สวัสดีเพื่อนๆทุกคนครับ สำหรับรีวิวฉบับนี้ P2M ชวนมาดูห้องตัวอย่างโครงการคอนโดมิเนี่ยม Low rise จากอนันดา ดีวีลอปเม้นท์ ในทำเลย่านพร้อมพงษ์ อ่านไม่ผิดครับเป็นโครงการ Low rise 8 ชั้น แต่อยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ หลายๆคนอาจมีข้อเสียของโครงการ Low rise อยู่ในใจ อย่างที่เราๆเคยเจอโครงการ Low rise ส่วนใหญ่จะมีพื้นที่ส่วนกลางน้อย แต่สำหรับโครงการนี้มี Facility เป็นจุดเด่น และเป็น concept หลักของโครงการเลยครับ นอกจากนี้ต้องบอกว่าเป็นโครงการของอนันดา ที่อยู่ในแบรนด์ตัว Top สุดอย่างแบรนด์ Ashton และเป็นโครงการ Ashton ตัวแรกที่ อนันดาทำเป็น Low rise เลยครับตอกย้ำว่าโครงการนี้ต้องพิเศษกว่าโครงการอื่นแน่ๆ

เริ่มต้นความพิเศษกันด้วยการออกแบบ โครงการ Ashton Residence 41 ใช้สถาปนิกและภูมิสภาปนิกอันดันต้นๆของเมืองไทยครับ เป็นการร่วมมือกันของ A49 และ TROP ซึ่งแรงบันดาลใจและคอนเซ็ปต์ต่างๆที่ทำให้โครงการนี้ดูสวยงาม ลงตัวในทุกๆมุม ที่จะบอกเล่าต่อไปก็จะเป็นข้อมูลที่ได้มาจากเหล่าดีเซอร์เนอร์ครับ  ตามมาด้วยความพิเศษของทำเลใจกลางกรุงเทพฯ ย่านพร้อมพงษ์ที่ทุกคนรู้จักกันดี โครงการ แอชตัน เรสซิเด้นท์ 41 ตั้งอยู่ในซอย สุขุมวิท 41 ตามชื่อเลยครับ บางคนอาจจะรู้จักในชื่อซอยภิรมย์ภักดี ภายในซอยส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และมี Service Apartment อยู่ช่วงต้นซอย แม้ซอย 41 จะไม่ใช่ซอยดังที่ถูกพูดถึงบ่อยๆในวงการอสังหาฯ แต่เป็น Private ซอย เพราะเป็นซอยตัน ระยะจากปากซอยถึงถนนใหญ่ประมาณ 450 เมตรเท่านั้น ความที่เป็นซอยที่ไม่พลุกพล่าน เลยเหมาะกับโครงการที่เป็นส่วนตัว อย่าง Ashton Residance 41 สุดๆ เพราะตัวโครงการเองก็มีเพียง 79 ยูนิตเท่านั้น

โครงการตั้งอยู่บนที่ดินแปลงสุดท้ายในซอย สุขุมวิท 41 ให้ความเป็นส่วนตัวกับลูกบ้านทั้ง 79 ยูนิต แต่ยังเดินทางได้สะดวกสบาย เพราะห่างจาก รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์เพียง 600 เมตร เดินจากโครงการถึงสถานีเป็นระยะกำลังพอดี แต่ทางโครงการก็เตรียมรถ Shutter Bus รับส่งลูกบ้านอีกด้วย อย่างที่ทุกคนรู้กันครับ ย่านพร้อมพงษ์ ย่านพร้อมอยู่ใจกลางเมือง มีสารณูปโภค และสาธารูปการครบ ทั้งห้างสรรพสินค้า สวนสาธาณะ โรงพยาบาล อำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัยพร้อมอยู่แล้ว

Shopping Mall

Miracle Mall 400 ม.
Emporium 1 กม.
EmQuatier 1 กม.
K Village 1.8 กม.
Fifty Fifth Plaza 2.2 กม.
Major เอกมัย 2.3 กม.
Big C พระราม 4 2.1 กม.
Terminail 21 3 กม.
Gateway เอกมัย 3.5 กม.

