แสนสิริฯ เปิดตัวคอนโดฯแบรนด์ใหม่ “XT”พร้อมกัน 3 ทำเลรวด เอกมัย ห้วยขวาง พญาไท มูลค่ารวม 21,000 ล้านบาท เจาะตลาดกลุ่มมิลเลนเนียล เปิดพรีเซลในงาน“XT Dimension” ระหว่างวันที่ 3-5 สิงหาคม 61นี้ ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน คาดปิดการขายภายใน 2 ปี

 

 

นายปิติ จารุกำจร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน)หรือSIRI เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวแบรนด์โครงการ XT ซึ่งเป็นแบรนด์ใหม่ของแสนสิริฯ พร้อมกันถึง 3 โครงการ  3 ทำเล ได้แก่ เอกมัย ห้วยขวาง พญาไท มูลค่ารวม 21,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นมูลค่าการเปิดตัวโครงการพร้อมกันสูงสุดในประวัติการณ์ของบริษัท มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายกลุ่มมิลเลนเนียล หรือ Central Millennial District (CMD)

 

โดยโครงการ “XT เอกมัย” ซึ่งเป็นโครงการที่แสนสิริร่วมกันพัฒนากับบริษัท โตคิว คอนสตรัคชัน จำกัด ตั้งอยู่บนพื้นที่ 2 ไร่ เป็นคอนโดฯสูง 38 ชั้น  ราคาเริ่มต้น 4.59 ล้านบาทขึ้นไป หรือราคาประมาณ 175,000 บาทต่อตารางเมตร จำนวน 537 ยูนิต   มูลค่าโครงการ3,540 ล้านบาท

 

โครงการ XT ห้วยขวาง  ตั้งอยู่บนพื้นที่ 6 ไร่  เป็นคอนโดฯสูง 43 ชั้น  ราคาเริ่มต้น 3.69 ล้านบาทขึ้นไป หรือราคาประมาณ 185,000 บาทต่อตารางเมตรจำนวน 1,404 ยูนิต มูลค่าโครงการ 7,530 ล้านบาท 

 

และโครงการ XT พญาไท ตั้งอยู่บนพื้นที่ 3 ไร่  ราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาทขึ้นไปหรือประมาณ 220,000 บาทต่อตารางเมตร  มูลค่าโครงการ 10,800 ล้านบาท 

 

โดยทั้ง 3 โครงการ จะเปิดการขายพร้อมกันภายในงาน “XT Dimension” ระหว่างวันที่ 3-5 สิงหาคม 2561นี้ ณ ลานพาร์ค พารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งบริษัทตั้งเป้ายอดขายของโครงการคอนโดมิเนียม XT ทั้ง 3 โครงการ ตั้งแต่เปิดพรีเซลถึงสิ้นปี 2561 ไว้ที่ 50% ของจำนวนยูนิตทั้งหมดของ 3 โครงการรวม 3,500 ยูนิต โดยที่จะมีการแบ่งไปขายให้กับลูกค้าชาวต่างชาติสัดส่วน 40% ผ่านตัวแทนขายที่เป็นพันธมิตรของบริษัท ซึ่งกลุ่มลูกค้าต่างชาติเป้าหมายจะเป็นชาวฮ่องกง สิงคโปร์ และจีน และคาดว่าทั้ง 3 โครงการ จะใช้ระยะเวลา 2 ปีในการปิดขาย  โดยที่ปัจจุบันได้เปิดการขายโครงการ XT เอกมัย ให้กับลูกค้าชาวต่างชาติไว้แล้ว และได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวต่างชาติพอสมควร

 

ส่วนการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ XT ในอนาคต ยังคงเน้นทำเลที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายชาวมิลเลนเนียล ซึ่งจะเป็นทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกและสถานที่ไลฟสไตล์รายล้อม มีการคมนาคมที่สะดวก ประกอบกับทำเลของโครงการสามารถลงทุนได้ทั้งการปล่อยเช่าและขายต่อ ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่อลงทุนคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% และลูกค้าซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง 60% โดยระดับราคาขายของแบรนด์ XT จะอยู่ที่ระดับ B ราคา 150,000-250,000 ต่อตารางเมตร หรือใกล้เคียงกับแบรนด์ THE LINE

 

ด้านนายนพปฎล พหลโยธิน ประธานบริหารฝ่ายสร้างสรรค์ SIRI กล่าวว่า วิสัยทัศน์การพัฒนาโครงการอย่างไม่หยุดนิ่งของแสนสิริในฐานะผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่ให้ความสำคัญสูงสุดกับลูกค้า(Human Centric) ตามแนวคิดการสร้างสรรค์และส่งมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบ ประกอบกับการที่เศรษฐกิจมีการส่งสัญญาณในภาพรวมเป็นไปในทางบวก ส่งผลให้เกิดการพัฒนาโครงการใหม่ ของแสนสิริที่เกิดขึ้นจากการวิจัยและศึกษาพฤติกรรมเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง ทั้งนี้ หนึ่งในเป้าหมายที่แสนสิริให้ความสำคัญและต้องจับตามอง ได้แก่ คนมิลเลนเนียล หรือกลุ่มประชากรที่เกิดในช่วงระหว่างปีค.ศ. 1980-2000 ที่ได้กลายมาเป็นกลุ่มคนที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เห็นได้จากพนักงานของแสนสิริเอง ก็เป็นคนมิลเลนเนียลมากถึง 60% และหากดูตามสถิติของลูกค้าแสนสิริตั้งแต่ปี 2013-2017 จะพบว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่อายุตั้งแต่ 21-30 ปี มาซื้อโครงการของแสนสิริเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 25% ในระยะเวลา 5 ปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต