การเคหะแห่งชาติสนองนโยบายรัฐบาลเร่งพัฒนาที่อยู่อาศัยรองรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยและผู้ใช้แรงงานในเขตการพัฒนาพื้นที่ 3 จังหวัด EEC จังหวัดระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา

 

ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor Development หรือ EEC) ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่ตำแหน่งทางยุทธศาสตร์การค้าและการลงทุนใน AEC ซึ่งประเทศไทยจะอยู่ในสถานะที่ดีกว่าเดิมในอนาคตอันใกล้ เพื่อมุ่งไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้วภายใน 20 ปีข้างหน้า โดยใช้พื้นที่ EEC เป็นประตูเชื่อมไทยสู่โลก สร้างฐานเศรษฐกิจภายในประเทศให้เจริญเติบโตเกิดความเข้มแข็งก้าวสู่ Thailand 4.0 โดยนําร่องในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา

 

ทั้งนี้ การเคหะแห่งชาติได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยในเขต EEC เพื่อรองรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางและรองรับผู้ใช้แรงงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษดังกล่าว ซึ่งอยู่ภายใต้แผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัย ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560 – 2579) ซึ่งจากการดำเนินงานที่ผ่านมา การเคหะแห่งชาติได้จัดสร้างโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดชลบุรี 27 โครงการ ประมาณ 18,000 กว่าหน่วย โครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดฉะเชิงเทรา 10 โครงการ จำนวน 4,800 หน่วย และโครงการที่อยู่อาศัยในจังหวัดระยอง จำนวน 16 โครงการ จำนวน 6,637 หน่วย

 

นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างในพื้นที่ 3 จังหวัด 4 โครงการ จำนวน 1,891 หน่วย ได้แก่ โครงการเคหะชุมชนจังหวัดชลบุรี (บ่อวิน) ระยะที่ 2 จำนวน 415 หน่วย โครงการเคหะชุมชนจังหวัดระยอง (ตะพง) ระยะที่ 2 จำนวน 344 หน่วย  โครงการอาคารเช่าจังหวัดฉะเชิงเทรา (บางปะกง) จำนวน 588 หน่วย และโครงการอาคารเช่าจังหวัดชลบุรี (แหลมฉบัง) ระยะที่ 1 จำนวน 544 หน่วย

 

ดร.ธัชพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีงบประมาณ 2560 การเคหะแห่งชาติได้นำเสนอโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง เพื่อขอความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ก่อนนำเสนอขออนุมัติการจัดทำโครงการจากคณะรัฐมนตรีภายในเดือนเมษายน 2561 โดยมีโครงการที่อยู่ในพื้นที่ EEC จำนวน 3 โครงการ 1,298 หน่วย ได้แก่ โครงการเคหะชุมชนจังหวัดฉะเชิงเทรา (แปลงยาว) จำนวน 362 หน่วย โครงการอาคารเช่าจังหวัดระยอง (มาบตาพุด) ระยะที่ 1 จำนวน 392 หน่วย และโครงการอาคารเช่า จังหวัดชลบุรี (แหลมฉบัง) จำนวน 544 หน่วย

 

นอกเหนือจากโครงการดังกล่าวแล้ว การเคหะแห่งชาติยังมีที่ดินที่รอการพัฒนาในระยะเวลาที่เหมาะสมอีกจำนวน 4 แปลง ได้แก่ ฉะเชิงเทรา (ลาดขวาง), ชลบุรี (บ้านบึง), ชลบุรี (พลูตาหลวง) และระยอง (ตะพง) รวมทั้งมีแผนการจัดหาที่ดินเพื่อจัดทำโครงการที่อยู่อาศัยให้บรรลุตามแผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัย ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560 – 2579