“แม่น้ำ เรสซิเดนท์”ปรับแผนตลาดดึงโจนส์ แลงฯบริหารงานขาย ขยายฐานกลุ่มนักลงทุนไทย-เทศเพิ่ม หวังปิดขายยูนิตที่เหลือคอนโดฯหรู ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในปีนี้ ล่าสุดยอดขายพุ่งกว่า90% ด้านโจนส์ แลงฯเผยคอนโดฯลักชัวรี่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วง 1-2 ปี ขยายตัวสูงถึง 20%  

 

 

นายเดชา ตั้งสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม่น้ำ เรสซิเดนท์ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการแม่น้ำ เรสซิเดนท์ เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2561 ว่ายังคงเติบโตตามอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ GDP ของประเทศที่ขยายตัว 4.5% เพราะแผนการลงทุนของภาครัฐในช่วงที่ผ่านมา มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว โดยเฉพาะการลงทุนโครงการระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนหลายสายในพื้นที่รอบเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จึงทำให้อนาคตการเชื่อมโยงของกรุงเทพชั้นในกับปริมณฑล มีความสะดวกสบายขึ้น โดยเฉพาะในโซนพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่จะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีทอง(ธนบุรี-เจริญนคร) รองรับการเติบโตของโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่หลายโครงการที่จะเปิดตัวพร้อมกันในอีก 1-2 ปีข้างหน้า

 

 

ทั้งนี้การเติบโตของพื้นที่นอกจากจะส่งผลบวกให้กับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวมแล้ว ในกรณีของตลาดคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีลักษณะโครงการแบบมิกซ์ยูส (Mix Use) ระหว่างโรงแรมและคอนโดมิเนียมซึ่งมีบริการมาตรฐานระดับห้าดาวขึ้นไป โดยบนทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยาก็เช่นเดียวกัน เพราะกลุ่มลูกค้าในตลาดนี้เป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้านักธุรกิจ และชาวต่างชาติ  การลงทุนที่อยู่อาศัยในตลาดคอน โดฯ ลักชัวร์รี่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จึงยิ่งมีความน่าสนใจ จากมูลค่าของสินทรัพย์ที่ราคาปรับสูงขึ้นในทุกๆปี

 

“โครงการต่างๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ก่อสร้างกันอยู่ในหลายๆแห่ง กำลังจะแล้วเสร็จ ในอีก 1-2 ปี เราจะเห็นภาพที่ชัดเจน ซึ่งโครงการขนาดใหญ่เหล่านี้จะสนับสนุนศักยภาพของทำเลริมแม่น้ำ เจ้าพระยาให้กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ เป็นทำเลที่งดงามและมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว (ซิกเนเจอร์) ในด้านอารยธรรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งสามารถสัมผัสได้จากไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยที่ชัดเจนและโดดเด่น โดยปัจจัยดังกล่าวนี้จะเป็นสิ่ง ดึงดูดกำลังซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศให้หลั่งไหลเข้าพื้นที่ และสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวให้ คึกคักอย่างมีนัยอีกด้วย” นายเดชา กล่าว

 

นายเดชา กล่าวต่อไปว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการแม่น้ำเรสซิเดนท์  ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 5 ไร่เศษ ขนาด 270 – 280 ตารางเมตร ปัจจุบันราคาขายอยู่ที่ 60 – 80 ล้านบาท หรือราคาเฉลี่ย 200,000 บาท/ตารางเมตร จำนวน 294 ยูนิต มูลค่าโครงการ 4,000  ล้านบาท  ขณะนี้มียอดขายแล้วกว่า 90% โดยมีห้องที่ยังเหลือขาย จำนวน 26 ยูนิต มูลค่า 785 ล้านบาท เป็นห้องเพนท์เฮาส์ 6 ยูนิต  อย่างไรก็ดี บริษัทฯ มั่นใจว่าห้องเพนท์เฮาส์ที่เหลือจะปิดการขายได้ทั้งหมดภายในปีนี้ เนื่องจากได้มีการปรับกลยุทธ์การตลาดใหม่ ที่มุ่งเน้นการบริการลูกค้าอย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น และสร้างรสสัมผัสการอยู่อาศัยให้กับลูกค้าในลักษณะของความเป็น Exclusive รองรับกับความต้องการของผู้บริโภคในกลุ่มนี้ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของ ลูกค้าให้เร็วขึ้น อีกทั้งได้ขยายตลาดจับกลุ่มนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้นด้วย โดยล่าสุดได้แต่งตั้งบริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ JLL เป็นบริษัทบริหารการตลาดและการขาย

 

 

ด้านนางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ JLL กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ยังมีโอกาสการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และหากพิจารณาในเซกเมนต์ของสินค้าประเภทคอนโดมิเนียม โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมลักชัวรี่และซุปเปอร์ลักชัวรี่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีจำนวน 17,200 ยูนิต หรือคิดเป็น 3% ของตลาดคอนโดมิเนียมทั้งหมดในกรุงเทพฯ พบว่าเป็นคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำจำนวน 2,600 ยูนิต หรือคิดเป็น 15% ของคอนโดฯในกลุ่มลักชัวรี่และซูเปอร์ลักชัวรี่ มีอัตราการเติบโตของราคาพื้นที่ ต่อตารางเมตรสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลเมื่อปี2555 ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นมา 80% ปัจจุบันราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 246,000 บาทต่อตารางเมตร ดังนั้นมองว่าอัตราการเติบโตของตลาดคอนโดมิเนียมลักชัวร์รี่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วง 1-2 ปี จะขยายได้ตัวสูงถึง 20%

 

“โครงการแม่น้ำเรสซิเดนท์ เป็นอีกหนึ่งโครงการริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่คุ้มค่าต่อการที่จะลงทุนไว้เพื่ออยู่อาศัย โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีกำลังซื้อทั้งชาวไทย และนักธุรกิจชาวต่างชาติที่มีไลฟ์สไตล์และมีความนิยมที่อยู่อาศัยริมแม่น้ำ ซึ่งมีความสวย สงบ เป็นส่วนตัว เพราะนอกเหนือจากความโดดเด่นด้านทำเลที่มองเห็นวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาที่งดงามที่สุดแล้ว แม่น้ำเรสซิเดนท์ ได้ออกแบบอาคารที่ทำให้สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำได้ทุกห้อง ทั้งยังมอบบริการระดับเดียวกับโรงแรมห้าดาวให้กับลูกค้าด้วย โดยเฉพาะห้องเพนท์เฮาส์ของแม่น้ำเรสซิเดนท์ ที่ตกแต่งพร้อมอยู่ ลูกค้าสามารถเข้าอยู่ได้เลย โดยมีข้อได้เปรียบในเรื่องของทำเลที่ดีบนถนนเจริญกรุง ซึ่งเป็นราคาที่มีความคุ้มค่ามาก”นางสุพินท์ กล่าวในที่สุด