“ศุภาลัย” จ่อเปิดโครงการใหม่ครึ่งหลังปี 60 อีก 22 โครงการรวมมูลค่ากว่า 2.1 หมื่นล้านบาท ล่าสุดเปิดตัวคอนโดฯ “ศุภาลัย เวอเรนด้า สถานีภาษีเจริญ”มูลค่า 4,400 ล้านบาท ชูจุดขายทำเล -ราคาถูกกว่าคู่แข่งในพื้นที่ พร้อมเผยผลประกอบการครึ่งแรกของปีนี้ที่กว่า 1.33 หมื่นล้านบาทเติบโต 29%

 

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด(มหาชน)หรือ SPALI เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งหลังปี2560 บริษัทฯมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่รวม 22 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 21,540 ล้านบาท แบ่งเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ 18 โครงการ และ คอนโดมิเนียม จำนวน 4 โครงการ ระดับราคาขาย 60,000-100,000 บาท  โดยแผนเปิดตัวโครงการใหม่ยังคงเป็นไปตามแผนทั้งปีที่เปิดโครงการใหม่รวม 27 โครงการ แบ่งเป็นแนวราบ 22 โครงการ รวมมูลค่า 17,130 ล้านบาท และ คอนโดมิเนียม 5 โครงการ รวมมูลค่า 19,950 ล้านบาท ซึ่งครึ่งปีแรกเปิดไปแล้ว 5 โครงการ รวมมูลค่า 15,540 ล้านบาท

 ศุภาลัย เวอเรนด้า สถานีภาษีเจริญ พัฒนาโครงการภายใต้คอนเซปต์ Convenience of Life #ชีวิตติดสบาย ติดถนนเพชรเกษม เดินทางไปยังเส้นทางต่างๆ ได้ง่ายดาย ทั้งถนนราชพฤกษ์ ถนนกาญจนาภิเษก  และถนนบรมราชชนนี  อีกทั้งใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน สถานีภาษีเจริญ เพียง 150 เมตร

 

ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวโครงการศุภาลัย เวอเรนด้า สถานีภาษีเจริญเป็นโครงการคอนโดมิเนียมบนพื้นที่กว่า 10 ไร่ ติดถนนเพชรเกษม จำนวน 1 อาคาร 2 ทาวเวอร์ แบ่งเป็นทาวเวอร์เอ สูง 34 ชั้น และ ทาวเวอร์บี สูง 30 ชั้น รวม 1,802 ยูนิต ร้านค้า 8 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยเริ่ม 28-69.5 ตารางเมตร หรือตร.ม แบ่งเป็นห้องชุดสตูดิโอ 28-33 ตร.ม. คิดเป็นสัดส่วน 29% ราคาขาย1.5 ล้านบาทต่อยูนิต ห้องชุดประเภท 1 ห้องนอนพื้นที่ใช้สอย 35-47.5 ตร.ม.คิดเป็นสัดส่วน 60% ราคาขาย 1.86 ล้านบาทต่อยูนิตและห้องชุดประเภท 2 ห้องนอน ขนาดพื้นที่ใช้สอย 51-69.5 ตร.ม.คิดเป็นสัดส่วน 11% ราคาขาย 2.71 ล้านบาท โดยราคาขายเฉลี่ยกว่า 60,000 บาท ต่อตร.ม.รวมมูลค่าโครงการกว่า 4,400 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่าจะมีการโอนกรรมสิทธิ์ได้ในอีก 3 ปีข้างหน้าหรือในปี 2563 อย่างไรก็ตามบริษัทมีแผนเปิดให้จองอย่างเป็นทางการในวันที่ 5-6 สิงหาคมนี้  ณ ปัจจุบันมีผู้ที่สนใจลงทะเบียนผ่านออนไลน์มาเกือบ 1,500 ราย

 

จุดขายโครงการนอกจากศักยภาพทำเลที่ตั้งแล้ว ระดับราคาขายยังถูกกว่าคู่แข่งในพื้นที่ โดยโซนภาษีเจริญมีโครงการเปิดใหม่ 3-4 โครงการระดับราคาขายอยู่ที่ 80,000-100,000 บาทต่อตร.ม. มีห้องชุดรวมกว่า 4,000 ยูนิต ปัจจุบันมียอดขายเฉลี่ยกว่า 70-80% ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินมีความคืบหน้าด้านการก่อสร้างและผู้บริโภคต้องการอยู่อาศัยติดแนวรถไฟฟ้า ทั้งนี้ ยังมีผู้ประกอบการที่จะเปิดโครงการใหม่ในทำเลดังกล่าวด้วยเช่นกัน

 

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี2560 มียอดขายที่ 13,344 ล้านบาท เติบโต 29% แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการแนวราบ 8,154 ล้านบาท และคอนโดฯ5,190 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มียอดขาย 10,355 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 6,732 ล้านบาท และคอนโดฯ 3,623 ล้านบาท และมั่นใจสิ้นปีทำยอดขายได้ตามเป้าที่ 27,000 ล้านบาท เติบโต 12%  ส่วนยอดขายรอรับรู้รายได้มีอยู่ประมาณ 40,000 ล้านบาททยอยโอนและรับรู้ถึงปี 2563 และในปีนี้จะรับรู้รายได้ที่ 13,000-14,000 ล้านบาท