“ออลล์ อินสไปร์” ทุ่มสร้างแบรนด์รุกที่อยู่อาศัยแนวราบบ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮ้าส์ระดับราคา 3.5-7 ล้านบาท นำร่อง 2-3 โครงการในปี 2561 พร้อมขยับสู่ตลาดคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ราคา 2 – 2.5 แสนบาทต่อตารางเมตร

 

 นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแนวทางในการดำเนินธุรกิจในปี 2561 ว่าบริษัทฯจะเน้นการดำเนินธุรกิจเชิงรุกทั้งในเรื่องของการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ที่ได้ตั้งงบประมาณไว้ที่ 3-5% จากยอดขายรวมเพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่ใช้ไปประมาณ 1.5% ของยอดขายที่ได้ประมาณ 1,200 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทฯจะเน้นการดำเนินการด้าน CSR รวมถึงการบริการหลังการขาย กับลูกค้าที่ซื้อที่อยู่อาศัยในโครงการที่บริษัทฯได้พัฒนา พร้อมกับเน้นการก่อสร้างให้แล้วเสร็จและส่งมอบให้ลูกค้าตามสัญญา

 

การให้น้ำหนักในการสร้างแบรด์นั้น เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทฯทั้งด้านยอดขาย รายได้ และการเปิดตัวโครงการใหม่ในปีหน้า 8-10 โครงการรวมมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท รวมถึงการรองรับกับแผนการขยายโปรดักส์สู่การพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวราบเพิ่มจากเดิมจะเน้นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงประเภทคอนโดมิเนียมเป็นหลัก โดยแนวราบที่จะลงทุนนั้นมีทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ระดับราคาตั้งแต่ 3.5 ล้านบาทสำหรับทาวน์เฮ้าส์ และระดับราคา 5-7 ล้านบาทสำหรับบ้านเดี่ยว ขณะนี้มีที่ดินที่พร้อมพัฒนาแล้ว 3 แปลงย่าน เกษตร-นวมินทร์ และย่านบางนา-ตราด รวมมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท

 

ในการขยายตลาดสู่โครงการจัดสรรแนวราบนั้น เพราะมองว่าตลาดมีความต้องการและเป็นกลุ่มผู้ซื้อที่อยู่อาศัยจริง ประกอบกับบริษัทฯต้องการกระจายความเสี่ยง แต่อย่างไรก็ดี การเพิ่มโปรดักส์ใหม่นั้นต้องตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพ และเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค และจากข้อมูลนั้นพบว่า ทำเลบางนา-ตราด เป็นย่านที่ผู้บริโภคค้นหาข้อมูลบ้านเดี่ยว และทาวน์มากที่สุด ในขณะเดียวกัน “ออลล์ อินสไปร์ฯก็จะขยายฐานตลาดคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ราคา 2 – 2.5 แสนบาทต่อตารางเมตร” เป็นโครงการในเมืองติดรถไฟฟ้ามูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท”

 

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นายธนากร เปิดเผยว่าสำหรับในปี 2561 บริษัทฯจะมีการเปิดตัวใหม่อีกอย่างน้อย 10 โครงการ โดยมีมูลค่าโครงการมากกว่าปี 2560 ประมาณ 10% ซึ่งจะมีการร่วมทุนกับกลุ่มฮูซิเออรส์ โฮลดิ้งส์   ประมาณ 2-3 โครงการ มูลค่าประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท ในจำนวนดังกล่าวจะมีการร่วมทุนพัฒนาบ้านผู้สูงอายุในรูปแบบมิกซ์ยูส ด้วย คือประกอบไปด้วยโครงการแนวสูง แนวราบ โรงเรียนนานาชาติ และส่วนของรีเทล ที่จะดึงพันธมิตรในธุรกิจดังกล่าวมาร่วมทุน โดยมอง 2 พื้นที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนา คือ จ.ชลบุรี พื้นที่ 500 ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจาซื้อที่ดิน คาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ในเร็วๆนี้ และอีกทำเลคือที่จ.ภูเก็ต ขณะนี้อยู่ในระหว่างการมองหาที่ดินแปลงใหม่ ซึ่งจะต้องมีพื้นที่ตั้งแต่ 15 ไร่ขึ้นไป

โครงการ ดิ เอ็กเซล ไฮด์อะเวย์ สุขุมวิท 71  คอนโดฯ Low Rise สูง 8 ชั้น 3 อาคาร 672 ยูนิต  (ร้านค้า 2 ยูนิต)คอนโดมิเนียมบนทำเลศักย์ภาพ ใกล้สถานีรถไฟฟ้า อ่อนนุช และ สถานีพระโขนง เชื่อมต่อทุกการเดิน เพียง 330 เมตร ใกล้ทางขึ้น-ลง ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เพียงไม่กี่กิโลเมตรสู่ใจกลางเมือง พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ Swimming pool, Co-Working Space, ฟิตเนส, พื้นที่ส่วนกลางที่เปรียบเสมือนสวนขนาดใหญ่สำหรับพักผ่อน ฯลฯ  ให้คุณใช้ชีวิตอย่างมีสไตล์ในแบบที่คุณต้องการ กับพื้นที่ส่วนตัวที่มากขึ้น ในราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้ ราคาเริ่มต้นเพียง 1.49 ล้านบาท