ขึ้นชื่อว่า “รัชโยธิน” ถือเป็น ‘The Lifestyle Hub of the North CBD” เพราะเป็นทั้งย่านที่เป็น Residential Area และยังเป็นย่านศูนย์รวม Lifestyle ของคนวัยทำงาน เพราะมีทั้งอาคารสำนักงานใหญ่ (Headquarter) ของหลายบริษัท เช่น SCB, TMB, ISUZU, TOSHIBA และ PTT และ หน่วยงานราชการสำคัญๆ เช่น ศาลอาญา, ศาลแพ่ง, สำนักอัยการสูงสุดรัชดา, กรมส่งเสริมการส่งออก โรงพยาบาล รวมถึงมหาวิทยาลัย และโรงเรียนชั้นนำ ย่านนี้จึงคึกคักไปด้วย แหล่งชอปปิ้ง ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ และแหล่ง Lifestyle อื่นๆ มากมายมาตั้งแต่ไหนแต่ไร การเดินทางก็สะดวกเพราะ ตัดกับถนนสายสำคัญหลายสาย และจุดขึ้นทางด่วนใกล้ๆ ถึง 3 จุด ถึงแม้ตอนนี้จะยังไม่มีสถานีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านแต่ก็ยังเป็นย่านที่คนนิยมกันมาก

และเมื่อความเจริญเข้ามาเยือนอย่างรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่เชื่อมต่อจาก CBD ออกมา และยังมีจุดที่สามารถเชื่อมต่อออกไปสู่รถไฟฟ้าได้อีก 3 สาย …ทำให้ย่าน “รัชโยธิน” นี้เปรียบดังสาวสะพรั่งที่เพียบพร้อมไปทุกด้าน มีเสน่ห์เย้ายวน จนบรรดา Developer เจ้าต่างๆ พากันแห่เข้ามาครอบครอง พื้นที่แห่งนี้กันครบแทบทุกแบรนด์ แต่…ยังไม่มีแบรนด์ไหนเลย ที่สามารถทำแต้มได้เหนือกว่า MAZARINE Ratchayothin by Grand Unity ที่กล้าประกาศว่า Location ของฉัน พีคสุด+++ เรียกว่า ห่างรถไฟฟ้า “0 เมตร” แถมอยู่ตรงข้าม The Avenue และ Major Ratchayothin แบบเป๊ะๆ

สิ่งที่ทำให้คุณ Surprise ไม่ได้หยุดอยู่แค่เรื่องของ Location หากเป็นแบรนด์อื่น แค่ทำเลชนะขาดลอยแบบนี้ก็ไม่ต้องลงลึกในรายละเอียดโครงการมากก็ได้ เพราะยังไง๊ ยังไง ก็ขายหมด แน่นอน….แต่ๆๆๆ แบบนั้นมันง่ายไป ไม่ใช่ สำหรับ Grand Unity ค่ะ จะทำอะไรๆ “โลกต้องจำ” เพราะโครงการนี้เขาเข้าถึง ลงลึก มากๆ สำหรับเหตุผลในการใช้ชีวิต ของคนแต่ละคนที่มีความต้องการที่ต่างกัน ดังนั้น จึงเป็นที่มาของ Concept

“FOR YOUR EXTRAORDINARY REASONS”

พบดีเทลการใช้ชีวิต สำหรับเหตุผลที่ไม่ธรรมดา

Location

ทำเลที่ตั้ง ของ MAZARINE Ratchayothin นี้อยู่ตรงที่เรียกว่าเป็น “The Heart of Ratchayothin” ใจกลางย่านรัชโยธินทีเดียวค่ะ ด้วยทำเลที่อยู่ชิดกับแยกที่ถนนสายสำคัญตัดกัน อย่างถนนพหลโยธินกับถนนรัชดาภิเษก ทำให้การเดินทางสะดวกสบาย แถมภายในปี 2563 นี้ เมื่อรถไฟฟ้าสร้างเสร็จจะกลายเป็นโครงการที่ติดสถานีรถไฟฟ้า 0 เมตร ( BTS รัชโยธิน ) ซึ่งห่างจากสยามเพียง 10 สถานีเท่านั้น

ข้อเสียอย่างเดียวที่เห็นของจุดนี้ คือ ตอนนี้รถค่อนข้างติดมาก เพราะมีการก่อสร้างหน้าโครงการ แต่ อีกไม่นานสะพานข้ามแยกจะเสร็จ รถก็ติดน้อยลงมาก และเมื่อรถไฟฟ้าเสร็จจะเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จดังนั้นการเดินทางจะคล่องตัวมากๆ ค่ะ ถือว่าซื้ออนาคต อดทนรอสักอึดใจเดียวเท่านั้น

