ชีวาทัยฯ เผยทำเลทองหล่อซัพพลายคอนโดฯ ยังขายได้ต่อเนื่อง ขณะที่แนวราบรายใหญ่ยังแข่งเดือด รับรายได้จากโครงการแนวราบภายใน 2 ปีสัดส่วน 40 % ไม่เป็นตามแผน ล่าสุดเปิดตัวโครงการแรกของปี 61 “ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ” มูลค่า 950 ล้านบาท คาดช่วงพรีเซลกวาดยอดขาย 50-80 % มั่นใจรายได้ทั้งปีตามเป้า 2,400 ล้านบาท โต 20 %

 

 

นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA เปิดเผยถึง ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียมในบางทำเลมีซัพพลายที่ออกมามาก และยังคงอิ่มตัว อาทิ ทำเลรอบรถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่ปัจจุบันยังคงเป็นทำเลที่โอเวอร์ซัพพลาย ซึ่งมีผู้ประกอบการหลายรายไม่ลงทุนเพิ่มในทำเลดังกล่าวและหันมาระบายสต็อกแทน เพื่อทำให้ซัพพลายในทำเลดังกล่าวลดลง ในขณะที่ทำเลกรุงเทพฯ ชั้นในยังสามารถพัฒนา และขายได้ดีต่อเนื่องมากกว่า โดยเฉพาะย่านทองหล่อที่ผู้ซื้อเป็นลักษณะของกลุ่มที่เรียกว่า Emotional Demand คือเป็นกลุ่มผู้มีกำลังซื้อสูงที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเพื่อแสดงฐานะทางสังคม ซึ่งทำให้โครงการในย่านทองหล่อสามารถขายได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีผู้ประกอบการหลายรายเปิดโครงการในย่านทองหล่อมากก็ตาม ส่วนทำเลเอกมัย สุขุมวิทบางทำเล และหลังสวน ก็ยังเป็นทำเลที่มีดีมานด์อย่างต่อเนื่องเช่นกัน

 

ส่วนโครงการแนวราบยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการที่ผู้ประกอบการรายใหญ่ในอุตสาหกรรมหลายรายหันมาพัฒนาโครงการแนวราบมากขึ้น ซึ่งจับกลุ่มลูกค้าในประเทศที่ยังคงมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบอย่างมากอยู่ ซึ่งบริษัทเองก็เริ่มมีการขยายการพัฒนาไปสู่โครงการแนวราบมากขึ้น เพราะเป็นเซกเมนต์ที่รับรู้รายได้เร็ว ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทฯ ได้วางแผนภายในระยะเวลา 2 ปี จะมีสัดส่วนรายได้จากโครงการแนวราบที่ 40 % แต่ปรากฏว่าไม่สามารถทำได้ตามแผน เนื่องจากการก่อสร้างโครงการไม่ทันตามแผนที่วางไว้ ซึ่งจะต้องใช้เวลาอีก 3-4 ปี จึงจะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ โดยคาดว่าภายในปลายปี 2561 นี้สัดส่วนรายได้จากโครงการแนวราบยังคงไม่ถึง 5 % ใกล้เคียงกับปี 2560 ที่ผ่านมา

 

 

ล่าสุดได้เปิดตัว โครงการ “ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ” ซึ่งถือว่าเป็นโครงการแรกที่เปิดตัวในปีนี้  ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่เศษ บริเวณทองหล่อ 20 เป็นคอนโดฯ สูง 8 ชั้น 1 อาคาร ขนาด 30-62 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้นที่ 175,000 บาท/ตารางเมตร หรือตั้งแต่ 5.59-10.4 ล้านบาท/ยูนิต จำนวน 130 ยูนิต มูลค่าโครงการ 950 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดขายรอบ VIP ในวันที่ 6-7 ตุลาคม 2561 และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 10-11 พฤศจิกายน 2561 โดยคาดว่าจะมียอดขายในช่วงวันเปิดขายพรีเซลอย่างเป็นทางการประมาณ 50-80 % โดยที่เป็นสัดส่วนการขายให้กับลูกค้าชาวต่างชาติอยู่ที่  20-30 %  ขณะนี้มีเอเยนต์ชาวต่างชาติสนใจซื้อยกชั้นคอนโดฯ แล้วหลายราย แต่คงต้องรอผลตอบรับจากการขายในรอบ VIP ก่อน จึงจะสามารถขายยกล็อตให้ต่างชาติได้จำนวนเท่าไหร่

 

 

และในไตรมาส 4 นี้จะเปิดตัวโครงการที่ 2 อีก 1 โครงการ คือ “ชีวาโฮม วงแหวน-ลำลูกกา คลอง 4” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 32 ไร่เศษ เป็นทาวน์โฮมส์ 2 ชั้น จำนวน 272 ยูนิต ราคาขายประมาณ 2-3 ล้านบาท โดยจะแบ่งการขายเป็น 4 เฟส มูลค่าโครงการ 700 ล้านบาท

 

อย่างไรก็ตามในปีนี้บริษัทฯ มั่นใจว่าจะมีรายได้ตามเป้าที่วางไว้คือ 2,400 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 20 % ซึ่งในครึ่งปีแรกบริษัทมีรายได้แล้ว 1,450 ล้านบาท โดยที่รายได้จะมาจากการส่งมอบโครงการอย่างต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/2561 บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่กว่า 800 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ในช่วงครึ่งปีหลังทั้งหมด ส่วนใหญ่จะทยอยรับรู้ในช่วงไตรมาส 3/2561 นอกจากนี้ บริษัทมีสินค้าพร้อมโอน (สต็อก) มูลค่ารวมประมาณ 2,100 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยขายออกไป