“อนันดาฯ” เผย 5 ปีราคาที่ดินทำเลพระราม 4 ปรับขึ้นเฉลี่ย 46% ส่งผลราคาคอนโดพุ่งตาม “ชานนท์ เรืองกฤตยา”ชี้จากนี้ไปคอนโดใหม่ที่เปิดขายราคาเริ่มไม่ต่ำกว่า 300,000 บาทต่อตร.ม.

 

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)หรือ ANAN เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในทำเลถนนพระราม 4 ว่า เป็นทำเลที่มีศักยภาพและเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจที่สำคัญในกรุงเทพ ที่มีการพัฒนาโครงการอสังหาฯในลักษณะที่เป็นมิกซ์ยูสขนาดใหญ่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ราคาที่ดินและราคาคอนโดมิเนียมปรับเพิ่มขึ้นตาม โดยในช่วง 5 ปีย้อนหลังราคาที่ดินในทำเลสามย่าน-พระราม 4  เติบโตเฉลี่ย 46% จาก746,000 บาทต่อตารางวา หรือ ตร.ว. เป็นกว่า 1 ล้านบาทต่อตร.ว.ขณะที่คอนโดมิเนียมราคาขายเฉลี่ยมากกว่า 250,000 บาทต่อ ตารางเมตรหรือ ตร.ม. และเชื่อว่าการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่จากนี้ไปราคาขายเริ่มไม่ต่ำกว่า 300,000 บาท ต่อตร.ว.

 

“อีก 5 ปีข้างหน้า พระราม 4 คือ NEW Sukhumvit และทำเล CBD ในกรุงเทพฯจะเป็นเมืองอินเตอร์เนชั่นแนล  เหมือนลอนดอน ที่คนอังกฤษไม่ได้อยู่ในเมือง แต่จะเป็นคนต่างชาติที่มาอยู่ ขณะที่คนอังกฤษเองก็จะไปอยู่ชานเมือง ซึ่งอนาคต CBD ของกรุงเทพฯก็เป็นแบบเดียวกัน” นายชานนท์ กล่าว

สำหรับความคืบหน้าโครงการ“แอชตัน จุฬา-สีลม ”เป็นโครงการร่วมทุนกับ“มิตซุย ฟูโดซัง”จากประเทศญี่ปุ่นนั้น ขายไปแล้ว 85% และกำลังเปิดขายในส่วนที่เหลือ 15 % ซึ่งส่วนใหญ่เป็นห้องชุดขนาด1 ห้องนอนพื้นที่ใช้สอย 30-35 ตร.ม.โครงการดังกล่าวเป็นคอนโดมิเนียมระดับลักชัวร์รี่ สูง 56 ชั้น จำนวน 1,182 ยูนิต มูลค่ากว่า 8,500 ล้านบาท ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มส่งดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์แก่ลูกค้าในปลายเดือนมิถุนายน 2561นี้ ทั้งนี้คอนโดฯแบรนด์ “แอชตัน”ระดับราคาขายอยู่ที่ 200,000-250,000 บาทต่อ ตร.ม.

 

 “โครงการ แอชตัน จุฬา-สีลม แม้จะปรับเพิ่มราคาขาย 20% ก็ยังถือว่าถูกกว่าราคาตลาด”นายชานนท์ กล่าว

โครงการดังกล่าวมีให้เลือก 3 รูปแบบ คือ Studio 24.5-26 ตร.ม. 1 Bedroom 30.5-34.5 ตร.ม. และ 2 Bedrooms 57.5-66 ตร.ม. ด้วยการออกแบบใน สไตล์ Modern Luxury & Eclectic Style เป็นการออกแบบห้องพักโดยใช้กระจกสูงเข้ามุมโค้ง ทำให้เมื่ออยู่ภายในอาคารจะได้พื้นที่เสมือนยื่นไปในอากาศ ตัวอาคารใช้โทนสีน้ำเงินเข้ม สลับกับการใช้ Double Skin Facade โดยการเพิ่มกระจกบานเลื่อนที่ระเบียงห้องอีกหนึ่งชั้น ตัวอาคารจึงดูเรียบและล้ำสมัย และมีความเป็น Iconic skyscraper ส่งเสริมความสวยงามของ Skyline กรุงเทพ นอกจากนี้ยังมีการออกแบบให้อาคารเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยแนวคิด Eco Urban Living ใช้หลอดประหยัดไฟทั้งอาคาร, EV Charger และจุดจอดจักรยานเพื่อรองรับ Eco-Friendly Lifestyle

นอกจากนี้ ภายในโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ สระว่ายน้ำระบบเกลือ & โอโซน , สระออนเซ็น, Double Floor Sky Fitness, Life Style Club & Wine Bar พร้อมด้วย Library และ Exclusive Business Lounge นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สวนขนาดใหญ่ที่ให้ความร่มรื่น ภายใต้แนวคิด Urban Oasis และที่พิเศษสุดกับ Life Style Club & Wine Bar เป็นห้องที่สามารถมองวิวสูงกรุงเทพได้แบบพาโนรามา พื้นที่แบบ Double space ให้ความรู้สึกโปร่ง มีการตกแต่ง สไตล์ Modern and Luxury ผสมกลิ่นอายความเป็น Classical และ Eclectic Style เป็นต้น

 

นายชานนท์  ยังกล่าวว่าบริษัทฯเตรียมเปิดขายโครงการใหม่ 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 8,047 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการคอนโดมิเนียมร่วมทุน จำนวน 1 โครงการ และโครงการแนวราบที่บริษัทฯจะพัฒนาเอง จำนวน 2 โครงการ และยังคงเป้าหมายยอดขายปี 2561 ไว้ที่ 35,000 ล้านบาท ส่วนเป้ารายได้(ยอดโอน)ในปีนี้ตั้งไว้ที่ 38,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 152% ในจำนวนนี้เป็นแบรนด์  “แอชตัน”กว่า 15,672 ล้านบาท