แต่ความดีงามในการขับรถก็มี คือ จากที่ตรงนี้ ขึ้นทางด่วน 2 จุด คือ ด่านลาดพร้าว (ทางยกระดับอุตราภิมุข) ที่ห่างไปแค่ 2.4 กม. และ ด่านรัชดาภิเษก (ทางพิเศษศรีรัช) ห่างไปแค่ 3.4 กม. เท่านั้นเอง หากไม่ขึ้นทางด่วนจากตรงนี้สามารถ เชื่อมต่อถนนได้ เยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็นรัชดาภิเษก, วิภาวดีรังสิต, ลาดพร้าว และเกษตร-นวมินทร์ค่ะ

ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวก นั้นมีมากมาย โดยเฉพาะแหล่งชอปปิ้ง และสถานที่สำคัญสำหรับการใช้ชีวิต เช่น ดิ อเวนิวและเมเจอร์รัชโยธิน ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ก็มีทั้งร้านอาหาร ร้านค้า และโรงภาพยนตร์ ครบครัน

หากต้องการซื้อของใช้ ของสดเข้าบ้าน ก็มีทั้ง Villa Market ที่เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมียมอยู่ตรงข้ามโครงการ, Tesco Lotus, และ Big C อยู่ห่างไปไม่ไกล หรือหากต้องการเป็นตลาดสดจริงๆ ก็ตลาดบางเขนเป็นตลาดใหญ่ในย่านนี้

ถ้าหากเบื่ออยากเปลี่ยนอารมณ์บ้างก็มีแหล่ง ชิลๆ ใกล้กันอีกหลายแห่ง เช่น ตลาดบองมาเช่, สวนลุมไนท์บาร์ซา, ตลาดรถไฟรัชดา เป็นต้น น่าอยู่มากๆ เลยใช่ไหมคะย่านนี้

ที่ดินในย่านนี้ ถ้าใครที่อ่านข่าวเศรษฐกิจ ติดตามวงการอสังหาฯ มาอย่างต่อเนื่องจะทราบว่า ย่านนี้ คือ “ทำเลทอง” เพราะมี Mega Project เกิดขึ้นรายรอบมากมาย คือ

นอกจากด้านหน้าโครงการจะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ลากความเจริญจาก CBD ออกมาพาดผ่านแล้ว

ด้านทิศเหนือของโครงการ ก็มีโครงการสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 บนถนนรามอินทรา และโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมแห่งใหม่ ของเครือ TCC Land (นวมินทร์ เฟส 1) และโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดงที่วิ่งคู่ขนานกันและไปบรรจบกันด้วยรถไฟฟ้าสายสีชมพูตรงแถววงเวียนหลักสี่

ด้านทิศใต้ก็มีโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองมาเชื่อมต่อแถวลาดพร้าวซึ่งวิ่งยาวขึ้นไปได้ถึงสำโรง และโครงการการพัฒนาของภาครัฐบนที่ดินขนาดใหญ่ กว่า 2,300 ไร่ เป็น ศูนย์กลางการคมนาคมพหลโยธิน (สถานีกลางบางซื่อ) เป็นจุดศูนย์กลางรวมรถไฟฟ้าหลายๆ สายฝั่งกรุงเทพตอนเหนือ ทั้งรถไฟฟ้าสายสีม่วง, สายสีน้ำเงิน, สายสีแดง, แอร์พอร์ตลิงค์, และรถไฟความเร็วสูง อีกด้วย

ความน่าอยู่อีก หนึ่งประการ คือ คนที่อยู่ย่านนี้ค่อนข้างคัดมาแล้ว เวลาคุณออกมาใช้ส่วนกลางคอนโดที่นี่ หรือแม้แต่เดินห้าง หรือ Shopping Mall คุณจะเจอแต่คนที่มีฐานะและการศึกษาที่ดีเป็นส่วนใหญ่

ทำไมกล้าพูดแบบนั้น เพราะ สถานที่ที่รายล้อมย่านนี้ นอกจากจะเป็นอาคารสำนักงานขนาดใหญ่แถวแยกรัชโยธินจนถึงวิภาวดีหลายตึกแล้ว ก็ยังมีมหาวิทยาลัยถึง 3 แห่งและโรงเรียนนานาชาติมากมาย และยังมีศาลสำคัญๆ อีกหลายศาล รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจมากมาย

และอีกมุมหนึ่งการที่มีสถานที่ราชการและเอกชนที่เป็นสถานที่ใหญ่ๆ แบบนี้ครองพื้นที่อยู่แปลว่า โอกาสในการขึ้นโครงการที่อยู่อาศัยค่อนข้างน้อย ยิ่งอาคารสูงอย่างคอนโดก็ขึ้นได้จำกัด ทำให้ความหนาแน่นของประชากรไม่หนาแน่นมาก (จากผลสำรวจทางสถิติพบว่าย่านนี้มีประชากร 138,000 คน และจำนวนครัวเรือน 92,000 คน คิดเป็นความหนาแน่นประชากรต่อครัวเรือนเท่ากับ 1.5 เท่า เท่านั้นเอง ถือว่าไม่หนาแน่นเลยค่ะ)

