แสนสิริมั่นใจครึ่งปีหลัง60ผุด14โครงการ มูลค่า 36,500 ล้านบาทตามแผน เชื่อยอดขายลูกค้าต่างชาติทะลุเป้า 8,500 ล้านบาท  ส่วนภาพรวมราคาที่ดินย่านเอกมัยพบมีอัตราเติบโตสูงปีละ 50% แตะ 300,000 บาท/ตารางวา ด้าน”ทากะ เฮ้าส์”เตรียมเปิดพรีเซลพร้อมกัน 6 ประเทศ 16-17 ก.ย.นี้ คาดฟันยอดขาย50% ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 40,000 ล้านบาท และรายได้ 32,000 ล้านบาท

 

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ  บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน)หรือ SIRI  เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลังจะเปิดตัวทั้งหมด 14 โครงการ รวมมูลค่า 36,500 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดฯใหม่ทั้งหมด 6 โครงการ รวมมูลค่า 21,100 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 7 โครงการ มูลค่า 14,600 ล้านบาท และทาวนเฮาส์ 1 โครงการ มูลค่า 800 ล้านบาท ซึ่งจะมาช่วยสนับสนุนยอดขายในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 4/60 ที่จะมีการเปิดขายโครงการเป็นส่วนใหญ่

 

ขณะเดียวกันบริษัทยังมียอดขายจากลูกค้าชาวต่างชาติที่เข้ามาสนับสนุนยอดขายในปีนี้เพิ่มขึ้น โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ไปเปิดตลาดลูกค้าในภูมิภาคเอชียในประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง จีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน ซึ่งปัจจุบันลูกค้าชาวต่างชาติรับรู้แบรนด์ และให้ความเชื่อถือในตัวบริษัทเป็นอย่างมาก และมีแนวโน้มยอดขายจากลูกค้าชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันยอดขายจากลูกค้าชาวต่างชาติทำได้แล้ว 4,800 ล้านบาท  ซึ่งใกล้เคียงกับปีก่อนทั้งปีที่ 5,400 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมั่นใจยอดขายจากลูกค้าชาวต่างชาติในปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายอยู่ที่ 8,500 ล้านบาท

 

สำหรับภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยในย่านทองหล่อ-เอกมัย นั้นหลังจากที่ทำเลทองหล่อซัพพลายเริ่มล้นตลาด การขยายตัวจึงเริ่มขยายไปทำเลเอกมัยมากขึ้น ส่งผลให้ราคาที่ดินมีอัตราการเติบโตสูง 50%ต่อปี จากปี2547 ราคาที่ดินอยู่ที่ 100,000 บาท/ตารางวา และในปี2560 ปรับสูงขึ้นมาอยู่ที่ 300,000 บาท/ตารางวา โดยต้นปีทำเลเอกมัยมีซัพพลายรวมที่ประมาณ 800 ยูนิต ปัจจุบันมีสินค้าคงค้างอยู่ประมาณ 400 ยูนิต ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 200,000 บาท/ตารางเมตรขึ้นไป คาดว่าจะสามารถระบายได้หมดภายในปลายปีนี้

 

ทั้งนี้ผู้ซื้อคอนโดฯในย่านเอกมัยสามารถปล่อยเช่าได้ในราคา 25,000-50,000 บาท/เดือน มีอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า 5-6%  ส่วนคอนโดฯรีเซล ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 100,000-160,000 บาท/ตารางเมตร ซึ่งทำเลดังกล่าวถือว่าเป็นย่านที่ต่างชาติให้ความสนใจซื้อเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น

ส่วนความคืบหน้าโครงการ “ทากะ เฮ้าส์” ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับกลุ่มโตคิว กรุ๊ป ตั้งอยู่บนพื้นที่ 3 ไร่ บริเวณซอยเอกมัย12 เป็นคอนโดฯสูง 7 ชั้น 1 อาคารและ 8 ชั้น 1 อาคาร ขนาดตั้งแต่ 30-17.50 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 4.49 ล้านบาท จำนวน 269 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท โดยจะเริ่มเปิดพรีเซลในวันที่ 16-17 กันยายน 2560 นี้พร้อมกัน 6 ประเทศ คือ ไทย,จีน,ฮ่องกง,สิงคโปร์,ไต้หวันและญี่ปุ่น คาดว่าภายในระยะเวลา 2 วันจะสามารถทำยอดขายได้ 50% หลังจากนั้นจะปรับราคาขายขึ้นมาอีกประมาณ 3-5%

 

อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริษัทฯสามารถทำยอดขายรวมได้แล้ว 25,000 ล้านบาท จากเป้าหมายยอดขายในปีนี้ที่ตั้งเป้าไว้อยู่ที่ 40,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำยอดขายตามเป้าหมายดังกล่าว ด้านรายได้คาดว่าจะทำได้ 32,000 ล้านบาทตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เช่นกัน  โดยมาจากรายได้จากการขายโครงการ 28,000 ล้านบาท  ส่วนอีก 4,000 ล้านบาท มาจากบริษัทย่อย โดยในไตรมาส 4/2560 จะเป็นไตรมาสที่มีรายได้มากที่สุด เพราะมีการโอนคอนโดมิเนียม 3 โครงการมีมูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ The Line จตุจักร ที่มีมูลค่า 6,000 ล้านบาท, โครงการโมบิ เฮาส์ สุขุมวิท 77 มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท และโครงการเดอะโมโนเม้นท์ สนามเป้า มูลค่า 2,000 ล้านบาท ส่วนงบซื้อที่ดินในปีนี้บริษัทตั้งไว้ 13,000 ล้านบาท ใช้ไปแล้ว 8,000ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีที่ดินในมือ (Land Bank) ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพและปริมณฑลและรองรับการพัฒนาโครงการในช่วง 3-3.5 ปีข้างหน้า