ไซมิส แอสเสท เตรียมเปิด 3 โครงการใหม่ทำเล สุขุมวิท รัชดาภิเษก ทั้งคอนโดฯ และโครงการมิกซ์ยูส รวมมูลค่า 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท ล่าสุดปั้นแบรนด์ใหม่ระดับลักชัวรี่ “เดอะ คอลเลคชั่น ” ทำเลสุขุมวิท 16  มูลค่า 4,800 ล้านบาท ชูทำเล ขายต่ำกว่าคู่แข่งในย่านเดี่ยวกันถึง 20 % เน้นขายกลุ่มลูกค้าคนไทยมากกว่าต่างชาติหลังเจอโบรกเกอร์บวกมาร์จิ้นสูงกระทบต้นทุน

 

นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด เปิดเผยว่า จากไตรมาส 4/2561 ต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 1/2562 บริษัทฯ ได้เตรียมเปิดตัว 3 โครงการใหม่รวมมูลค่าโครงการประมาณ 12,000-13,000 ล้านบาท (ลบ.) ประกอบด้วย โครงการแรก คือ ไซมิส เอ็กซ์คลูซีฟ รัชดาภิเษก (ใกล้ MRT สถานี รัชดา) บนเนื้อที่กว่า 2 ไร่ ต้นทุนที่ดิน 750,000 บาท/ตารางวา (ตร.ว.) พัฒนาเป็น 3 อาคารสูง 35-40 ชั้น เป็นอาคารพักอาศัย 2 อาคาร จำนวน 500 ยูนิต  และอีก 1 อาคารจะพัฒนาเป็นอาคารสำนักงาน รวมมูลค่าโครงการประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท, โครงการที่ 2 คือโครงการ  ไซมิส พระราม 9 บนพื้นที่ 13 ไร่ ต้นทุนที่ดินประมาณ 250,000 บาท/ตร.ว. พัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส มูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาท

ส่วนโครงการที่ 3 ที่จะเปิดขายในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2561 นี้ คือโครงการ “เดอะ คอลเลคชั่น – THE COLLECTION” แบรนด์ใหม่ระดับลักชัวรี่ บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ บนถนนสุขุมวิท ซอย 16  รวมมูลค่าโครงการ 4,800 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 อาคาร อาคารหลักสูง 41 ชั้น จำนวน 443 ยูนิต ราคาขายอยู่ที่ 6.2-45 ล้านบาท  หรือราคาขายเริ่มที่ 170,000-300,000 บาท/ตารางเมตร (ตร.ม.) โดยห้อง 3 รูปแบบ ได้แก่

  • 1-Bedroom (1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ) มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 33.80 – 34.20 ตารางเมตร จำนวน 334 ยูนิต
  • 2-Bedroom (2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ) มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 63.80 – 69.50 ตารางเมตร จำนวน 107 ยูนิต
  • Penthouse (3 ห้องนอน) มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 84.20 และ 135.35 ตารางเมตร จำนวน 2 ยูนิต

 

 “ราคาที่ขายเฉลี่ยอยู่ที่ 240,000 บาท/ตร.ม. ถือว่าต่ำกว่าคู่แข่งในย่านเดี่ยวกันถึง 20 % ซึ่งนี่เป็นมาตรฐานหรือเป็นนโยบายของไซมิส แอสเสท ที่เราสนับสนุนการลงทุน และเราช่วยดูแลการเช่าให้” นายขจรศิษฐ์ กล่าว พร้อมกล่าวย้ำว่า บริษัทฯ ยังคงดำเนินธุรกิจภายใต้ตามสโลแกน “Asset of life…สร้างกำไรให้ทุกการใช้ชีวิต”  และลูกค้าที่ซื้อคอนโดฯ ในโครงการไปนั้นประมาณ 60 % ของพอร์ตทั้งหมดนั้นซื้อเป็นบ้านหลังที่สอง  และถึงแม้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ แบงก์ชาติได้ประกาศเกณฑ์กำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัยกำหนดเงินดาวน์ขั้นต่ำ (Loan to Value : LTV limit ที่ 80 % ) สำหรับกู้หลังที่ 2 ขึ้นไป หรือที่อยู่อาศัยมูลค่า 10 ล้านบาทขึ้นไป ไม่ต่ำกว่า 20 %  ของมูลค่าหลักประกัน เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 นั้น ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบเชิงลบ เพราะปกติบริษัทฯ กำหนดเงินดาวน์อยู่ที่ 20 % หรือมากกว่านี้ในบางโครงการ ขณะที่ลูกค้าต่างชาติกำหนดเงินดาวน์ที่ 30 %