คลิกอ่าน รีวิว โลเคชั่นย่านรัชโยธินเพิ่มเติมที่>>>>Location MAZARINE Ratchayothin

Project Information

Project name : MAZARINE Ratchayothin (แมสซารีน รัชโยธิน)

Developer : บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด (Grand Unity Development Co., Ltd.) ในเครือบริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน)

Land size : 3-3-46.60 ไร่

Project location : ซอยพหลโยธิน 30 ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร

Distance from BTS station : 0 ม. จาก สถานีรถไฟฟ้ารัชโยธิน

Express way : 2.4 กม. ทางยกระดับอุตราภิมุข (ด่านลาดพร้าว), 3.4 กม. ทางพิเศษศรีรัช (ด่านรัชดาภิเษก) 

Building detail : อาคารชุดพักอาศัย 37 ชั้น 1 อาคาร และอาคารชุดเพื่อการพาณิชย์ 1 ชั้น 1 อาคาร

Total number of units : ห้องพัก 474 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต

Room size : 24.00 – 48.00 ตารางเมตร

Car Parking : พื้นที่จอดรถ รวมทั้งโครงการ 70 % รวมระบบจอดรถอัจฉริยะ

Lift : ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว, ลิฟต์เซอร์วิสแยก 1 ตัว และลิฟต์ระบบจอดรถอัตโนมัติ 4 ตัว 

Ceiling : ความสูงเพดานในห้องพักอาศัย ห้องนั่งเล่นและห้องนอนใหญ่สูงถึง 3 เมตร ทุกแบบ (พื้นที่ครัวสูง 2.60 เมตร) 

No. of unit per floor : สูงสุดเพียง 23 ยูนิต 

Security System : Access Control ระบบ Key Card และลิฟต์ล็อคชั้น , ระบบ CCTV กล้องวงจรปิด 

Start price : เริ่ม 4.5 ลบ. 

Average Price : 175,000 บาท/ตร.ม. 

หมายเหตุ : เริ่มก่อสร้าง กรกฏาคม 2561, คาดว่าจะแล้วเสร็จ ตุลาคม 2563

*ภาพจำลองเพื่อใช้ในงานโฆษณาเท่านั้น รายละเอียดบางประการของโครงการที่ส่งมอบอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม

Transportation

รถไฟฟ้า
0 เมตร จาก BTS รัชโยธิน (10 สถานีถึงสยาม)

ทางด่วน
2.4 กม. จาก ทางยกระดับอุตราภิมุข ด่านลาดพร้าว
3.4 กม. จาก ทางพิเศษศรีรัช ด่านรัชดาภิเษก

ถนนหลัก
110 เมตรจาก ถนนรัชดาภิเษก

1.3 กม. จาก ถนนวิภาวดีรังสิต

สนามบิน

10 กม. จาก สนามบินดอนเมือง

Workplace

650 เมตร จาก SCB PARK

1.7 กม. จาก บริษัท ตรีเพชรอีซูซุบริการ

1.8 กม. จาก บริษัท เชฟรอนประเทศไทย

2.1 กม. จาก บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์

2.2 กม. จาก หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

2.6 กม. จาก ธนาคารทหารไทย (สำนักงานใหญ่)

3.0 กม. จาก บางกอกแอร์เวย์ (สำนักงานใหญ่)

3.0 กม. จาก บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

3.4 กม. จาก บริษัท นครชัยแอร์ (สำนักงานใหญ่)

4.0 กม. จาก บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน)

4.3 กม. จาก บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)

4.6 กม. จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

9.9 กม. จาก บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน)

Education

1.3 กม. จาก โรงเรียนหอวัง
1.3 กม. จาก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
2.5 กม. จาก โรงเรียนนานาชาติเซนต์จอห์น
3.1 กม. จาก มหาวิทยาลัยศรีปทุม

Healthcare

2.8 กม. จาก โรงพยาบาลวิภาวดี

5.9 กม. จาก โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน

Shopping

30 เมตรจาก Major Cineplex รัชโยธิน

160 เมตรจาก The Avenue รัชโยธิน
260 เมตร จาก Tesco Lotus

670 เมตร จาก ตลาดบางเขน
1.4 กม. จาก Central ลาดพร้าว
1.8 กม. จาก Union Mall
2.9 กม. จาก ตลาดบองมาเช่
3.7 กม. จาก Big C Extra