Hospital

รพ.เทพธารินทร์ 3 กม.
รพ.สุขุมวิท 2.8 กม.
รพ.สมิติเวช 800 เมตร

Transportation

BTS พร้อมพงษ์ 600 ม.
BTS ทองหล่อ 1.3 กม.
BTS อโศก ,MRT สุขุมวิท 2 กม.
ทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ 6 กม.
ทางพิเศษเฉลิมมหานคร 4.5 กม.

School

Trinity International School 2.9 กม.
Bangkok Prep International School 4.1 กม.

Park

สวนเบญจสิริ 1.1 กม.
สวนเบญกิตติ 4.1 กม.

โครงการ แอชตัน เรสซิเดนซ์ 41 อยู่ห่างจากบีทีเอส เป็นระยะเดินเท้าประมาณ 600 เมตรเท่านั้นทำให้สะดวกสบายกับการเดินทางโดยรถไฟฟ้ามากที่สุด ซึ่งสำหรับเพื่อนที่ๆใช้รถยนต์ในการเดินทาง ก็ไม่ต้องเป็นกังวลครับเพราะมีหลายเส้นทางที่สามารถเข้าถึงโครงการได้สะดวก เส้นทางหลักเลยคือถนน “สุขุมวิท” ซึ่งเป็นถนนสายหลักเชื่อมไปถนนได้หลายสายด้วยกัน ทั้งรัชดาภิเษก, พระราม 1, อ่อนนุช, พระราม 4, ยาวไปกระทั่งถนนอุดมสุข หากจะเดินทางไปกรุงเทพตอนเหนือไปย่านดอนเมือง รามอินทรา หรือไปแถบรังสิต ก็สามารถใช้ทางด่วน รามอินทรา-อาจณรงค์ได้ครับ หรือถ้าจะไปแถบราชพฤกษ์ ก็แนะนำให้ใช้ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ขึ้นทางด่วนที่ด่านท่าเรือก็ได้อีกเหมือนกัน

FACILITY

ต้องบอกว่าพื้นที่ส่วนกลางเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยครับ เพราะทุกพื้นที่ ทุกการออกแบบ ใส่ใจ และคิดมาแล้วทุกกระเบียดนิ้ว ด้วยความละเมียดละไมของตัวนักออกแบบที่อยากให้โครงการนี้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุดครับ เริ่มจาก สระว่ายน้ำ ละกันนะครับสไตล์ที่เลือกใช้เป็น Creek Pool เปรียบตัวอาคารเป็นภูเขา และมีสายน้ำไหลผ่านระหว่างตัวอาคารทั้งสองหลัง โดยสายธารนี้ยังทำหน้าที่สร้างพื้นที่ความเป็นส่วนตัวให้ห้องพักที่อยู่บริเวณชั้นหนึ่งได้อีกด้วย โดยที่ไม่ต้องสร้างรั้วกั้นให้รู้สึกอึดอัด เป็นการใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่าทั้งสองมุมครับ ผู้ออกแบบได้รับแรงบันดาลใจมากจาก Barton Springs Pool ของเทกซัส อเมริกาครับ เป็นสระที่เชื่อมต่อกับร่องน้ำธรรมชาติที่มีโขดหินอยู่เป็นระยะ นำดีเทลนี้มาใส่ไว้ที่การออกแบบของสระว่ายน้ำโครงการนี้ด้วย ทำให้เราจะเห็นขั้นโขดหินตลอดแนวขอบสระ เป็นการสร้างมิติให้กับสระว่ายน้ำและเป็นบันไดให้กับแต่ละห้องพักที่เป็นยูนิต  Duplex อีกด้วยครับ
นอกจากสระว่ายน้ำแล้ว แม้โครงการนี้จะเป็นโครงการ Low rise แต่ก็มีพื้นที่ส่วนกลางไม่น้อยไปกว่าโครงการ High rise โครงการอื่นๆนะครับ ที่จอดรถกว่า 202% และเป็นการจอดรถแบบ Automatic Parking ให้ลูกบ้านสะดวกสบาย อีกทั้ง Fitness ซาว์น่าและห้องสตีม ก็มีให้ลูกบ้านได้เลือกใช้แม้ว่าลูกบ้านส่วนใหญ่ของที่นี่จะเป็นเมมเบอร์ของฟิตเนสอื่นๆก็ตาม นอกจากนี้โครงการยังเตรียม Business room และ Meeting Room ไว้ด้วยครับ สำหรับลูกบ้านที่อาจจะต้องมีการคุยงานหรือรับรองลูกค้า ทั้งแบบกลุ่มเล็ก 3-4 คนและกลุ่มใหญ่ 8-10 คน

