาศัย จึงได้เกิดแนวคิดในการสร้างคอนโดมิเนียมแห่งแรกของบริษัท คือ MAXXI Condo ( แมกซ์ซี่ คอนโด ) รัชโยธิน-พหลฯ34 กับแนวคิดการออกแบบด้วยคอนเซ็ปต์ LIVE IT TO THE MAX อีกทั้งโครงการนี้ยังได้รับการสนับสนุนและช่วยเหลือจากกลุ่มพี่น้องที่อบรมRE-CU และ The Next Real ด้วยดีในทุกเรื่อง แล้วแต่ความชำนาญของแต่ละคน

 

แนวทางการพัฒนาของตนและเพื่อนๆจะเน้นทำเลใกล้แนวรถไฟฟ้าที่เริ่มมีการดำเนินก่อสร้างแล้ว และจะไม่พัฒนาโครงการที่เกินขีดความสามารถ คือเน้นโครงการโลว์ไรส์ ที่สามารถปิดการขายได้เร็ว และง่ายต่อการบริหารสภาพคล่อง มูลค่าโครงการประมาณ 500-1,000 ล้านบาท โดยทำเลที่จะเข้าไปลงทุนต้องมีเรียลดีมานด์ด้วย อย่างทำเลที่ตั้งแมกซ์ซี่ คอนโด นั้น ถือว่าอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว(หมอชิต-สะพานใหม่) ที่สามารถเชื่อมต่อไปได้อีกหลายเส้นทางที่สามารถเดินทางเข้าไปย่านใจกลางเมืองได้ โดยปัจจุบันราคาที่ดินในย่านดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 150,000-160,000 บาท/ตารางวา และราคาปล่อยเช่าอยู่ที่ประมาณ 8,000-12,000 บาท/เดือน

โดยชื่อโครงการ MAXXI นั้นเน้นความ MAX หมายถึงการจัดเต็มในทุกด้าน โดยทีม อาร์เค พลัส สรรสร้างโครงการที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของชีวิต ออกแบบโครงการสไตล์ Modern & Affordable Luxury มีเอกลักษณ์ เท่ โมเดิร์น แต่แฝงไปด้วยความหรูหรา ไม่ว่าจะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกสบายในคอนเซปต์CO HAPPY SPACE ซึ่งมีทั้งสระว่ายน้ำสีม่วง Amethyst สดใสพร้อมระบบ Jet System สามารถว่ายน้ำในระยะทางไร้ขีดจำกัด เพิ่มความท้าทายในการออกกำลังกาย Fitness with  Boxing corner , Co – kitchen space , Co – working space , Library corner , Play zone พิเศษที่สุดกับการจัดเตรียมระบบ ซึ่งปกติไม่มีในคอนโดระดับราคานี้ อาทิเช่น Digital Door lock , ระบบ Home automation with universal remote สั่งได้ด้วยปลายนิ้ว , Double security : CCTV , RFID Access (Easy Pass ไม่ต้องเปิดกระจกรถ) & Finger Scan ก่อนเข้า Residential area ด้าน Room Layout สามารถใช้ประโยชน์ได้จริงทุกตารางนิ้ว ด้วยราคาที่คนรุ่นใหม่จับต้องได้ โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลัก คือกลุ่มคนทำงาน อายุ 27 ปี ขึ้นไป กลุ่มเป้าหมายรอง คือ นักศึกษา ม.เกษตร , ม.ศรีปทุมฯ และใกล้เคียง  รวมไปถึงกลุ่มนักลงทุนที่เล็งเห็นศักยภาพในทำเลนี้ด้วย

“การที่เราเลือกลูกค้าที่เป็นเรียลดีมานด์เป็นกลัก บวกกับมีการคัดกรองลูกค้าในเบื้องต้น และวางดาวน์ 15% จึงมั่นใจว่ายอดReject จะต่ำกว่าโครงการอื่นๆอย่างแน่นอน”นายวรวุฒิ กล่าว

นายวรวุฒิ กล่าวต่ออีกว่าสำหรับแผนการดำเนินการในช่วง3-5 ปี บริษัทฯจะพยายามพัฒนาโปรเจกต์ใหม่ที่ใหญ่ขึ้นและหลากหลาย โดยรุกใกล้เข้าพื้นที่ย่านใจกลางเมืองมากขึ้น ซึ่งอาจรวมไปถึงการพัฒนาแนวราบระดับลักชัวรี่ ราคา 10 ล้านบาทด้วย เพราะโครงแนวราบจะได้เรื่อง Cash flow เข้ามาค่อนข้างเร็ว รวมไปถึงการเข้าเทกโอเวอร์โครงการด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส แต่การลงทุนหลักยังคงเน้นไปที่คอนโดฯ

 

อย่างไรก็ตามในครึ่งปีหลัง บริษัทฯ มีแผนซื้อที่ดิน เพื่อพัฒนาโครงการต่อไป ซึ่งสนใจที่ดินทำเลรัชดาภิเษกและย่านอารีย์ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจาซื้อที่ดิน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*