Green space

4.4 กม. จาก สวนจตุจักร

Facility

จากแปลนจะเห็นว่า เมื่อเลี้ยวรถเข้ามาในโครงการ ด้านหน้าจะมีอาคารที่เป็น Sales Gallery ตั้งอยู่ รูปแบบอาคารเป็นแบบ Luxury Modern สีขาวขนาดใหญ่ Double Volume ซึ่งในอนาคตจะปรับเป็นพื้นที่การค้า เปิดเป็นร้านค้าจำนวน 2 ยูนิต น่าจะเป็นร้านอาหาร, ร้านกาแฟ, หรือ Working Space ที่จะช่วยเพิ่ม Value และเพิ่มประโยชน์ใช้สอยให้กับโครงการในอนาคต

 

และจัดให้มีพื้นที่สวนกว่า 1,070 ตารางเมตร ที่หน้าโครงการ เวลาที่คุณเหนื่อยๆ จากการทำงาน พอเลี้ยวเข้าบ้านก็พบสวน และต้นไม้ร่มรื่น ทำให้คุณสดชื่นหายเหนื่อยค่ะ

 

ประตูทางเข้าโครงการนอกจากทางเข้าของรถยนต์แล้ว จะมีประตูและทางเดินแยกต่างหากสำหรับคนที่ใช้รถไฟฟ้า ก็สามารถเข้าทางพิเศษเดินลัดเลาะผ่านสนามหญ้าเข้ามาที่ตัวอาคารได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านประตูใหญ่ค่ะ ตรงนี้น่ารักมากๆ

พื้นที่ส่วนกลางนั้น ทางโครงการพยายามกระจายให้ลูกบ้านที่อยู่ในชั้นต่างๆ ใช้ได้อย่างทั่วถึง มีการจัดเป็นสวนเอาไว้ทั้ง ชั้น 1, ชั้น 8, และชั้น 22 ทำให้ลูกบ้านไม่ต้องขึ้นลิฟต์ไกล หรือไปกระจุกตัวแออัดกันใช้ส่วนกลางหลักเพียงจุดเดียว หลักการนี้ ถือว่า เป็นการคืนกำไรให้แก่ลูกบ้านที่มีประสิทธิภาพค่ะ

ชั้น 1 

GARDEN

LOBBY

MAIL ROOM

ชั้น 8 

STUDY ROOM/ MEETING ROOM

PRIVATE GARDEN

ชั้น 22 

MINI RELAX GARDEN

และในส่วนของ 3 ชั้น บนสุดของอาคาร คือชั้น 36 ชั้น 37 และ ชั้น 38 เป็น “Triple Floor Sky Facilities” หากเป็นโครงการอื่นๆ โดยปกติแล้วจะเป็นชั้นที่สามารถทำกำไรได้มาก ขายได้ง่าย และขายได้แพง มักจะถูกจัดเป็นห้อง Penthouse หรือ Duplex ขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มมูลค่าในการขาย แต่โครงการ MAZARINE Ratchayothin by Grand Unity นี้ กลับยกพื้นที่ทั้งหมดให้เป็นพื้นที่ส่วนกลางแก่ลูกบ้านได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ค่ะ ไม่รู้จะชื่นชมยังไง ต้องบอกว่า ถ้าโครงการนี้เป็นมนุษย์คนหนึ่ง คือเป็น “หนุ่มรูปงามน้ำใจประเสริฐโดยแท้” เขียนไปก็เหมือนเว่อร์นะคะ แต่ลองดูกันเองก็แล้วกันค่ะ ว่าเขา “แสนดี” ขนาดไหน

 

SHADE & SHINE SKY POOL

ชั้น 37 

SHADE & SHINE SKY POOL (ลึก 1.2 M. ) ขนาด 159.00 ตารางเมตร สระว่ายน้ำระบบเกลือ U SHAPE มีทั้งโซนในร่มและกลางแจ้ง พร้อมชมวิวเมืองแบบพาโนรามิก

KIDS POOL (ลึก 30 CM.) ขนาด 17.50 ตารางเมตร

STEAM AND SAUNA

POCKET GARDEN

 

SKY LOUNGE
SKY FITNESS
PRIVATE SALON
PARTY ROOM

ชั้น 37 

PARTY ROOM ห้องรับรองอเนกประสงค์ ภายในห้องมีโต๊ะพูล โซฟา โต๊ะทานอาหาร พร้อมสำหรับจัดงานปาร์ตี้

EXCLUSIVE FOYER & BAR

SKY LOUNGE

SKY FITNESS

PRIVATE GYM CLASS

KIDS ROOM

PRIVATE SALON เป็นห้องที่ลูกบ้านสามารถจองเพื่อให้ช่างส่วนตัวมา ทำผม ทำเล็บ แต่งหน้า ให้ที่คอนโด

ชั้น ROOF FLOOR  

EXCLUSIVE SKY DECK

SKY GARDEN

ต่อหนึ่งชั้นออกแบบให้มีทางหนีไฟมากถึง 3 จุด และมีลิฟต์โดยสารมากถึง 3 ตัว และลิฟต์เซอร์วิสอีก 1 ตัว ในขณะที่จำนวนห้องต่อชั้นมีเพียงแค่ 23 ห้อง ซึ่งเทียบสัดส่วนแล้วมีความสะดวกสบายมาก ถือว่าทางโครงการน่ารักและใส่ใจผู้อยู่อาศัยจริงๆ แทนที่จะเอาพื้นที่ไปเป็นพื้นที่ขายแต่กลับยกพื้นที่ให้เป็นประโยชน์แก่ลูกบ้านค่ะ

Floor Plan

การวางแปลนแต่ละชั้น วางได้ไม่แออัดค่ะ แต่ละชั้นมีจำนวนยูนิตน้อย

ในพื้นที่มี 2 อาคาร คือ

  • Shop Building (ปัจจุบันเป็น sale gallery อนาคตเป็นร้านค้า 2 ยูนิต)
  • Residential Building (เป็นที่พักอาศัยสำหรับลูกบ้าน)

สำหรับ Residential Building แบ่งการใช้สอยดังนี้

ชั้น 1 : Lobby Lounge, Mail Box

ชั้น 2 – 7 : Auto Car Parking Lots

ชั้น 8 – 35 : ชั้นพักอาศัย

ชั้น 36 – 37 และ Roof Floor : ส่วนกลางทั้งหมด

และมีส่วนกลางบางส่วนกระจายตัวอยู่ตามชั้น 8 และ 22 ค่ะ

 

Unit Plan

Unit Type

Studio : 24.00 -25.50 sq.m.

1 Bedroom Type A : 32.50 – 33.00 sq.m.

1 Bedroom Type B : 32.50 – 33.00 sq.m.

1 Bedroom FLEXI : 41.50 – 43.00 sq.m.

1 Bedroom Plus Corner Type A : 39.00 sq.m.

1 Bedroom Corner Type A : 39.50 sq.m.

1 Bedroom Plus Corner Type B : 48.00 sq.m.

1 Bedroom Corner Type B : 43.00 sq.m.

2 Bedrooms : 48.00 sq.m.

Studio 24.00 – 25.50 sq.m.

ห้องตัวอย่างเป็นห้อง Studio ขนาด 24.00 ตารางเมตร ให้เราเห็นกันชัดๆ ค่ะว่า ห้องเล็กที่สุดของเขาแต่ก็ดูไม่อึดอัดนะ ด้วยขนาดห้องที่เราคิดไปก่อนที่จะเห็นห้องจริงว่า เล็กมากจะอยู่ได้อย่างไร แต่พอมาดูห้องจริงแล้วต้องบอกว่า  “น่าอยู่มากทีเดียวเลยล่ะค่ะ”

จากการจัดวาง lay out ของห้อง ทำให้ดูกว้าง ให้เป็น Fully Furnished เข้ามาเจอกับเคาน์เตอร์ครัวรูปตัว  I อยู่ด้านขวามือ กระทัดรัดแต่ครบครันค่ะ ได้เตาไฟฟ้าขนาด 2 หัว เครื่องดูดควัน ระบบปล่อยออกด้านนอก ของ Teka สิ่งที่ชอบก็คือ แม้ช่องที่เป็นปล่องควันเขาก็ทำชั้นวางของเพิ่มมาให้ด้วย ทำให้พื้นที่ไม่เสียเปล่า ปกติที่อื่นเขาทำหน้าบานปิดไว้เฉยๆ นะคะ

เจาะช่องวางไมโครเวฟ ไว้ด้านล่างสูงประมาณเข่า ทำให้ง่ายต่อการหยิบของร้อนๆ

ตรงตู้เย็นเจาะช่องเอาไว้ให้พอดีเป๊ะกับการวางตู้เย็นขนาด 5.5 คิว ซึ่งเขาวางตู้เย็นของ Samsung มาให้ดูก็เพียงพอต่อการใช้งานสำหรับคนที่อยู่ห้อง Studio ซึ่งอาจจะอยู่แค่คนเดียวค่ะ

อ่างล้างจานแม้จะไม่ได้กว้างแต่เป็นหลุมลึกนะคะ ทำให้เวลาล้างจานล้างง่าย น้ำไม่กระเด็นออกมาด้านนอกค่ะ

บานเปิดทุกอย่างให้เป็น Soft Closed อย่างดีทั้งหมดค่ะ ทำให้ช่วยยืดอายุการใช้งานได้นาน และเวลาเปิดปิดก็ไม่เสียงดังค่ะ

ด้านซ้ายจะเป็นห้องน้ำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ เรียกว่า “พิเศษ” อีกอย่างหนึ่งของ MAZARINE Ratchayothin ค่ะ เพราะ เป็นห้องน้ำสำเร็จรูปจาก SCG ค่ะ ซึ่งดูไม่ออกเลยทีเดียวว่าเป็นห้องน้ำสำเร็จรูป

