กลุ่มชาญอิสสระฯเผยอสังหาฯครึ่งปีหลัง ตลาดลักชัวรี่ยังขายได้ดี  พร้อม เตรียมเปิดรร. “บาบา บีช คลับ หัวหิน”ตุลาคมนี้พร้อมนำที่ดิน 10 ไร่ด้านหน้าโครงการ“ทิวทะเล”ปั้นจุดแวะพัก-ปั๊มน้ำมันสวยที่สุดในเอเชีย

 

นายดิฐวัฒน์ อิสสระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ร่วมอิสสระ จำกัด ในเครือบริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด(มหาชน) หรือCI เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯครึ่งปีหลัง2560ว่า ที่อยู่อาศัยลักชัวรี่ยังได้รับการตอบรับดีทั้งตลาดในกทม.และต่างจังหวัดหัวเมืองท่องเที่ยว  โดยโครงการ อิสสระ เรสซิเดนซ์ พระราม9 ซึ่งบ้านตัวอย่างยังไม่แล้วเสร็จ แต่สามารถทำยอดขายแล้ว 5 หลัง จากทั้งหมด 20 หลัง ราคา 89-132ล้านบาท ส่วนตลาดที่อยู่อาศัยที่เน้นกลุ่มลูกค้าระดับBและC หรือระดับกลาง-ล่าง การแข่งขันค่อนข้างสูง และมีปัญหาสถาบันการเงินปล่อยกู้สินเชื่อยาก เพราะมียอดReject มาก

ล่าสุด บริษัทฯแผนที่จะพัฒนาที่ดินประมาณ 10 ไร่จากทั้งหมด 20 ไร่ บริเวณด้านหน้าโครงการทิวทะเล ชะอำ มาพัฒนาพื้นที่ค้าปลีกในรูปแบบจุดแวะพักและปั๊มน้ำมันที่สวยที่สุดในเอเชีย ขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในปี 2561 และแล้วเสร็จภายใน 1 ปี

สำหรับคอนโดฯของบริษัทฯที่ชะอำขณะนี้ยังเปิดขายคือโครงการทิวทะเล ทั้ง 3 เฟส ซึ่งพัฒนาในนามบริษัท ร่วมอิสสระ จำกัด ได้แก่ เฟส1บ้านทิวทะเล อความารีน มียอดขายแล้ว 95% เฟส2 บ้านทิวทะเล  บลูแซฟไฟร์ มียอดขาย 70% และเฟส3 บลู มียอดขาย 45% โดยลูกค้าสัดส่วน 60-70% เป็นการซื้อด้วยเงินสด และสัดส่วน90% เป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยมาพักผ่อนในช่วงวันหยุด โดยไม่มีการปล่อยเช่าแต่อย่างใด และด้วยราคาสินค้าของบริษัททุกโครงการจะเน้นลูกค้าระดับกลาง-บน จึงไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องยอดReject จะมีก็เพียงโครงการ อิซซี่ คอนโด สุขสวัสดิ์ เท่านั้น ที่เป็นคอนโดฯราคา 1.69-5.1 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 90% จะประสบปัญหาไม่ผ่านการพิจารณาสินเชื่อจากสถาบันการเงินในสัดส่วนไม่ถึง 10%

 

ด้านโรงแรมบาบา บีช คลับ หัวหิน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้างจำนวน 18 ห้องพัก โดยจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในเฟสแรกนี้ภายในเดือนตุลาคม 2560นี้ ซึ่งราคาจะอยู่ที่ 12,000-22,000 บาท/คืน ส่วนพูลวิลล่าริมหาด “บาบาบีช คลับ เรสซิเดนซ์”จำนวน 11 หลัง  ที่เปิดขายราคา 43.4-83 ล้านบาท  ขณะนี้มียอดขายแล้ว 5 หลัง ทั้งนี้เมื่อขายหมดทั้ง 11 หลัง ลูกค้าสามารถเข้าโปรแกรมบริหารการเช่ากับทางโรงแรมได้

 

นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมก่อสร้างในส่วนของโรงแรมเพิ่มเติมในรูปแบบของอาคารสูง 11 ชั้นๆละ 6 ห้องพัก รวม 66 ห้อง ขณะนี้อยู่ในระหว่างการออกแบบ แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

 

ทั้งนี้จากการสำรวจของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) พบว่า ณ ไตรมาส3/2559 อัตราการดูดซับของคอนโดฯในทำเลชะอำอยู่ที่ 6.9% โดยมีซัพพลายเหลือขายจำนวน 3,314 ยูนิต คิดเป็น 26% ของซัพพลายตลาดรอนโดฯทั้งชะอำที่มีทั้งหมด 12,500 ยูนิต โดยอัตราดูดซับสูงสุดคือ อาคารชุดระดับราคา 1.5-2 ล้านบาท มีอัตราดูดซับ 13.7% สูงกว่าปี2558 ที่มีอัตราการดูดซับ 11.3% รองลงมาคือระดับราคา 1-1.5 ล้านบาท อัตราดูดซับ 13.4% และระดับราคา 2-3 ล้านบาท อัตราดูดซับที่8.7%

 

ขณะที่การโอนกรรมสิทธิ์คอนโดฯทั้งจ.เพชรบุรี ในไตรมาส1/2560 มีจำนวน 247 ยูนิต เติบโต39% โดยมีมูลค่า 763 ล้านบาท เติบโต78% จากช่วงเดียวของปี2559

 

ด้านนายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและพัฒนา คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย)จำกัดกล่าวว่า ในครึ่งปีแรกไม่มีการเปิดขายโครงการในทำเลชะอำ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการเปิดขายเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้ประกอบการชะลอการเปิดตัว

 

** prop2morrow โดย คุณวาสนา กลั่นประเสริฐ  เบอร์โทร.02-632-0645 E-mail : was_am999@yahoo.com