ออลล์ อินสไปร์ฯ เผยทำเลลาซาล ดีมานด์ยังมีต่อเนื่อง สินค้าตอบโจทย์ จับต้องได้ ล่าสุดเตรียมเปิดตัวคอนโดฯใหม่ล่าสุด “ดิ เอ็กเซล ลาซาล 17” ราคาเริ่มต้นเพียง 1.39 ล้านบาท มูลค่าโครงการกว่า 1,335 ล้านบาท พร้อมเปิดพรีเซล 25 ส.ค.นี้ มั่นใจวันเดียวกวาดยอดขาย 80%

 

 

นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยครึ่งปีหลัง2561ว่าจะมีความคึกคักมากขึ้น ผู้ประกอบการเปิดขายโครงการใหม่มากขึ้น ซึ่งสร้างความตื่นตัวให้กับตลาดอสังหาฯ โดยทำเลที่น่าสนใจนั้นมีทั้งพื้นที่เมืองชั้นในและชั้นนอก รวมถึงพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสุขุมวิทตอนปลาย อาทิ ลาซาล ที่ปัจจุบันคอนโดมิเนียมในย่านดังกล่าว ได้รับความสนใจและมีความต้องการ เป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีประชากรหนาแน่นเพิ่มขึ้นทุกปีและราคาคอนโดมิเนียมยังไม่สูงมากนักเมื่อเทียบกับย่านอื่นๆ

 

โดยตลาดคอนโดมิเนียมในทำเลลาซาล มีโครงการที่ยังเปิดขายอยู่ราคาตั้งแต่ 80,000 – 135,000 บาท/ตารางเมตร  ขึ้นอยู่กับระยะห่างจากสถานีรถไฟฟ้า ปัจจุบันในทำเลนี้มีซัพพลายคงเหลือไม่ถึง 1,000 ยูนิต โดย Segment ที่เหลือยูนิตน้อยที่สุดคือคอนโดฯราคาต่ำกว่า 80,000 บาท/ตารางเมตร  ที่เหลือมีซัพพลายไม่มาก เพราะในแต่ละปีผู้ประกอบการก็จะเปิดโครงการในราคาที่สูงขึ้นเรื่อยๆเฉลี่ยปีละ 6% อีกทั้การลงทุนซื้อเพื่อปล่อยเช่าคอนโดฯ ทำเลลาซาลได้อัตราผลตอบแทนจะอยู่ที่ 5 – 6% ต่อปี โดยห้องที่นิยมปล่อยเช่าจะเป็นประเภท 1 ห้องนอน ราคาประมาณ 10,000 – 14,000 บาท/เดือน หรือตารางเมตรละ   350 – 450 บาท/เดือน(ขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการ)

 

ทางออลล์ อินสไปร์ฯจึงเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ล่าสุด“ดิ เอ็กเซล ลาซาล17” (The Excel Lasalle 17) ตั้งอยู่บนพื้นที่ 4.3 ไร่ ในรูปแบบของคอนโดมิเนียม Low Rise สูง 8 ชั้น 4 อาคาร  ขนาดตั้งแต่ 25-44 ตารางเมตร จำนวน 581 ยูนิต  ราคาเริ่มต้นเพียง 1.39-2.9 ล้านบาท หรือ 65,000 บาท/ตารางเมตร  มูลค่าโครงการ 1,335 ล้านบาท โดยจะเปิดพรีเซลในวันที่ 25 สิงหาคม 2561 นี้ คาดว่าในวันดังกล่าวจะสามารถปิดยอดขายได้ประมาณ 80% ด้านการก่อสร้างจะเริ่มดำเนินการในเดือนมีนาคม 2562 และจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2563

 

 

“ปัจจุบันซอยลาซาลหรือถนนสุขุมวิท 105 ได้มีการพัฒนาความเจริญและบรรยากาศคึกคักเป็นอย่างมาก ส่วนหนึ่งมีผลมาจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวหมอชิต-สำโรง สามารถเดินทางสะดวก ทำให้การเข้า-ออกเมืองค่อนข้างสะดวกสบาย ตอบโจทย์ทั้งคนที่มีและไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ยิ่งไปกว่านั้นการเกิดขึ้นของโครงการรีเทลขนาดใหญ่ ทั้งศูนย์รวมของแต่งบ้าน ห้างสรรพสินค้า และคอมมูนิตี้มอลล์ ในย่านนี้ จะทำให้การใช้ชีวิตในลาซาลครบครัน โดยที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางเข้าไปยังกรุงเทพฯ ชั้นใน” นายธนากร กล่าว

นอกจากนั้นในอีกฝั่งของทำเลลาซาล ด้านถนนศรีนครินทร์ ก็ยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ลาดพร้าว – สำโรง ซึ่งได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้วในปี2561นี้ โดยมีเส้นทางเชื่อมระหว่างตอนบน ของกรุงเทพฯ ช่วงลาดพร้าวไปทางทิศตะวันออกที่สถานีสำโรง จำนวนทั้งหมด 23 สถานี คาดว่าเปิดให้บริการประมาณปี 2563 ซึ่งจะทำให้ทำเลลาซาลได้อานิสงส์ไปเต็มๆ เพราะซอยสุขุมวิท 105 ติดกับถนนศรีนครินทร์ จะเป็นที่ตั้งของสถานีศรีลาซาล (โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง) อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่สถานีสำโรง ทำให้ศักยภาพทำเลลาซาลนั้นสูงมา กขึ้น เนื่องจากมีรถไฟฟ้าขนาบทั้งสองข้าง และยังใกล้จุดอินเตอร์เชนจ์ของ รถไฟฟ้าทั้งสองสายอีกด้วย