บมจ.พฤกษาเรียลเอสเตท เป็นผู้นำตลาดอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย ด้วยการทำสถิติยอดขายสูงสูดมาอย่างต่อเนื่อง และในปี 2560 นี้พฤกษาฯตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 52,900 ล้านบาท ยอดโอน 50,200 ล้านบาท เติบโตจากปี 2559 อยู่ที่ 19% และราว 9% (ตามลำดับ) และล่าสุดผลประกอบการ 9 เดือนแรก ปี 2560 มียอดขายรวม 38,067 ล้านบาท เติบโตขึ้น 9.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 34,662 ล้านบาท เนื่องมาจากการเปิดคอนโดมิเนียม 9 โครงการ ในด้านของรายได้และกำไรอยู่ที่ 30,613 ล้านบาท และ 3,716 ล้านบาท (ตามลำดับ)

สำหรับกลยุทธ์และแผนงาน ที่พฤกษาฯได้วางไว้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในปีนี้ มี 3 แนวทาง

 

 โดยแนวทางแรก คือ การบริหารรอบธุรกิจให้สั้น ซึ่งปัจจุบันระยะเวลาจาก ลูกค้าจองถึง โอนกรรมสิทธิ์ มีระยะเวลา ในกลุ่มทาวน์เฮาส์ 49 วัน  บ้านเดี่ยว  91 วัน คอนโดมิเนียมไม่เกิน 8  ชั้น ใช้ระยะเวลา 425 วัน และ คอนโดมิเนียมอาคารสูง ใช้ระยะเวลา 754 วัน

 

 แนวทางที่ 2 คือ แผนการเปิดโครงการใหม่จำนวน 72 โครงการ มูลค่ารวม 60,800 ล้านบาท แบ่งเป็นทาวน์เฮาส์ 39 โครงการ บ้านเดี่ยว 20 โครงการ คอนโดมิเนียม 7 โครงการ และโครงการพรีเมียม 6 โครงการ นอกจากนี้ยัง มีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายอีก 176 โครงการ (ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2560)

 

และแนวทางที่ คือการใช้กลยุทธ์บ้านพร้อมอยู่ ในการบริหารจัดการโครงการทาวน์เฮาส์ และบ้านเดี่ยว

 

“นวัตกรรมพฤกษา พรีคาสท์”  …จิ๊กซอว์พิชิตยอดขาย/รายได้ 1 แสนล้านภายในปี 2564

โดยแผนกลยุทธ์การดำเนินงานจะยังคงเน้นการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ระดับกลาง-ล่าง เพราะเป็นตลาดที่ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและขยายฐานกลุ่มลูกค้าระดับบนมากขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมในทุกเซ็กเมนต์  นอกจากนี้พฤกษาฯ ยังได้ปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อความคล่องตัวในการขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจใหม่ที่สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาโอกาสทางธุรกิจอื่นๆ เพื่อรองรับให้บริษัทฯ เติบโตต่อไปในอนาคตอย่างมั่นคงและยั่งยืนนอกจากกลยุทธ์

เบอร์หนึ่งอสังหาฯ พฤกษา ฯตั้งเป้าหมายพิชิตยอดขายและรายได้ไว้ที่ 1 แสนล้านบาทในปี 2464 แนวทางที่จะทำให้พฤกษาฯบรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้ “ จิ๊กซอว์” สำคัญอีกตัว ระบบ “พรีคาสท์” (หล่อชิ้นส่วนจากโรงงาน) ซึ่งพฤกษา เรียกว่า  “นวัตกรรมพฤกษา พรีคาสท์” เป็นนวัตกรรมที่ทันสมัยที่สุดในโลกจากเยอรมนี ทำให้ได้บ้านที่แข็งแรงทนทาน ปลอดภัย  โดยพฤกษาฯได้นำมาใช้ตั้งแต่ปี 2547 ด้วยการลงทุนสร้างโรงงาน พฤกษา พรีคาสท์ ในย่านลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ซึ่งถือว่าเป็นโรงงานต้นแบบแห่งแรกจนถึงปัจจุบันมีโรงงานพฤกษา พรีคาสท์รวมทั้งหมด 7 โรงงานตั้งอยู่ในพื้นที่ จ.ปทุมธานีทั้งหมด มีกำลังการผลิตรวม 1,120 ยูนิตต่อเดือน  ใช้งบลงทุนกว่า 4,700 ล้านบาท ทำการผลิตคอนกรีตสำเร็จรูปเพื่อใช้ในการก่อสร้างบ้านในโครงการต่างๆ ของพฤกษาทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียม

