“บีทีเอส” ยืนยันไม่ปรับขึ้นค่าโดยสาร ย้ำร่วมมือเดินหน้าบัตรแมงมุมเต็มที่ เพราะเป็นเจ้าแรกที่ร่วมกับรัฐตั้งแต่ริเริ่ม เผยคืนวันที่ 31 ธ.ค.นี้ ขยายเวลาเดินรถออกไปอีก 2 ชั่วโมง จาก เที่ยงคืนเป็นตีสอง เพื่ออำนวยความสะดวกการฉลองวันปีใหม่ของประชาชน

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เปิดเผยว่า กรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่าบีทีเอสจะขอขึ้นค่าโดยสาร หลังจากมีบัตรตั๋วร่วมแมงมุม บริษัทขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะการจัดทำบัตรแมงมุม เพื่อใช้กับรถไฟฟ้า 4 สาย คือ สายสีเขียว สายสีม่วง สายสีน้ำเงิน และแอร์พอร์ตลิงค์ ที่คาดว่าจะเริ่มต้นใช้งานได้ในเดือนต.ค.2561 ไม่มีผลกับการปรับขึ้นค่าโดยสารบีทีเอส  เพราะเป็นเรื่องอนาคต ที่รัฐบาลจะพิจารณาร่วมกับเอกชนผู้ให้บริการทุกราย

 

สำหรับข้อเท็จจริงนั้น บริษัทได้แสดงความเป็นห่วงว่า ประชาชนจะมีค่าเดินทางที่สูงเกินไป เมื่อรถไฟฟ้าสายใหม่เปิดให้บริการจนครบ เพราะปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีเขียวเดิม อยู่ในความดูแลของกรุงเทพมหานคร ส่วนรถไฟฟ้าที่กำลังจะเกิดใหม่ เช่น สายสีชมพู เหลือง ส้ม อยู่ในความดูแลของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มีค่าแรกเข้าระหว่างเส้นทางของผู้ให้บริการแต่ละราย จะทำให้ประชาชนมีค่าเดินทางสูงเกินไป ดังนั้น รัฐจึงควรมีวิธีการช่วยดูแล ซึ่งมีตัวอย่างในปัจจุบัน คือ รัฐจ่ายค่าแรกเข้าแทนประชาชน ในเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-เตาปูน เชื่อมต่อ สายสีน้ำเงิน หัวลำโพง-บางซื่อ ประชาชนจึงไม่ต้องรับภาระในส่วนนี้

 

“ที่ผ่านมาบริษัทได้ให้ความร่วมมือกับรัฐอย่างเต็มที่ พราะเป็นผู้ร่วมกับรัฐ ก่อตั้ง และพัฒนาระบบบัตรตั๋วร่วมให้สามารถเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าต่างสายต่างสีมาตั้งแต่แรก ซึ่งระบบดังกล่าวยังได้ถูกนำมาใช้ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน โดยบีทีเอสเป็นผู้ช่วยดำเนินการให้แก่ทางราชการอีกด้วย”

นาย สุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

 

นายสุรพงษ์กล่าวต่อว่า สำหรับการพัฒนาการเดินรถ บีทีเอสอยู่ระหว่างดำเนินการนำขบวนรถไฟฟ้า 72 ตู้เข้ามาให้บริการเพิ่มขึ้น เป้าหมายเพื่อบรรเทาความแออัดในการเดินทางในปัจจุบันของประชาชนให้สะดวกขึ้น และจะนำมารองรับรถไฟฟ้าเส้นทางใหม่ทั้งสายสีชมพูและสายสีเหลือง ที่บริษัทฯเตรียมเปิดให้บริการในอนาคต โดยเฉพาะจุดที่บีทีเอสจะเร่งเปิดให้บริการ คือ บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งเป็นแยกใหญ่ หากบริษัทฯ สามารถเปิดให้บริการได้เร็ว ก็จะช่วยบรรเทาการจราจรของกรุงเทพฯได้มาก เพราะประชาชนไม่ต้องฝ่าจราจรติดขัดเข้ามาขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานีจัตุจักรอีก

 

ส่วนสถิติการขัดข้องหรือรถเสียในการเดินรถ ได้เก็บสถิติไว้โดยตลอด เนื่องจากเป็นมาตรฐานที่จะต้องรายงานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ โดยถ้านับการขัดข้องของรถที่กินเวลานานกว่า 10 นาทีขึ้นไป ในรอบ  5 ปีที่ผ่านมา ปี 56 มีการขัดข้องมากที่สุด 41 ครั้ง เพราะมีการติดตั้งประตูกั้นชานชาลา จึงต้องใช้เวลาในการปรับระบบให้เข้าที่ ถัดมาปี 57 รวม 34 ครั้ง ปี 58 รวม 29 ครั้ง ปี 59 รวม 30 ครั้ง และในปี 60 นับถึงเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา 24 ครั้ง เมื่อคำนวณค่าความตรงต่อเวลาอยู่ที่ ร้อยละ 97.5 ซึ่งยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

 

“สำหรับเทศกาลต้อนรับปีใหม่นี้ บีทีเอสจะขยายเวลาการเดินรถในคืนวันที่ 31 ธ.ค. 2560 ออกไปอีก 2 ชั่วโมง จากเวลาเที่ยงคืนวันที่ 31 ธ.ค. ไปเป็น 02.00 น. ของเช้าวันที่ 1 ม.ค.2561”

 

/////////////////