 

หันเน้นลูกค้าคนไทย หลังขายตลาดต่างชาติค่าใช้จ่ายสูง

สำหรับการขายโครงการ “เดอะ คอลเลคชั่น – THE COLLECTION” ที่ออกแบบภายใต้แนวคิด “Live without Compromise : ที่สุดของความประณีต ใส่ใจทุกรายละเอียด เพื่อสิ่งที่ดีและคุ้มค่าที่สุด” บริษัทฯ การันตีผลตอบแทน 5 % 2 ปี (ปีละ 5 %) มุ่งเจาะ 4 กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คือ กลุ่มนักคิดนักธุรกิจคนรุ่นใหม่ “The Thinker” กลุ่มผู้นำเทรนด์ “The Trendsetter” กลุ่มนักเดินทางและนักลงทุน “The Traveler” และกลุ่มนักสะสมและครอบครัวขนาดเล็ก – กลาง “The Collector” ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างภายในปี 2562 และคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปี  2564

 

โดยราคาขายเฉลี่ยที่ถูกกว่าโครงการอื่นในย่านเดียวกัน ประกอบศักยภาพของทำเลที่ตั้งโครงการ “สุขุมวิท-อโศก” และหนึ่งเดียวกับวิวแบบพาโนรามาของพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ “สวนเบญจกิติ” มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งกลุ่มนักลงทุนและผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัย ตั้งเป้าการขายในช่วงเปิดตัวที่ 70 %  หลังจากวัน Grand opening จะปรับราคาขึ้น 10 % โครงการ “เดอะ คอลเลคชั่น – THE COLLECTION” จะเน้นขายให้ลูกค้าชาวไทยมากกว่าลูกค้าต่างชาติ เนื่องจากการขายให้กับลูกค้าต่างชาติผ่านโบรกเกอร์นั้นค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงทั้งกำไรที่โบรกเกอร์บวกไม่ต่ำกว่า 8 %  อีกทั้งยังมีค่าดำเนินการในการติดตามลูกค้า อีกประเด็น ก็คือ “ผมว่าภาพรวมตอนนี้ตลาดต่างประเทศค่อนข้างจะเต็มแล้ว”

 

โครงการดังกล่าวเลือกใช้วัสดุนำเข้าระดับโลก อาทิ ชุดครัว แบรนด์ “ชไนเดโร – Snaidero” จากประเทศอิตาลี โดยดีไซเนอร์ผู้ออกแบบรถยนต์ Ferrari ที่ใช้กรรมวิธีปิดผิวหน้าเฟอร์นิเจอร์เช่นเดียวกับการเคลือบสีรถ Ferrari ทำให้พื้นผิวมีสัมผัสที่หรูหราเงางาม และช่วยป้องกันรอยนิ้วมือ หรือ อุปกรณ์ชุดครัว แบรนด์ “คุปเปอร์สบุช – Kuppersbusch” และชุดห้องน้ำเลือกใช้สุขภัณฑ์แบรนด์ “ฮันสโกรเฮอ – Hansgrohe” ซึ่งทุกชิ้นทำมาจากทองเหลือง และทางโครงการ THE COLLECTION ก็ยังสั่งทำสีพิเศษใหม่ ที่สวยเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ยังได้นำกระเบื้องหินอ่อน คุณภาพอันดับ 1 ของโลกจากประเทศอิตาลี แบรนด์ “อารีออสเทียร์ – Ariostea” จากบริษัทไอริส เซรามิก้า กรุ๊ป

 

นอกจากนี้ ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกได้สร้างสรรค์อย่างครบครัน อาทิ ฟิตเนส (Fitness) โคเวิร์คกิ้งสเปซ (Co-Working Space) มินิเธียเตอร์ (Mini Theatres) ไพรเวท มีทติ้ง รูม (Private Meeting room) สกาย จ๊อกกิ้ง (Sky Jogging) สกาย การ์เด้น (Sky Garden) เป็นต้น รวมทั้งสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อความปลอดภัย และสะดวกสบาย โครงการฯ ตั้งแต่ระบบรักษาความปลอดภัยภายในลิฟต์ด้วยระบบ CCTV Monitoring & Control ที่เชื่อมต่อกับห้องควบคุมตลอดเวลาเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้อาศัย รวมถึงที่จอดรถที่มีทั้งแบบมาตรฐาน และที่จอดรถระบบ “Automatic Parking” หรือที่จอดรถอัจฉริยะ และ Home Intelligence System ที่บริษัทฯ พัฒนาขึ้นเพื่อความสะดวกสบายของลูกบ้านในโครงการ