บริษัท อาร์.เอ็ม. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ถือว่าเป็นบริษัทอสังหาฯในยุคแรกๆที่ริเริ่มโดย “ปกรณ์ ศังขวณิช” เมื่อปี 2522 ในยุคนั้นผู้บริโภคจะรู้จักแบรนด์ “คุณาลัย บางขุนเทียน”เป็นอย่างดี ซึ่งกลุ่มอาร์. เอ็ม.ฯนับว่าเป็นผู้ประกอบการรายแรกที่เข้าไปบุกเบิกที่ดินในย่านบางขุนเทียนชายทะเล แต่มาประสบปัญหาในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งปี 2540 ที่ได้ชะลอการพัฒนาโครงการไป จนกระทั่งในปี 2542 “ประวีรัตน์ เทวอักษร”บุตรสาวได้เข้ามาช่วยปรับโครงสร้างหนี้ จนกระทั่งจบสิ้นกระบวนการในปี 2549


ขณะเดียวกันในช่วงปี ‪2547-2548‬ “ปกรณ์”ผู้เป็นบิดา ได้ปรับเปลี่ยนแนวความคิดใหม่เป็นนโยบาย “ต้นอ้อ”ด้วยการให้ลูกๆทุกคนแยกตัวออกไปก่อตั้งบริษัทและพัฒนาโครงการของตนเอง เพื่อกระจายความเสี่ยง โดยที่”ปกรณ์”ก็ยังจะให้คำปรึกษาลูกๆอยู่เบื้องหลัง  ซึ่งในขณะนั้นมีเพียง “ประวีรัตน์”เพียงคนเดียวที่สานต่อแนวความคิดและเจริญรอยตามธุรกิจของบิดา จึงได้แยกตัวออกไปก่อตั้งบริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด ขึ้นมาเมื่อปี 2550 ด้วยทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท (ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 225 ล้านบาท)ปักหลักทำเลบางบัวทองเป็นทำเลในการพัฒนาโครงการ เนื่องจากมองว่าไม่ต้องการเข้าไปแข่งขันในย่านใจกลางเมือง ในขณะที่บางบัวทองเป็นทำเลที่ “ประวีรัตน์”มีความชำนาญในพื้นที่ ต้นทุนราคาที่ดินไม่สูง ในขณะนั้นราคาประมาณ 1.5 ล้านบาท/ไร่ (ปัจจุบันราคาพุ่งสูงไปถึง 15 ล้านบาท/ไร่ขึ้นไป) ซึ่งสามารถพัฒนาบ้านเดี่ยวระดับราคา 5 ล้านบาทได้ และเป็นทำเลที่คนกทม.มีความต้องการไปอยู่อาศัย โดยเริ่มจากการพัฒนาโครงการ “วิลล่า คุณาลัย1” เมื่อปี 2551 ในรูปแบบของอาคารพาณิชย์ บ้านแฝดและบ้านเดี่ยว

โดยในช่วงนั้นย่านบางบัวทองถือว่ายังไม่มีผู้ประกอบการรายใหญ่เข้าไปทำตลาด มีเพียงผู้ประกอบการรายเล็กในท้องถิ่นประมาณ 10 รายเท่านั้น และแต่ละรายก็สามารถปิดการขายได้เป็นอย่างดี ซึ่งรวมถึง”วิลล่า คุณาลัย1”ที่ใช้ระยะเวลาไม่กี่ปีก็ปิดการขายโครงการได้ทั้งหมด นั่นจึงเป็นย่างก้าวแรกที่ทำให้ “ประวีรัตน์”เริ่มกล้าที่จะโบยบินและรุกพัฒนาโครงการต่อๆมาจนกระทั่งถึงปี 2560 พัฒนามาแล้ว 7 โครงการ รวมมูลค่า 2,919 ล้านบาท

 

ดึงอดีตซีอีโอKKนั่งบอร์ดสร้างความแกร่ง

นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด เปิดเผยว่า นโยบายการดำเนินงานของบริษัทยังเน้นการพัฒนาบ้านชานเมืองกทม.โดยเฉพาะโซนตะวันตกและโซนใต้ ให้น่าอยู่เป็นหลัก เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของคนกทม.ที่ต้องการอยู่บ้านย่านชานเมือง  และเชื่อว่าตลาดอสังหาฯยุคปัจจุบันผู้ประกอบการรายเล็กมีโอกาสแข่งขันกับผู้ประกอบการรายใหญ่ได้มาก แต่ทั้งนี้ต้องสร้างมาตรฐานของตัวเองให้ดีและรู้จักปรับตัวด้วย มิเช่นนั้นจะอยู่ยาก  ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น ต่างจากอดีตที่ตลาดเป็นของผู้ประกอบการรายใหญ่และผู้บริโภคไม่ค่อยมีทางเลือก