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดจะอยู่ที่ชั้น 3 ของตึก A และถูกแบ่งฝั่งกับส่วนที่เป็นยูนิตพักอาศัยโดยมีลิฟต์กั้นครับ ด้วยความพิเศษทั้งหมดที่เล่ามา ทำให้ อนันดา ดีวีลอปเม้นท์ ผลักโครงการนี้ให้เป็น The Collectible ที่นอกจากจะควรค่าแก่การอยู่อาศัย ยังควรค่าต่อการเป็นโครงการที่น่าสะสมอีกด้วยครับ

สำหรับห้องตัวอย่างของโครงการนี้จะมีทั้งหมด 3 typeด้วยกันครับ ซึ่ง P2M ก็เก็บภาพห้องตัวอย่างทุกแบบมาให้เพื่อนๆชมกัน..ห้องโครงการจะขายแบบ Fully Fitted คือได้ครัวบิ้วท์อิน ห้องน้ำ และตู้เสื้อผ้า สำหรับเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวอื่นๆ เป็นข้อดีที่จะลูกบ้านได้เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกใจและเหมาะกับตัวเองมากที่สุดครับ

3 Bedroom Duplex 135.50 Sqm

เริ่มกันที่ห้องแรก เป็น Type 3 bedrooms Duplex คือเป็นยูนิตที่มี 2 ชั้น ขนาด 135.50 ตารางเมตร ที่ชั้นล่าง จะมี 1 ห้องนอน และชั้น 2 อีก 2 ห้องนอน ความพิเศษของยูนิตนี้ คือสามารถเข้าถึงสระว่ายน้ำได้เลย เพราะมีระเบียงเชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางได้เลยครับ

เปิดประตูเข้าห้องมา มองตรงไปจะเจอ Living Area ก่อนอยู่ตรงกลาง คั่นระหว่างห้องนอนที่ชั้นล่างกับพื้นที่รับประทานหารและห้องครัวครับ

ห้องตัวอย่างจัดวาง โซฟาและทีวีไว้ให้ดูเป็นไอเดีย ซึ่งระยะระหว่างทีวี กับโซฟานี้ก็กว้างที่เดียว เลือกซื้อทีวี ขนาด 50-60 นิ้วได้เลยครับ แต่แนะนำว่าต้องเป็นทีวีที่ตั้งพื้นนะครับ ติดผนังอาจจะไม่เหมาะ เพราะผนังด้านนี้จะเชื่อมกับครัว ซึ่งโครงการให้เป็นผนังกระจกที่ทำให้รู้สึกว่าห้องกว้างขึ้น

Fool to Celling ของพื้นที่ห้องนั่งเล่นสูงถึง 4.8 เมตร รวมความสูงของชั้น 1 และชั้น 2 เข้าด้วยกันทำให้จะรู้สึกไม่อึดอัดคับแคบ