“เราเป็นผู้ประกอบการอสังหาฯรายแรกของประเทศที่นำเอาเทคโนโลยีพรีคาสท์มาใช้ตั้งแต่ปี 2547 ทำให้มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญมากกว่ารายอื่นๆ ในประเทศ ใช้เทคโนโลยีได้มาตรฐานเทียบเท่าระดับโลก”อมรพล ธูปะวิโรจน์ กรรมการผู้จัดการ สายงานโรงงานพฤกษา พรีคาสท์ บริษัท พฤกษา ฯ กล่าวระหว่างพา Blogger เยี่ยมชมโรงงาน พฤกษา พรีคาสท์ ที่นวนคร  ตั้งอยู่บนเนื้อที่เกือบ 140 ไร่

โรงงานแห่งนี้มีความทันสมัยสามารถควบคุมคุณภาพแผ่นคอนกรีตได้ทุกขั้นตอน ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ มั่นใจได้ในคุณภาพที่ได้มาตรฐานในทุกชิ้น ลดระยะเวลาการก่อสร้างหน้างาน ก้าวข้ามข้อจำกัดจำนวนช่างก่อสร้างส่งมอบทันเวลา และลดต้นทุนรวมถึงควบคุมราคาได้

ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบระบบการก่อสร้างแบบดั้งเดิม บ้านที่ก่อสร้างด้วยระบบ “พฤกษา พรีคาสท์”  มีประโยชน์ต่อลูกค้า หลายประการ ได้แก่

  • คุณภาพการก่อสร้างที่ดีกว่าด้วยการผลิตจากโรงงานที่ทันสมัยที่สุด เป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ทุกขั้นตอนควบคุมการผลิตด้วยระบบคอมพิวเตอร์มั่นใจได้ในคุณภาพและมาตรฐาน
  • ความแข็งแรง ทนทาน ผนังบ้านเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กทุกชิ้น จึงมีความคงทนแข็งแรงกว่าการก่อสร้างแบบผนังก่ออิฐทั่วไปหลายเท่า สามารถต้านทานแรงลมและแรงสั่นสะเทือน
  • เพิ่มพื้นที่ใช้สอยมากกว่า การก่อสร้างโดยใช้ผนังคอนกรีตสำเร็จรูปที่แข็งแรงเป็นตัวรับน้ำหนักของบ้าน ไม่ต้องใช้เสาและคาน ทำให้บ้านมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น และสามารถ ออกแบบและตกแต่งภายในได้สวยงามลงตัวกว่า
  • ป้องกันความร้อน และทนไฟไหม้ ได้มากกว่า 2 ชั่วโมง และป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ ดีกว่า

ด้วยระบบการผลิตที่ทันสมัยทำให้มีอัตราการสูญเสียจากการผลิตต่ำกว่า 0.1% สามารถควบคุมต้นทุนได้ดี ทำให้ลูกค้าสามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้ในราคาที่สมเหตุสมผล  และได้เข้าอยู่อาศัยได้ตรงตามสัญญาจากการก่อสร้างที่รวดเร็ว จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่พฤกษา สามารถส่งมอบบ้านให้กับลูกค้าได้กว่า 13,000 ยูนิตต่อปีถือว่ามีจำนวนยูนิตมากที่สุดในวงการอสังหาฯ

https://www.youtube.com/watch?v=3PMmaSxD8Ho&feature=youtu.be