พลัสฯ กวาดยอดขาย Sole Agent สำเร็จตามเป้าคว้างาน 2 โครงการใหญ่ มูลค่ากว่า 3.3 พันล้านพร้อมปิดการขายได้สำเร็จเร็วกว่าเป้าที่ตั้งไว้ มุ่งเดินหน้ากลยุทธ์พาร์ทเนอร์ชิพแบบ 360 องศา เติบโตเคียงข้างลูกค้าด้วยทีมงานมืออาชีพ

นางสาวสมสกุล หลิมศุทธพรรณ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ดำเนินธุรกิจด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ในฐานะผู้นำในธุรกิจ Sole Agent (การให้บริการตัวแทนขายและทำการตลาด) เปิดเผยว่า ธุรกิจการให้บริการตัวแทนขายและทำการตลาดในปีนี้ถือว่าเติบโตอย่างน่าพอใจ โดยบริษัทสามารถเดินตามแผนที่ตั้งไว้ตามกลยุทธ์การเป็นที่ปรึกษาขยายการพัฒนาโครงการเพื่อขายจากโครงการในระดับ C, C+ ไปสู่กลุ่มตลาดบนมากขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาด

 

โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้รับแต่งตั้งให้ดูแลด้านบริหารงานขายและการตลาดใน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ The FINE Bangkok ทองหล่อ-เอกมัย ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนจากซันเคียวโฮม (ไทยแลนด์) และ เคฮัง เรียลเอสเตท บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเทศญี่ปุ่น มูลค่าโครงการกว่า 1,800 ล้านบาท เป็นคอนโด High Rise สูง 31 ชั้น จำนวน 220 ยูนิต ตั้งอยู่ซอยเอกมัย 12 ด้วยคอนเซ็ปต์ Luxury Modern Japanese มีความเรียบง่ายอบอุ่นแต่หรูหรา เปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาและได้รับผลตอบรับดีเกินคาดทั้งจากลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ มียอดขายที่ 60% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด

 

ส่วนอีกโครงการคือโครงการ QUINTARA TREEHAUS สุขุมวิท 42 ของบริษัท อีสเทอร์น สตาร์ เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 304 ยูนิต ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสเอกมัยและทางด่วนเฉลิมมหานคร คาดว่าแล้วเสร็จพร้อมโอนในปี 2563 มีมูลค่าโครงการกว่า 1,500 ล้านบาท พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ การใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ ในความเป็นส่วนตัวใจกลางเมือง สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน บรรยากาศร่มรื่นไปด้วยพื้นที่สีเขียวทั่วโครงการ และจากงาน VIP Pre-Sales เมื่อต้นเดือนสิงหาคม ปรากฏว่าได้รับผลตอบรับเกินคาดทั้งจากลูกค้าชาวไทยและต่างชาติจนสามารถปิดการขายได้เกินเป้าหมายที่วางไว้แล้วถึง 90% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด

 

ทั้งสองโครงการมีความคล้ายคลึงกันกล่าวคือลูกค้าเป็นกลุ่มรายได้ 80,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป เป็นพนักงานออฟฟิศระดับหัวหน้างานหรือประกอบธุรกิจส่วนตัว ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ระบบขนส่งมวลชน เดินทางได้สะดวกสบาย ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวก และเป็นทำเลศักยภาพที่ตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยเองหรือลงทุน มีจำนวนที่จอดรถเพียงพอ นอกจากนี้ ทั้งสองโครงการข้างต้นยังเป็นโครงการจากกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นลูกค้าเดิมของพลัสฯ และได้ทำงานร่วมกันมาอย่างต่อเนื่องในลักษณะของพันธมิตรในการวางแผนธุรกิจ ซึ่งพลัสฯ ได้เข้าไปมีส่วนช่วยสนับสนุนลูกค้า ใช้จุดแข็งที่มีคือฐานข้อมูลขนาดใหญ่หรือ Big Data เข้ามาช่วยวิเคราะห์โครงการ ทั้งความต้องการของผู้ซื้อที่แท้จริงในด้านทำเล ขนาดห้อง ราคา การออกแบบ รวมทั้งฟังก์ชั่นต่างๆ ซึ่งข้อมูลเชิงลึกนี้ทำให้ลูกค้าผู้ประกอบการบางกลุ่มสามารถพัฒนาโครงการใหม่ให้ขยายไปสู่ลูกค้าในกลุ่มระดับบนมากขึ้น

 

นอกจากนี้พลัสฯ ยังได้ใช้กลยุทธ์เพิ่มเติมเพื่อช่วยให้งานขายของลูกค้าสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าต่างชาติ โดยการจับมือกับเอเยนต์ที่มีความเชี่ยวชาญตลาดกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ ซึ่งวิธีนี้เป็นกลยุทธ์ที่ทำให้โครงการอสังหาฯของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชาวไทย เป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้าต่างประเทศได้เร็ว และสร้างยอดขายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งพลัสฯ ได้ใช้ความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารราคาและการใช้สายสัมพันธ์กับเอเยนต์ที่มีอยู่อย่างแนบแน่นเข้ามาช่วยเสริมจุดแข็งได้อย่างลงตัว

 

ทั้งนี้ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2561 คาดว่าจะมีอีก 2 โครงการที่จะได้เข้าไปบริการงานขายและการตลาด โดยอยู่ในโซนสุขุมวิท ประดิพัทธ์ และพระรามเก้า รวมมูลค่าประมาณ 3,200 ล้านบาท