และทางโครงการได้ปูกระเบื้องกรุผิวทั้งพื้นและผนังให้สวยงามเรียบร้อย โดยพื้นใช้กระเบื้องกันลื่นแผ่นใหญ่ 60×60 cm. สีน้ำตาลอ่อนๆ ผนังใช้กระเบื้อง Hi-Gloss สีเทาลายหินอ่อน ช่วยเพิ่มอารมณ์ความหรูหราให้กับห้องได้เป็นอย่างดี

เพราะ ห้องน้ำสำเร็จรูปปกติแล้วถ้าไม่ได้เตรียมการออกแบบก่อสร้างที่ดี พื้นห้องน้ำจะสูงกว่าระดับพื้นปกติ เวลาก้าวเข้าห้องน้ำต้องก้าวขึ้นสูงไปอีกเสตป แต่ที่นี่เขาลดระดับพื้นลงเพื่อให้วางห้องน้ำสำเร็จรูปได้พอดี ระดับพื้นเท่ากัน

แม้ธรณีประตูของห้องน้ำสำเร็จรูปจะไม่สูงมาก แต่ก็ยังมีกั้นขึ้นมาเพียงพอที่จะไม่ให้น้ำภายในห้องน้ำไหลนองมาด้านนอกค่ะ

อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนยังคงแปลกใจว่า ทำไมต้องใช้ ห้องน้ำสำเร็จรูปด้วยหนอ หรือมันถูกกว่า เจ้าของโครงการต้องการลดต้นทุนหรืออย่างไร

คำตอบคือ ไม่ค่ะ เป็นการเพิ่มต้นทุนด้วยซ้ำ เพราะเขาปูกระเบื้องและติดตั้งอุปกรณ์ทั้งหมดแบบเดียวกับห้องน้ำปกติ แต่เขา “ยอมใจดี” เพิ่มต้นทุนส่วนนี้ให้ เพราะข้อดีของห้องน้ำ สำเร็จรูปคือ การดูแลรักษาในระยะยาวจะง่าย เวลาเกิดน้ำรั่วซึมหรือต้องซ่อมแซมจะเป็นปัญหาที่ห้องใครห้องมัน ไม่ต้องไปวุ่นวาย หรือส่งผลกระทบกับห้องอื่น ชั้นอื่นค่ะ (ถ้าห้องอื่นเสีย ห้องเราก็ไม่กระทบเช่นกัน) ดีงามมากๆ

กระจกที่ติดตั้งในห้องน้ำก็เป็นกระจกบานใหญ่ เต็มผนังเลยค่ะ ใช้งานสะดวกและก็ยังทำให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้นด้วย นอกจากนั้นยัง drop ผนัง เข้าไปเป็นชั้นสำหรับวางของตรงใต้กระจกให้ด้วย เพราะ สาวๆ หรือแม้แต่หนุ่มๆ ชาวเมืองก็ต้องการพื้นที่ในการวางเครื่องสำอาง บำรุงผิว ผม ที่เห็นกันก็จะต้องวางบนขอบอ่างหรือใส่ในตระกร้า วางใต้ตู้กันไป หยิบใช้ไม่สะดวก

ใต้อ่างล้างหน้าก็ยังทำเป็นตู้มีบานปิดเพื่อไม่ให้เห็นท่อน้ำด้านล่างอ่างและก็ยังมีประโยชน์ในการเก็บของใช้บางอย่างที่เราไม่ค่อยได้ใช้บ่อยได้อีกด้วย

อ่างล้างหน้าก็มีขนาดกำลังพอดี ไม่ตื้นจนเกินไป เพราะบางแห่งให้แบบตื้นๆ เน้นความสวยงามแต่ใช้งานจริงไม่ดี เปิดน้ำแรงๆ น้ำจะกระเด็นออกมาเปียกเลอะเทอะพื้นหมด แต่แบบที่ MAZARINE Ratchayothin นี้ แม้จะไม่ใหญ่มากแต่ลึกและใช้งานจริงสะดวกค่ะ

โถสุขภัณฑ์ก็เป็นรุ่นที่ค่อนข้างพรีเมียม ตัวสุขภัณฑ์เป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมด ทนทานในการใช้งาน ตำแหน่งในการติดตั้งสายชำระ และที่แขวนทิชชู่ก็อยู่ในตำแหน่งและระดับความสูงที่เหมาะสมกับสรีระของคนไทยค่ะ

ส่วนสุขภัณฑ์ ให้ยี่ห้อตามที่เห็นเลยค่ะ อ่างล้างหน้า Cotto, ชุดฝักบัว Grohe, โถสุขภัณฑ์ American Standard เรียกว่าคัดของดีมาให้ล้วนๆ ค่ะ

