ทีมงาน prop2morrow.com สำรวจความเคลื่อนไหวการเปิดตัวคอนโดมิเนียมในช่วงเดือนกันยายน 2560 พบ 7 บริษัททั้งในตลาดหลักทรัพย์และนอกตลาดหลักทรัพย์ฯเฮโลเปิดตัวโครงการใหม่จำนวนกว่า 10 โครงการจำนวนกว่า 5,839 ยูนิตรวมมูลค่ากว่า 32,000 ล้านบาท ทุกโครงการมุ่งเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าคนเมืองอย่างต่อเนื่อง

 

โดยบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)  เตรียมเปิดตัว 3 โครงการใหม่ จำนวน 1,124 ยูนิต มูลค่ากว่า 8,300      ล้านบาท  ภายใต้แบรนด์ ไอดีโอ โมบิ  (Mobi) ได้แก่ โครงการไอดีโอ โมบิ พระราม 4 โครงการไอดีโอ โมบิ รางน้ำ และ โครงการไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท 40 นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกของโครงการคอนโดมิเนียมกับนวัตกรรม Solar Fresh air system ที่นำมาใช้ในทุกยูนิต  ราคาเริ่มต้น 4.49 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ายอดขาย 60% ดังนี้

 

โครงการ ไอดีโอ โมบิ พระราม 4  คอนโด High Rise 36 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 486 ยูนิต บนทำเลศักยภาพ ติดถนนพระราม 4 เพียง 0 เมตร จาก MRT คลองเตย และ 50 เมตร จากทางด่วนเฉลิมมหานคร ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว มูลค่าโครงการ 4,054 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท*  โครงการ ไอดีโอ โมบิ รางน้ำ คอนโด High Rise 31 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 366 ยูนิต ในซอยรางน้ำ บนทำเลศักยภาพ ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ประมาณ 630 เมตร มูลค่าโครงการ 2,353 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 4.49ล้านบาท* และโครงการ ไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท 40 คอนโด Low-Rise 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 272 ยูนิต บนทำเลศักยภาพโซนสุขุมวิท ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีทองหล่อเพียง 660 ม. และ 1.2 กม. จากทางด่วนเฉลิมมหานคร มูลค่าโครงการ 1,886 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 4.49 ล้านบาท*

 

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์ ) จำกัด (มหาชน)หรือ AP หลังจากประสบความสำเร็จกับ 2 คอนโดฯที่เป็นโครงการร่วมทุนทั้งที่ลาดพร้าว และวิทยุ แล้วAPเตรียมเปิด 1 คอนโดไฮไลท์คือ Life Asoke-Rama9 จำนวนกว่า 2,240 ยูนิตมูลค่าประมาณ9,000 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนในวันพุธที่13 กันยายนนี้

 

บริษัทแอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ หรือ LPN ได้เตรียมโครงการใหม่ Lumpini Park พหล 32 ก่ความเคลื่อนไหวล่าสุดแอล.พี.เอ็น.มีการปรับเปลี่ยนแบบและรายละเอียดโครงการเป็นการพัฒนาอาคารสูง30 ชั้น จำนวน 546 ยูนิตขนาดพื้นที่ใช้สอย 24-42 ตร.ม. มูลค่าของโครงการ ประมาณ 1,900-2,000 ล้านบาท ซึ่งจะแถลงข่าววันจันทร์ที่ 25 กันยายนนี้

 

บริษัทศุภาลัย จำกัด(มหาชน) ในวันพรุ่งนี้ (5 กันยายน)จะแถลงข่าวเปิดโครงการใหม่อีก 3 โครงการรวมจำนวน1,729 ยูนิตที่ สามแยกไฟฉาย, ตลาดพลู, เจริญนคร ใกล้ Icon Siam มูลค่ารวมกันประมาณ 5,770ล้านบาท

และในวันที่ 6 กันยายน 2560  กลุ่มนายวิวัฒน์ พิภักดิ์สมุทร แถลงข่าวร่วมทุนกับนายคำ ไฟ ดักลาส เฉิง กลุ่มทุนจีนฮ่องกง ด้วยการตั้งบริษัท 888 ทองหล่อ จำกัด ขึ้นมาเพื่อพัฒนาโครงการ “นิวาติ” (NIVATI)คอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้นภายใต้ Concept “Elegant Classic Contemporary” ดีไซน์สไตล์ Beaux Arts ย่านทองหล่อมีมูลค่าโครงการประมาณ 1,600 ล้านบาท