นอกจากนี้เมื่อต้นปี 2560 ที่ผ่านมาบริษัทฯได้ดึงนายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล อดีตประธานเจ้าหน้าที่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)หรือ KK มาดำรงตำแหน่งกรรมการอิสระ และประธานกรรมการบริษัทฯด้วย  เนื่องจากมีความชื่นชอบแนวคิดด้านกลยุทธ์ของนายธวัชไชย เพราะมีประสบการณ์ด้านการมองและวิเคราะห์ธุรกิจอสังหาฯมานาน ซึ่งจะเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ

เจรจาซื้อที่ดิน200ไร่คืนจากแบงก์

สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทฯในปี2561 มีแผนที่จะซื้อที่ดินย่านบางขุนเทียน จำนวน 200 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินเดิมของครอบครัว ที่ปัจจุบันถือครองโดย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด(มหาชน)หรือ CIMB กลับมาพัฒนาอีกครั้ง  หากการเจรจาซื้อประสบความสำเร็จก็สามารถพัฒนาโครงการแนวราบได้ถึงประมาณกว่า 400 แปลง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
นอกจากนี้ในปี 2561 บริษัทฯยังได้เตรียมที่จะเปิดตัว 3 โครงการใหม่ บริเวณบ้านกล้วย-ไทรน้อย (จากที่ดินทั้งหมด 500 ไร่ของโครงการ คุณาลัย เวสต์เกท ที่มีการทยอยพัฒนาโครงการย่อยมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2557) รวมมูลค่า 1,777 ล้านบาท ได้แก่ คุณาลัย จอย  ตั้งอยู่บนพื้นที่ 47 ไร่เศษ พัฒนาในรูปแบบของบ้านแฝด บ้านเดี่ยว รวม 229 ยูนิต มูลค่าโครงการ 833 ล้านบาท ,คุณาลัย พอลเลน ตั้งอยู่บนพื้นที่ 8 ไร่เศษ เป็นบ้านเดี่ยว จำนวน 42 ยูนิต มูลค่าโครงการ 159 ล้านบาท และคุณาลัย บีกินส์2 ตั้งอยู่บนพื้นที่ 37 ไร่ จำนวน 400 ยูนิต มูลค่าโครงการ 785 ล้านบาท

และปี2562 มีแผนเปิดตัว 2 โครงการ รวมมูลค่า 1,200 ล้านบาท คือ คุณาลัย ซิมโฟนี2 ตั้งอยู่บนพื้นที่ 25 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยว จำนวน 90 ยูนิต มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท และ วิลล่า วาณิช ตั้งอยู่บนพื้นที่ 17 ไร่  เป็นอาคารพาณิชย์ จำนวน 160 ยูนิต มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท
“ด้วยที่ดินย่านบ้านกล้วย-ไทรน้อย ที่ซื้อมาตั้งแต่ปี 2557 แปลงค่อนข้างใหญ่ พื้นที่ประมาณ 500 ไร่ เราจึงต้องแบ่งการพัฒนาเป็นโครงการย่อยได้ 7 โครงการแล้ว และยังมีที่ดินเหลืออีกประมาณ 48 ไร่ ซึ่งจะสามารถพัฒนาได้อีกประมาณ 3 ปี ซึ่งเราก็ต้องเตรียมหาที่ดินแปลงมาใหม่รองรับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และหากอนาคตมีโอกาสนำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯก็พร้อมที่จะดำเนินการเช่นกัน”นางประวีรัตน์ กล่าว

อย่างไรก็ตามนับจากปี 2560 นี้บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตปีละ 30% โดยปีนี้จะมีรายได้มูลค่า 390 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2560 รับรู้รายได้แล้ว 215 ล้านบาท และมี Backlog อีกประมาณ 179.1 ล้านบาท  จาก 3 โครงการ คือ คุณาลัย คอร์ทยาร์ด, คุณาลัย ซิมโฟนี่  และคุณาลัย บีกินส์