Shower system เป็นหัวที่รองรับน้ำร้อนน้ำเย็นไว้แล้ว เพียงแค่เราซื้อเครื่องทำน้ำร้อนมาติดก็ใช้ได้เลยไม่ต้องไปปรับระบบอะไรอีกให้วุ่นวายค่ะ

ภายในห้องน้ำมีการเจาะผนังเพื่อเป็นช่องในการวางอุปกรณ์อาบน้ำให้เสร็จสรรพ ซึ่งแบบนี้ดีมากๆ เพราะ ไม่เช่นนั้นเราต้องไปซื้อชั้นมาเจาะผนังติดเอง ซึ่งข้อเสียคือ มันไม่สวย ไม่เข้ากับห้อง, เกะกะเพราะยื่นออกมา, แล้วก็ยังมีอายุการใช้งานที่ไม่นานก็ต้องเปลี่ยนในที่สุด ดังนั้นฝังไปในผนังแบบนี้ สวยงาม ทนทาน ดูแลรักษา และใช้งานง่ายค่ะ

ในห้องน้ำ เขาติดกระจก Tempered glass อย่างหนา อย่างดี มาให้ สวย สะอาด ปลอดภัย หากมีการล้มในห้องน้ำ กระจกนี้จะแข็งแรงพอที่จะไม่แตก ถึงแม้จะแตกก็แตกเป็นเมล็ดข้าวโพด ไม่แตกเป็นปากฉลาม ไม่บาดเราจนเป็นอันตรายค่ะ

พอจะเข้าไปส่วนที่เป็นห้องนอน จะถูกกั้นด้วย บานกระจก Slide ค่ะ เป็นการแยกส่วน service กับส่วนพักผ่อนออกจากกันชัดเจน ทำให้ทั้งเสียง ทั้งกลิ่น และความชื้นอยู่เป็นสัดเป็นส่วนที่โซนๆ หนึ่งเท่านั้น

บานกระจกนี้ยังมีประโยชน์ในแง่ของการช่วยกั้นแอร์ด้วยค่ะ ถ้าเราต้องการประหยัดแอร์เราก็ปิดไว้ให้แอร์เย็นเฉพาะส่วนของห้องนอนก็พอ

โครงการติดตั้งกระจก Full Height มาให้ทำให้แม้ห้องเล็กๆ ก็ดูโปร่งตา

อีกอย่างหนึ่ง ที่เรา “ไม่คาดคิด” ว่าเขาจะให้แบบนี้ นั่นก็คือ “เพดานสูง 3 เมตร” ทุก Type แม้แต่ห้อง Studio ค่ะ เป็นเรื่องที่ Amazing มากทีเดียว ปกติการที่คุณจะมีเพดานสูง 3 เมตรได้ คุณต้องอยู่ในอาคารพาณิชย์ ค่ะ ไปสำรวจตลาดดูได้ เพราะตามกฎหมายและกฎพื้นฐานการออกแบบแล้ว เพดานสูงแค่ 2 เมตรกว่า ก็พอแล้วสำหรับคอนโดหรืออาคารทั่วไปค่ะ ดีงามจริงๆ นะคะที่นี่

ที่นี่เขาให้เฟอร์มาเกือบครบเลยนะคะ เป็น Fully Furnished มีเตียง ตู้เสื้อผ้า ตู้วางทีวี ค่ะ ปลั๊กไฟหัวเตียงมีให้ 1 ฝั่ง วางเตียง 5 ฟุตได้พอดี เหลือวางโต๊ะหัวเตียงได้อีก 1 ตัว และ ด้านข้างเตียงยังเหลือที่ว่างอีกพอสมควร ห้องตัวอย่างเขาวางโซฟาตัวเล็กกับโต๊ะมาให้ดูเป็นไอเดีย ว่าเราอาจจะทำเป็นมุมทำงานอ่านหนังสือก็ยังได้ ตรงนี้แล้วแต่จินตนาการค่ะ เรามาสามารถตกแต่งเพิ่มเองได้เลย

ส่วนผ้าม่าน โครงการบอกว่าห้อง Studio นี้มีให้ 1 ชุดนะคะ (จะเป็นฝั่งเตียงนอนหรือฝั่งระเบียงสามารถสอบถามได้ที่ Sales Gallery ค่ะ) เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวบางชิ้นมีให้ เช่น โต๊ะหัวเตียง แต่รูปแบบอาจจะเป็นแบบเทียบเคียง เพราะเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวต้องสั่งมาทีหลัง อาจจะหาแบบเดียวกันให้ทุกยูนิตไม่ได้เพราะจำนวนเยอะมากๆ แต่ถ้าเป็น built-in แบบเดียวกับในห้องเป๊ะๆเลย ไม่ต้องกลัวว่าห้องตัวอย่างดูดีเชียวของจริงไม่ได้ตามนี้ คุณหลอกดาว… ไม่มีแน่นอนสำหรับที่นี่

