ริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH ชี้แจงผลการดำเนินงานบริษัทงวด 3 เดือนและ  6 เดือนสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 โดยมีรายละเอียด ดังนี้ สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2 ประจำปี 2561 ยังคงมาจากรายได้ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก ทั้งนี้เปรียบเทียบยอดขายสำหรับ 3 เดือนและ 6 เดือน สิ้นสุด วันที่ 30 มมมิถุนายน 2561 และ ปี 2560 แบ่งตามผลิตภัณฑ์ ดังนี้

ไตรมาส 2/2561บริษัทมียอดขายจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 11,680 ลานบาท ลดลง 1,166 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 9.1 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2560 และสำหรับยอดขายในครึ่งปีแรกของปี 2561 เท่ากับ 24,376 ล้านบาท ลดลง 1,773 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 6.8 ล้านบาท เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2560 โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 มีการเปิดโครงการใหม่ 26 โครงการมูลค่าโครงการ 19,949 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับโครงการที่เปิดใหม่ในรอบเวลาเดียวกันของปี 2560 ที่มีจำนวน 33 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 32 ,214 ล้านบาท โดยยังคงเน้นที่การเปิดตัวโครงการของกลุ่มทาวน์เฮ้าส์จำนวน 18 โครงการ มูลค่า 10,104 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว 6 โครงการ มูลค่า 6,544 ล้านบาท และโครงการอาคารชุดจำนวน 2 โครงการมูลค่า 3,301 ล้านบาท ได้แก่โครงการ เดอะทรี ลาดพร้าว 15 และเดอะรีเซิร์ฟ สาทร

 

บริษัทมียอดขายในช่วงครึ่งปีแรกลดลงจากปีก่อน  จากกลุ่มผลิตภัณฑ์อาคารชุด ทาวน์เฮ้าส์ มูลค่า 2,006 ล้านบาท ,472 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 18.9 และ 4.1  ตามลำดับ สำหรับส่วนที่เพิ่มขึ้นมาจากผลุ่มผลิตภัณฑ์บ้านเดี่ยว เพิ่มขึ้น 703 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.1

เปรียบเทียบผลการดำเนินงานสำหรับงวด 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2561 และ 2560

เปรียบเทียบผลการดำเนินงานสำหรับงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2561 และ2560

รายได้

สำหรับไตรมาส 2/2561 บริษัทมีรายได้ทั้งหมดมาจากกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ ประกอบด้วยรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เท่ากับ 10,930 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ 48 ล้านบาท รวมรายได้เท่ากับ 10,978 ล้านบาท

 

สำหรับรายได้รอบ 6 เดือน ของปี 2561 บริษัทมีรายได้ทั้งหมดจากกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ ประกอบด้วยรายได้จากการขายอสังหาฯเท่ากับ 19,282 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ 64 ล้านบาท รวมรายได้เท่ากับ 19,346 ล้านบาท

 

สามารถแบ่งรายได้ตามผลิตภัณฑ์สำหรับรอบระยะเวลา 6 เดือนประกอบด้วย

สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2561  ภาพรวมกลุ่มธุรกิจอสังหาฯมีรายได้ที่ 19,282 ล้านบาท ลดลง 1,271 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 6.2 เมื่อเทียบกับรอบระยะเวลาเดี่ยวกันของปีก่อน แบ่งรายได้จากบ้านทาวน์เฮ้าส์ 10,423 ล้านบาท ลดลง 212 ล้านบาทหรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 2 สำหรับรายได้จากบ้านเดี่ยว 4,214 ล้านบาท  ลดลง 56 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 1.3 สำหรับรายได้อาคารชุด 4,645 ล้านบาท ลดลง 990 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 17.6  เนื่องจากโครงการอาคารชุดในกลุ่มพรีเมี่ยมยังไม่ถึงรอบในการโอนกรรมสิทธิ์ และรายได้สำหรับโครงการต่างประเทศลดลง เนื่องจากโครงการโอนครบ100 %.ในปี 2560 แล้ว และบริษัทยังไม่มีแผนในการเปิดโครงการในต่างประเทศเพิ่ม

 

อัตรากำไรขั้นต้นแบ่งตามผลิตภัณฑ์

สำหรับไตรมาส 2/2561 บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นแบ่งตามผลิตภัณฑ์ ดังนี้ ทาวน์เฮ้าส์มีกำไรขั้นต้นร้อยละ 35.1 บ้านเดี่ยวกำไรขั้นต้นร้อยละ 35.2 และอาคารชุดมีกำไรขั้นต้นร้อยละ 39.5

 

สำหรับรอบระยะเวลาหกเดือนของปี 2561 บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นแบ่งตามผลิตภัณฑ์ ดังนี้ ทาวน์เฮ้าส์มีกำไรขั้นต้นร้อยละ 35.4  บ้านเดี่ยวมีกำไรขั้นต้นร้อยละ 35.1 และอาคารชุดมีกำไรขั้นต้นร้อยละ 38.7 ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์อาคารชุดมีอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นจากรอบระยะเวลาเดี่ยวกันของปีก่อน

 

กำไรสุทธิ

บริษัทมีกำไรสำหรับไตรมาส 2/2561 เท่ากับ 1,563 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 14.2 ของรายได้รวม และกำไรสำหรับรอบระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 1,744 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13.9 ของรายได้รวม โดยบริษัทมีกำไรลดลงเท่ากับ 181 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 10.4 มาจากรายได้จากการขายที่ลดลง 1,551 ล้านบาท หรือลดลงเป็นร้อยละ 12.4

 

บริษัทมีกำไรสำหรับรอบระยะเวลา 6 เดือนแรกของปี 2561 เท่ากับ 2,462 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 12.5 ของรายได้รวม และกำไรสำหรับรอบระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 2,425 ล้านบาท คิอเป็นร้อยละ 11.8 ของรายได้รวม โดยบริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.02

งบแสดงฐานะการเงิน(งบการเงินรวม)

 

ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 กลุ่มธุรกิจอสังหาฯมีโครงการที่เริ่มเปิดขายและยังดำเนินการอยู่จำนวน 190 โครงการ มูลค่ารวมโครงการ 199,209 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ ดังนี้ ทาวน์เฮ้าส์จำนวน 119 โครงการ มูลค่ารวม 92,893 ล้านบาท บ้านเดี่ยวจำนวน 49 โครงการมูลค่ารวม 53,193 ล้านบาท โครงการอาคารชุดของกลุ่มธุรกิจ Value จำนวน 16 โครงการ มูลค่ารวม 16,429 ล้านบาท