นักธุรกิจวัสดุก่อสร้างเผยอสังหาฯกัมพูชาเริ่มบูม หลังรัฐบาลขยายระบบสาธารณูปโภค ต่างชาติแห่ลงทุน คาดปี61ตลาดโตเกิน30% ดีมานด์แนวสูง-แนวราบยังมีมาก วัสดุก่อสร้างยังขาดแคลน ชี้ช่องนักลงทุน-สถาปนิกไทย ยังมีโอกาสสูงตามความนิยม แนะกฎหมายยังไม่มีความแน่นอนควรศึกษาก่อนลงมือ


 

 

นางเจีย คิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจโมเดิร์นเทรดค้าวัสดุก่อสร้าง บริษัท เฮ้ง เอเชีย (Heng Asia)ประเทศกัมพูชา เปิดเผยในงานสัมมนาภายใต้หัวข้อ “โอกาสอสังหาฯไทยในตลาดอาเซียน”ว่าปัจจุบันตลาดอสังหาฯในกัมพูชากำลังบูมมาก และมีการเจริญเติบโตมาตั้งแต่ในช่วงปี2559-2560 และจะต่อเนื่องถึงปี2561 ทั้งในเรื่องการลงทุนด้านระบบสาธารณูปโภคและการพัฒนาคอนโดฯ และการลงทุนจากชาวต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น จีน และมาเลเซีย โดยขณะนี้โครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศกัมพูชาที่เซ็นสัญญาก่อสร้างแล้วมีอยู่ประมาณ 8,000 โครงการ

 

ขณะเดียวกันผู้ประกอบการไทยก็เข้าไปลงทุนมาก เช่น SCG ที่เข้าไปลงทุนโรงงานผลิตวัสดุก่อสร้าง รวมไปถึงธุรกิจก่อสร้างและออกแบบ ตลอดจนเฟอร์นิเจอร์ของไทย ก็เข้าไปเปิดธุรกิจในกัมพูชาค่อนข้างมาก เพราะคนกัมพูชานิยมสินค้าไทยมากพอสมควร

 

ส่วนรัฐบาลกัมพูชาก็มีนโยบายที่จะขยายเมืองจากกรุงพนมเปญออกไปอีก20 ตารางกิโลเมตร มีถนนเส้นใหม่ๆเพิ่มมากขึ้น โดยขยายถนนเป็นเครือข่ายใยแมงมุมจากพนมเปญไปเวียดนามด้วย จะทำให้พอร์ตที่นั่นเจริญมาก อีกทั้งมีท่าน้ำที่รองน้ำสินค้าจากอุตสาหกรรมหนักเข้ามาในประเทศกัมพูชา ส่งผลให้ราคาที่ดินแพงขึ้น และกฎหมายก็เอื้อประโยชน์ในการลงทุนของชาวต่างชาติ โดยประเทศไทยมีความได้เปรียบมากสุด เพราะมีสื่อไทยออนไลน์แบบเรียลไทม์ คนกัมพูชาจึงมีความเข้าใจภาษาไทยได้ถึง50% โดยสินค้าไทยถือเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับแรกของชาวกัมพูชา

 

ด้านห้างสรรพสินค้าก็มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้นักลงทุนชาวญี่ปุ่นได้เข้าไปลงทุนห้างสรรพสินค้าอิออน มอลล์ ที่พนมเปญ และกำลังเปิดแห่งที่ 2 รวมถึง ห้างค้าปลีกแมคโคร ก็กำลังจะเปิดตัวในเดือนธันวาคมนี้ แต่ขนาดของห้างฯไม่ใหญ่เท่าประเทศไทย ส่งผลให้ปี2559-2560 อสังหาฯในกัมพูชาโต 28-30% และปี2561 จะโตเพิ่มมากขึ้นมากกว่า 30% เพราะมีการขยายตัวไปยังต่างจังหวัด เช่น ธุรกิจโรงแรม อีกทั้งรัฐบาลก็พยายามที่พยายามส่งเสริมเรื่องท่องเที่ยว เช่น ชายหาดที่กัมปงโสม ให้เป็นชายหาดที่สวยที่สุดในโลก

 

สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักของตลาดอสังหาฯ ประเภทที่อยู่อาศัยในกัมพูชา มี 2 กลุ่ม คือกลุ่มรีเทิร์น แคมโบเดียน เป็นกลุ่มที่หนีสงครามกัมพูชา ไปอยู่ต่างประเทศ และปัจจุบันเริ่มกลับประเทศ กลุ่มนี้จะมีความต้องการซื้อคอนโดมิเนียม เช่นเดียวกับต่างชาติ เพราะมีความเคยชินในการอยู่อาศัย และอีกกลุ่มเป็นชาวกัมพูชาในท้องถิ่นซึ่งมีจำนวน 16 ล้านคน ที่ยังคุ้นเคยกับที่อยู่อาศัยแนวราบ ซึ่งเป็นตลาดสำคัญที่มีความต้องการมาก ทำให้ตลาดอสังหาฯในกัมพูชา มีโอกาสทางธุรกิจสูงมาก จึงเป็นโอกาสของนักออกแบบมาก โดยเฉพาะสถาปนิกไทย เพราะยังขาดแคลนอีกมาก

 

ด้านวัสดุก่อสร้างก็ยังขาดแคลนอีกมาก เช่น ซีเมนต์ปัจจุบันมีเพียง50%ก็ยังไม่เพียงพอ ต้องนำเข้าจากประเทศไทย ส่วนเหล็กเส้น มีการนำเข้าจากประเทศไทยและเวียดนาม ส่วนไม้แม้ในประเทศกัมพูชาจะมีมาก แต่ไม่มีโรงไม้อบแห้ง สินค้าจึงไม่ได้มาตรฐาน เทียบแล้ววัสดุก่อสร้างต้องนำเข้าจากไทยถึง 80% และชาวกัมพูชาเมื่อต้องการสร้างบ้าน ก็ต้องจากประเทศไทยว่ามีอะไรบ้าง ยิ่งอสังหาฯโตวัสดุก่อสร้างก็โตตามไปด้วย

 

อย่างไรก็ตามแม้ปัจจุบันกัมพูชาจะเริ่มมีเทคโนโลยีสูงแล้ว แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ กฎหมายหลายฉบับของกัมพูชาที่แม้จะเปิดกว้าง แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่มีความเข้าใจ100% ซึ่งกฎหมายหลายฉบับมีการคัดลอกมาจากประเทศไทย และอีกหลายฉบับก็อ้างอิงมาจากฝรั่งเศส เพราะกัมพูชาเคยเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส ซึ่งก็ไม่สามารถไปด้วยกันได้ อีกทั้งตลาดแรงงานในกัมพูชา ยังต้องใช้เวลาในการพัฒนาความรู้ ความสามารถสูงมาก ดังนั้นก่อนจะไปลงทุนที่ประเทศกัมพูชาจึงต้องศึกษาข้อมูลด้านกฎหมายและพื้นฐานของชาวกัมพูชาให้ดีเสียก่อน