ห้องจากห้องนั่งเล่นมองย้อนกลับไปส่วนหน้าของยูนิต โครงการจะเว้นที่ไว้ให้ อาจจะบิ้วอินท์ เป็นตู้เก็บรองเท้ากระเป๋า อย่างในห้องตัวอย่างใส่ตู้รองเท้าเตี้ยๆ และติดกระจกด้านบน คุณอาจบิ้วท์อิน ตู้บานสูงเต็มเพดาน และเลือกหน้าบานเป็นกระจกเงา จะทำให้เก็บของได้มากขึ้น รวมถึงฟังก์ชันการใช้งานก็ยังครบเหมือนเดิมครับ ถัดจากพื้นที่เปลี่ยนรองเท้าหน้าห้อง โครงการทำหน้าบานเป็นตู้สำหรับพื้นที่เก็บของเล็กๆ เหมาะให้เก็บ Mop และอุปกรณ์ทำความสะอาดอื่นๆ นอกจากนี้ ห้อง type นี้จะมี powder room ไว้ให้ด้วยครับ เพื่อแยกความเป็นส่วนตัวของห้องน้ำสำหรับให้แขกใช้

ทางเข้าห้องนอนจะอยู่ถัดเข้ามา หลังโซฟาในห้องนั่งเล่น เป็นห้องนอนที่มีห้องน้ำในตัวครับ ก่อนจะเข้าดูห้องนอนแวบมาดูระเบียงของห้องนี้กันก่อนครับ

อย่างที่บอกครับ ห้องที่อยู่ ชั้น 1 จะมีทางส่วนตัวที่เข้าถึงสระว่ายน้ำได้เลย  เป็นการออกแบบที่ผสมสไตล์ของการอยู่แบบรีสอร์ท เข้าไปด้วย เหมือนคุณกำลังไปเที่ยวทะเล หรือแหล่งน้ำธรรมชาติ เปิดระเบียงออกไปก็เจอความเขียวขจีนั้นเลย ถ้าอยู่อาศัยจริงๆ เรื่องซักผ้าตากผ้าอาจจะต้องมีทั้งเครื่องซักและเครื่องอบผ้าด้วยครับ

พื้นห้องนั่งเล่นเป็นหินอ่อน ในขณะที่พื้นระเบียงเป็นลามิเนตลายไม้ ถูกกั้นแยกระดับด้วยกระจกตัดแสง ขอบเป็น Powder Code สีน้ำตาลไม่เป็นรอยนิ้วมือเวลาจับ เป็นลากจูง 3 ตอนครับ

จากห้องนั่งเล่น จะอยู่ติดกับส่วนของพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งโครงการจัดโต๊ะไว้สำหรับรับประทานอาหาร 6 คนไว้เป็นตัวอย่างครับ คุณอาจจะหาซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นได้ทั้งโต๊ะรับประทานอาหารและนั่งทำงานได้ด้วย เพื่อเพิ่มฟังก์ชันให้ใช้งานได้หลากหลายครับ

โครงการบิ้วท์อินครัวเล็กๆ แต่ครบทุกฟังก์ชันการใช้งานไว้ให้แล้วครับ อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ทำครัวไทยแบบจริงจัง แต่ถ้าอุ่นอาหารเล็กน้อย ข้าวต้ม หรือ อาหารเช้าแบบฝรั่ง ครัวที่โครงการเตรียมไว้ให้ ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานครับ

โครงการเตรียมตู้เก็บของ พร้อมหน้าบานเปิดปิดระบบ soft-close ให้เยอะเลยครับ เพียงพอให้คุณ เก็บข้าวของ ถ้วย ชาม จาน แก้ว แน่นอน

ห้องนอนที่อยู่ชั้น 1 วางเตียงขนาดใหญ่  6 ฟุตได้เลยครับ มีพื้นที่ Walk in Closet เป็นตู้บานเลื่อน แบ่งสองฝั่งแยกเสื้อผ้าได้สำหรับคุณผู้ชายและคุณผู้หญิง อยู่เชื่อมกับห้องน้ำครับ

ห้องน้ำ แยกส่วนเปียกแห้ง ได้พื้นและผนังเป็นหินอ่อนทั้งหมด กระจกกั้นอาบน้ำแบบนิรภัยและฝักบัวแบบ Rain Shower โครงการให้มากับห้องเลยครับ

ขึ้นมาที่ห้องนอนชั้น 2 ห้องนอนเล็กวางเตียงขนาด 3 ฟุตไว้ คุณอาจเปลี่ยนห้องนี้เป็นห้องทำงานก็ได้ครับ

