เจแอลแอล ประกาศทุ่มงบ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จัดตั้งกองทุน “JLL Spark Global Venture Fund” สำหรับเข้าลงทุนในกลุ่มบริษัทสตาร์ทอัพที่พัฒนาเทคโนโลยีด้านอสังหาริมทรัพย์ หวังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานหน่วยธุรกิจด้านต่างๆของบริษัท คาดการลงทุนสตาร์ทอัพด้านอสังหาฯในเอเชียแปซิฟิกจะพุ่งสูงขึ้นเป็น 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี63

 

 

นายคริสเตียน อัลบริค  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลส์ อิงค์  หรือ เจแอลแอลเปิดเผยว่า เจแอลแอล สปาร์ค ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจที่ดูแลงานด้านเทคโนโลยีของของบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์เจแอลแอล ประกาศจัดตั้งกองทุนในชื่อ JLL Spark Global Venture Fund ด้วยเงินทุน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 32,000 ล้านบาท สำหรับเข้าลงทุนในกลุ่มบริษัทสตาร์ทอัพที่พัฒนาเทคโนโลยีด้านอสังหาริมทรัพย์ (proptech) เทคโนโลยีที่จะสามารถช่วยปรับปรุงทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาโครงการ การบริหารจัดการ การซื้อขายและให้เช่า ตลอดไปจนถึงการลงทุน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ผู้ครอบครอง ใช้ประโยชน์ หรือลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ กองทุนดังกล่าวจะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ด้วยการเปิดโอกาสให้ได้เข้ามาร่วมงานกับหน่วยธุรกิจบริการด้านต่างๆ รวมจนถึงลูกค้าของเจแอลแอล ซึ่งนอกจากจะมีโอกาสในการกระจายผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีของตนแล้ว ยังจะได้รับรู้ความคิดเห็นเชิงลึกจากเจแอลแอลและลูกค้า เกี่ยวกับเทคโนโลยีของตน เพื่อนำไปใช้ปรับปรุงต่อยอดต่อไป

 

ทั้งนี้ รายงานการวิจัยที่เจแอลแอลร่วมจัดทำกับ Tech in Asia เมื่อเร็วๆ นี้ ระบุว่า การลงทุนของกลุ่มบริษัทสตาร์ทอัพที่พัฒนาเทคโนโลยีด้านอสังหาริมทรัพย์ (proptech) ในเอเชียแปซิฟิก มีการขยายตัวสูงกว่ากลุ่มบริษัทประเภทเดียวกันในยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยในระหว่างปี 2556 ถึงกลางปี 2560 บริษัทสตาร์ทอัพในกลุ่ม proptech 179 บริษัทของเอเชียแปซิฟิกมีการลงทุนรวมมูลค่าทั้งสิ้น 4,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 153,600 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 60% ของมูลค่าการลงทุนโดยกลุ่มบริษัทประเภทเดียวกันทั่วโลก นอกจากนี้ยังคาดว่า การลงทุนของบริษัทกลุ่มนี้ในภูมิภาคดังกล่าวจะพุ่งสูงขึ้นเป็น 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 144,000 ล้านบาทภายในปี 2563

 

“การตั้งกองทุนที่มีมูลค่าสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์ครั้งนี้จะช่วยให้เจแอลแอลสามารถเป็นผู้นำของภาคอสังหาริมทรัพย์ในการทำให้ความคิดสร้างสรรค์ทางเทคโนโลยีที่ดีที่สุดต่างๆ กลายเป็นจริง เป็นการเกื้อหนุนและต่อยอดการลงทุนสูงของเราในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านดิจิตอล ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญในวิสัยทัศน์ทางธุรกิจของเรา รวมจนถึงความมุ่งมั่นที่จะช่วยให้ลูกค้าของเราบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ” นายคริสเตียน กล่าว

 

 

ด้านนายมิเฮียร์ ชาห์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม เจแอลแอล สปาร์ค  กล่าวว่า หลายเมืองในเอเชียแปซิฟิกจัดอยู่ในกลุ่มเมืองอัจฉริยะหรือสมาร์ทซิตี้ชั้นนำของโลก ซึ่งความเป็นสมาร์ทซิตี้ของหลายเมืองเหล่านี้ อาศัยเทคโนโลยีด้านอสังหาริมทรัพย์ หรือ proptech เป็นตัวผลักดัน ดังนั้น เจแอลแอลจึงมีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการเติบโตของกลุ่มบริษัทสตาร์ทอัพ proptech ในเอเชียแปซิฟิก เพื่อให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นศูนย์กลางแห่งนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเพื่ออสังหาริมทรัพย์ การจัดตั้ง JLL Spark Global Venture Fund เป็นการต่อยอดเป้าหมายของเราในด้านนี้

 

“กองทุนที่จัดตั้งขึ้น จะเปิดโอกาสให้เราได้ร่วมเป็นหุ้นส่วนกับผู้ประกอบการlสตาร์ทอัพทั้งในระดับประเทศและระดับโลกที่จะสามารถอาศัยหน่วยธุรกิจบริการด้านต่างๆ ของเจแอลแอลเป็นช่องทางในการขยายการเติบโตให้กับบริษัทของตน ควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าของเรา” นายมิเฮียร์ กล่าว

 

ในเบื้องต้น กองทุนที่เจแอลแอลจัดตั้งขึ้นจะเน้นการลงทุนในกลุ่มตาร์ทอัพที่เพิ่งเริ่มพัฒนาเทคโนโลยีใหม่และกลุ่มสตาร์ทอัพที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีสำเร็จแล้วและพร้อมขยายการเติบโต เม็ดเงินที่จะใช้ลงทุนในสตาร์ทอัพแต่ละรายจะมีตั้งแต่กี่พันไปจนถึงหลายล้านดอลลาร์ โดยจะเน้นที่สตาร์ทอัพที่มีผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่มีประโยชน์โดยตรงต่อลูกค้าของเจแอลแอล หรือที่จะช่วยปรับปรุงบริการต่างๆ ของเจแอลแอลที่มีอยู่ให้ดีขึ้น รวมไปจนถึงเทคโนโลยีที่จะช่วยให้เจแอลแอลมีโอกาสขยายบริการไปยังลูกค้ากลุ่มใหม่ได้