ขณะที่บริษัทแสนสิริ จำกัด(มหาชน)หรือSIRI เตรียมเปิดตัวโครงการร่วมทุนโครงการใหม่ร่วมกับ Tokyu Corporation จากญี่ปุ่น คือครงการ “Taka Haus” ที่เอกมัยมูลค่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งกำหนดงานแถลงข่าวในวันที่ 11 กันยายนนี้ โดยผู้บริหารของแสนสิริยืนยันว่าบริษัทฯยังคงดำเนินธุรกิจร่วมกับ BTS ต่อไปแต่การที่มีการร่วมทุนใหม่กับ Tokyu Corporation จะเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์สําหรับขยายตลาดลูกค้าต่างชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่น ซึ่งแสนสิริไม่เพียงแต่จะได้ประโยชน์จากการเรียนรู้เทคโนโลยีการก่อสร้างเท่าน้ัน หากแต่ยังจะช่วยลดกําแพงการเข้าหาตลาดลูกค้าญี่ปุ่นด้วย

 

บริษัท ลัคกี้ ลิฟวิ่ง พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด ล่าสุดได้ร่วมทุนกับกลุ่มสิงคโปร์พัฒนาคอนโดฯ ภายใต้แบรนด์  CELES  Asoke” (เซอเลส  อโศก)ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่เศษ เป็นคอนโดฯสูง 40 ชั้น ขนาด 34.70-138.92 ตารางเมตรหรือ ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 7.9-38.3 ล้านบาท หรือเฉลี่ยที่ 255,000 บาทต่อตร.ม. จำนวน 217 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการ 3,600 ล้านบาท มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายระดับบน โดยจะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส4/2560 และแล้วเสร็จในไตรมาส1/2563 ทั้งนี้จะเปิดพรีเซลในวันที่ 16 กันยายน 2560 โดยจะนำห้องมาขายก่อน 50%

นางสุขมิตร  บาจาจ  กรรมการผู้จัดการ  บริษัท ลัคกี้ ลิฟวิ่ง ฯกล่าวว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเพิ่งซื้อมาประมาณ 6 เดือน แต่สามารถขายในราคาเฉลี่ย 255,000 บาทต่อตร.ม. เนื่องจากได้โบนัสพื้นที่ก่อสร้างเพิ่มเป็น 20% จากที่กฎหมายกำหนด หรือจากเดิม FAR 10:1 เป็น 12:1 นอกจากนี้บริษัทฯอยู่ในระหว่างการหาที่ดินแปลงใหม่เพื่อพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นทำเลใกล้แนวรถไฟฟ้าบีทีเอสเป็นหลัก

 

ด้านนางสาวอลิวัสสา  พัฒนถาบุตร  กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี บี อาร์ อี (ประเทศไทย) จำกัด  ที่ปรึกษาการตลาดและตัวแทน กล่าวถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาของปี2560 ยังทรงตัว หากอยู่ทำเลดี ก็ปิดการขายเร็ว หากทำเลไม่ดีการขายก็จะช้าลง อย่างแยกอโศกมีซัพพลายที่น้อยมาก มีเพียง 2 โครงการ และปิดการขายเกือบหมดแล้ว จะมีเก็บบางส่วนไว้ขายเมื่ออาคารสร้างเสร็จแล้ว คาดว่าในช่วงระยะเวลา 4 เดือน ที่เหลือของปีนี้ จะมีเปิดตัวคอนโดฯระดับลักซ์ชัวรี่อีกประมาณ 2-3 โครงการ มูลค่าเกือบ 10,000 ล้านบาท แต่ถ้าหากเป็นภาพรวมคอนโดฯโดยทั่วไป ในเดือนตุลาคม อาจจะมีการชะลอการเปิดตัวโครงการ แต่คาดว่าในเดือนพฤศจิกายน อาจจะมีการเปิดตัวหลายโครงการ เพราะผู้ประกอบการบางรายไม่ต้องการรอการเปิดตัวข้ามไปในปี2561

 

ทั้งนี้จากการวิจัยตลาดด้านพฤติกรรมผู้บริโภคในตลาดลักซ์ชัวรีคอนโดเรื่องการเลือกซื้อยูนิต พบว่ากลุ่มผู้ลงทุนซื้อเพื่อปล่อยเช่า จะเลือกซื้อขนาด 1 ห้องนอน จำนวน 2 ยูนิตเป็นหลัก  เพราะจะปล่อยเช่า 1 ยูนิต สามารถหาผู้เช่าได้ง่ายกว่าและเก็บไว้อยู่อาศัยเอง 1 ยูนิต ส่วนกลุ่มลูกค้าที่ซื้อคอนโดฯหรูเพื่ออยู่อาศัยเอง จะเลือกซื้อยูนิต แบบ 2 ห้องนอนขึ้นไป เพื่อรองรับครอบครัวที่จะขยายตัวในอนาคต  ซึ่งพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปเช่นนี้ ส่งผลให้ผู้ประกอบการโครงการใหม่ ต้องปรับเปลี่ยนการพัฒนาสินค้าที่ตอบสนองความต้องการตลาดตามไปด้วย