มองจากห้องนอนเล็ก ลงไปข้างล่าง จะเจอนั่งเล่นพอดีครับ

สำหรับห้อง Master bedroom ห้องตัวอย่างวางเตียงขนาด 6 ฟุต ก็ยังเหลือพื้นที่อีกมาก จนสามารถจัดเป็นมุมเล็กๆ ให้นั่งอ่านหนังสือแล้วชมวิวต้นไม้สีเขียวด้านนอกไปด้วยได้

ฝั่งตรงข้ามปลายเตียง ยังเหลือที่ให้พอติดทีวีติดผนังได้ครับ แต่โดยส่วนตัวผมว่าถ้าไม่ติดจะทำให้ทางเดินสะดวกสบายขึ้นนะครับ

ห้องน้ำของ master bedroom ได้สุขภัณฑ์ และพื้นผนังเป็นหินอ่อนเหมือกับห้องน้ำข้างล่างครับ

ที่จะต่างออกไป ก็คือมีอ่างอาบน้ำให้ด้วยครับ เป็นอ่างแบบฝังติดไปเลยนะครับ ถ้าจะปล่อยเช่าคนญี่ปุ่นชาติที่มีวัฒนธรรมการแช่น้ำ ก็เป็นจุดเด่นที่จะทำให้ปล่อยเช่าได้ง่ายขึ้นครับ

2 Bedroom type 77.0 Sqm

มาต่อกับที่ห้องแบบ 2 ห้องนอนไซต์เล็กลงมาหน่อยอยู่ที่ 77.0 ตารางงเมตร การวางฟังก์ชั่นของห้อง type นี้ คือวางห้องนั่งเล่นไว้ตรงกลางแยกห้องนอนเล็กใหญ่ออกจากกัน จะทำให้ลูกบ้านที่อยู่อาศัย รู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้น และหากจะใช้เวลาร่วมกัน ก็ออกมาใช้พื้นที่ร่วมตรงกลาง บริเวณ Living area ได้ครับ

ส่วนหน้าของยูนิต เป็นพื้นที่ครัวเชื่อมกับพื้นที่รับประทานอาหาร มองตรงเข้าไปจะเห็นพื้นที่ Living area ซึ่งอยู่ติดกับระเบียง

ห้อง type นี้ ห้องตัวอย่างตกแต่งไว้เป็นแนวคาวบอย ให้ความรู้สึกแบบผู้ชาย บิ้วท์อินลายไม้ที่ผนังเป็นเพียงไอเดียที่ห้องตัวอย่างแต่งไว้ให้ชมครับ ผนังด้านนี้ค่อนข้างกว้างทีเดียว สามารถวางโซฟาตัวยาวนั่งได้ 3 คน ก็ยังเหลือพื้นที่ คุณอาจเลือกซื้อโซฟาที่เป็นตัว L ก็ยังพอให้วางได้สำหรับพื้นที่บริเวณนี้ และคงถูกในไม่น้อยสำหรับคนที่มักใช้พื้นที่ห้องเล่นมากกว่าส่วนอื่นๆในบ้าน

ฝั่งตรงข้างโซฟาวาง ทีวีไว้ขนาด 45 นิ้ว ซึ่งส่วนตัวผมคิดว่าพอดีแล้วนะครับ ถ้าใหญ่กว่านี้อาจจะเทอะทะไป และทำให้ห้องดูอึดอัดไปด้วยครับ

จากห้องนั่งเล่นมองย้อนกลับมา ส่วน Pantry ด้านหน้ายูนิต เป็นครัวขนาดพอๆห้อง type ที่แล้วครับ กระทัดรัดและเพียงต่อการใช้งานครับ

เข้ามาที่ห้องนอนเล็ก จะพอดี ที่จะวางเตียงขนาด 5 ฟุต ครับ หรือถ้าครอบครัวคุณยังเป็นครับขนาดเล็กลูกยังเล็กอยู่ เปลี่ยนเป็นเตียงขนาด 3 ฟุต และเพิ่มโต๊ะเขียนหนังสือสำหรับเด็ก ห้องนี้ก็จะลงตัวพอดีครับ

ห้องนอนเล็กจะใช้ห้องน้ำร่วมกับห้องน้ำรับแขก ซึ่งเข้าออกได้ 2 ทางครับ เสปควัสดุห้องน้ำเหมือนกันกับห้อง Type ที่แล้ว ได้พื้นและผนังหินอ่อน กระจกกั้นอาบน้ำและฝักบัวแบบ Rain Shower

คล้ายกับห้องน้ำในห้องนอนใหญ่ ที่สุขภัณฑ์ และพื้นผนัง เสปคเดียวกัน

ที่จะเพิ่มเข้ามาคือ อ่างอาบน้ำแบบฝังมาเลย ตอบโจทย์อย่างยิ่งสำหรับให้คนญี่ปุ่นในย่านพร้อมพงษ์เช่าอยู่อาศัย

จบห้อง type 2 bedroom ด้วยห้องนอนใหญ่นะครับ สามารถวางเตียงได้ขนาด 6 ฟุต ก็ยังเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะข้างเตียงได้สบายๆ ทั้งสองฝั่งแต่พื้นที่ปลายเตียงอาจจะแคบไปซักหน่อย หากใครชอบที่ดูที่ทีวีก่อนนอน ก็แนะนำให้ใช้ทีวีแบบติดผนังดีกว่าครับ

3 Bedrooms type 136.0 Sqm

ห้องตัวอย่าง Type สุดท้ายเป็นห้อง แบบ 3 bedrooms ขนาด 136 ตารางเมตร ส่วนตัวผมชอบการวางฟังก์ชันการใช้งานของห้อง type นี้มากที่สุดครับเป็นการวางฟังก์ชันที่ใช้งานแบบลงตัว ห้องที่อยู่ติดกันใกล้กันก็จะใช้งานเชื่อมต่อกัน ห้องนอนเล็กสองห้องใช้ห้องน้ำร่วมกันครับ ซึ่งผมว่าดีนะครับใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าแล้วก็ตอบโจทย์การใช้งานจริงๆ

ส่วนหน้าของยูนิต จะเป็นพื้นที่สำหรับเก็บรองเท้ากระเป๋าเหมือนเป็นพื้นที่เปลี่ยนถ่ายให้คุณรู้สึกว่ากลับมาถึงบ้านแล้ว ถัดเข้ามาจึงเป็นส่วนพักอาศัยจริงๆ เป็นพื้นที่รับประทานอาหารและถัดเข้าไปจึงเป็นห้องนั่งเล่นครับ

ห้องนอนเล็กทั้งสองห้อง สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ และยังเหลือที่ด้านข้าง ให้สามารถทำเป็นโต๊ะเขียนหนังสือ หรือโต๊ะเครื่องแป้งก็ได้ครับ โดยที่ห้องตัวอย่างตกแต่งไว้ให้ห้องหนึ่งเป็นห้องสำหรับลูกสาวและอีกห้องเป็นห้องสำหรับลูกชาย สำหรับตู้เสื้อผ้าจะบิ้วท์ไว้ให้ด้านหน้าติดกับประตูเข้าห้องนอนและทางเข้าห้องน้ำ

อย่างที่บอกไปครับ ห้องน้ำของห้องนอนเล็กจะใช้ร่วมกัน เข้าได้จากทั้งสองห้องทำให้ประหยัดพื้นที่ไปได้อีกมากเลยครับ ห้องน้ำในห้องน้ำเล็กนี้จึงมีอ่างแยกกันเป็น His & Her สำหรับสเปคห้องน้ำและสุขภัณฑ์อื่นๆ ก็เหมือกันกับห้อง type ที่แล้ว

ซึ่งห้องน้ำในส่วนของ Master Bedroom จะรวมกับพื้นที่ Walk in Closet ไปด้วยครับ มีบิ้วท์อินตู้แยกเสื้อผ้าให้สำหรับคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงแบ่ง 2 ฝั่งครับ

ห้องน้ำใหญ่จริงๆครับ ถ้าดูจาก Plan เทียบขนาดพื้นที่ด้วยสายตาก็พอๆกับห้องนอนเลยครับ ได้กระจกเงาบานสูงใหญ่เต็มผนัง พื้นที่ที่เป็นส่วนเปียกถูกกั้นแยกออกไปเป็น Sexy Bath อาจจะต้องติดม่านหรือสติกเกอร์ฝ้าเพิ่ม ในห้องน้ำได้ Rain Shower และอ่างน้ำอาบน้ำแบบฝังเช่นเดียวกันครับ

ออกมาที่ห้องนอน Master bedroom วางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ และยังเหลือพื่นที่เดินรอบเตียงกว้างมากๆ ซึ่งปลายเตียงของห้องนอนนี้จะเป็นกระจกโค้งนอนมองวิวได้สบายใจไปเลยครับ

กลับมาที่บริเวณรับประทานอาหารและครัว ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนหน้าของยูนิตกันครับ ห้องตัวอย่างวางโต๊ะสำหรับ รับประทานอาหารนั่งได้ 6 ที่ไว้ คุณอาจะเปลี่ยนเป็น 4 ที่เผื่อให้ห้องดูกว้างขึ้นได้อีกครับ

โซนรับประทานอาหารจะอยู่ติดกับครัวเลยครับ ซึ่ง Pantry ที่โครงการให้มา ก็เป็นขนาดพอดิบพอดี เก็บข้าวของเครื่องใช้ จาน ชาม ได้มาก แต่อาจจะไม่เหมาะสำหรับทำครัวไทยแบบจริงจัง

พื้นที่ห้องนั่งเล่น Living area จะอยู่ในสุด ติดกับระเบียง สามารถวางโซฟาตัว L  ขนาดใหญ่ได้ นั่งได้ทั้งครอบครัวเลยครับ

ด้านหลังโซฟา จะเป็นทางเดินออกไปที่ระเบียง ตำแหน่งของห้องนี้เป็นมุมที่ระเบียงมองออกไป เห็นสระว่ายน้ำทั้งหมดเลยครับ

เพราะฉะนั้น เราจะขอปิดการพาชมรีวิวห้องตัวอย่างด้วยภาพวิวสวยๆ มองจากระเบียงแล้วเห็น Vertical Garden สูง 8 ชั้นซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดขายของโครงการนี้เลยครับ

สำหรับ โครงการ Ashton Residence 41    ปัจจุบันยอดขายอยู่ที่ 75% แล้วนะครับใครที่สนใจต้องรีบแล้ว จะเหลือห้อง 2 bedrooms ประมาณ  15% สำหรับ 3 bed and Duplexเหลือประมาณ 10%ครับ ราคาเริ่มต้น 18.42 ล้านบาท กับโครงการกลางเมืองที่เน้นความเป็นส่วนตัว ในซอยที่ Private และยูนิตพักอาศัยเพียง  79 ยูนิตเท่านั้น อย่างที่กล่าวไปช่วงต้นรีวิวด้วยเรื่องของทำเล ซอย 41 นี้ในช่วงต้นซอย จะมี Service Apartment ค่อนข้างมาก ทำให้มีชาวต่างชาติทั้งญี่ปุ่นและแถบแสกน มาถามหาที่อยู่อาศัย แอบกระซิบคุยกับเซลล์โครงการเค้าบอกว่า มีมาถามหาห้องพักตลอด คิดว่าโครงการนี้น่าจะปล่อยเช่าได้ตลอดเลยครับ ตอนนี้โครงการก็แล้วเสร็จประมาณ 90% ขาดว่าไม่เกินสิ้นเดือนนี้จะเริ่มโอนแล้วครับ โอนแล้วปล่อยเช่าได้เลย เพื่อนๆคนไหนมองหาโครงการลงทุนระยะยาวปล่อยเช่า ก็ควรมีโครงการนี้อยู่ในตัวเลือกนะครับ สำหรับใครที่สนใจก็ต้องรีบหน่อย สามารถเข้าไปชมห้องจริง และห้องตัวอย่างได้เลย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คลิก หรือโทร 02 316 2222