เรียกว่าจากห้องตัวอย่างแล้วเราได้เกือบครบ ขาดแค่เพียงวัสดุกรุตกแต่งผนัง ที่จะไม่มีให้ ห้องจริงจะเป็นปูนฉาบเรียบทาสีขาวค่ะ

หมายเหตุ : เฟอร์ลอยตัวห้อง Studio ได้แก่ เตียง 1 เตียง, โต๊ะหัวเตียง 1 ตัว

เรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ Signature of Grand Unity ค่ะ นั่นก็คือ “Private Balcony” ระเบียงที่ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวของการพักอาศัยโดยเฉพาะ

เรามาลองนึกถึงปัญหาในการใช้งานระเบียงคอนโดกันดูค่ะว่ามีอะไรบ้าง เริ่มจาก บางทีมีนกเข้ามาทำรังหรือถ่ายในระเบียงเรา จะตากผ้าก็ไม่ได้ต้องคอยล้างทำความสะอาดให้เสียเวลาด้วย, บางทีลมแรงพัดผ้าที่ตากตกลงไปด้านล่างถ้าเป็นผ้าไม่แพงโอเคถ้าแพงก็ร้องกันเลยทีเดียว, เวลาอยู่ชั้นสูงๆ เราไม่สามารถใส่กระโปรงบาน หรือนุ่งกระโจมอก แม้แต่ผู้ชายก็นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกไปที่ระเบียงไม่ได้ เพราะคนข้างล่างมองย้อนขึ้นมาปุ๊บ เห็นหมดถึงห้องเครื่องเลยทีเดียว บางทีรีบๆ จะออกไปตากผ้าที่ระเบียงก็ต้องแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนไม่งั้นประชาชนภายนอกก็เห็นเราในสภาพที่ไม่เจริญหูเจริญตานัก บางทีเราอยากจะตากชุดชั้นในสุดเซ็กซี่เราก็ไม่กล้าเอาไปตากข้างนอกเพราะเขินคนอื่น และอีกหลายเหตุผลที่ทำให้คนหลายๆ คนปิดตายระเบียงไปเลย เลิกใช้!

แต่ทุกปัญหา ที่ว่ามานั้นจะหมดไป เมื่อคุณได้รู้จักกับ MAZARINE Ratchayothin เพราะ ระเบียงที่ออกแบบเป็น ระแนง ขนานกับพื้น ทำให้ช่วยกันสายตาจากคนภายนอกอาคาร  กั้นผ้าร่วงตกลงไป กันฝนได้บางส่วน แต่แสงและลมยังสามารถผ่านเข้ามาได้ ทำให้ห้องยังดูสว่าง โปร่งโล่งแต่ก็ได้ความเป็นส่วนตัวในขณะเดียวกัน อีกทั้งภาพรวมของอาคารในระยะยาวก็ดูดี ดูเรียบร้อย หากลูกบ้านจะปล่อยเช่า หรือขายต่อ ภาพลักษณ์ก็ยังดูเป็นอาคารที่เป็นระเบียบเรียบร้อยแม้จะมีคนเข้าอยู่แล้วก็ตาม

ระเบียงด้านนอกปูด้วยกระเบื้องแผ่นเล็กแบบกันลื่น ทำขอบสูงกันน้ำซึมเข้าด้านในห้องเผื่อกรณีมีฝนตก และยังเหลือพื้นที่ไว้วางเครื่องซักผ้าได้ด้วย ถ้าใครไม่ใช้เครื่องซักผ้า พื้นที่ตรงนี้ก็เหลือๆ เพราะคอมเพรสเซอร์แอร์ เขาแขวนขึ้นสูงเหนือศีรษะ นอกจากนี้ยังทำให้ไม่เกะกะในการใช้งานเรา และยังเป่าออกด้านนอกทำให้ระเบียงนี้เป็นระเบียงที่เราออกไปงานได้จริงไม่มีลมร้อนเป่าเข้ามาโดนเรา

ไม่อยากใช้คำว่า “ไม่ผิดหวัง” กับที่นี่ค่ะ เพราะ สิ่งที่ได้รับนั้น “เกินความคาดหวัง” ไปมากเลยทีเดียว สำหรับคนที่ไม่ค่อยเห็นคอนโดมาหลายๆ ที่อาจจะไม่ทราบถึงรายละเอียดปลีกย่อยเล็กๆ น้อยๆ ที่ซ่อนอยู่ แต่ P2M ที่เราเห็นโครงการผ่านตามามาก ต้องขอเอ่ยปากตั้งแต่ตอนนี้เลยค่ะ ว่า “พลาดแล้วจะเสียใจ”

 

เอาละค่ะเพื่อตอกย้ำ เราจะพาท่านไปชมห้องตัวอย่างที่เหลืออีก 2 แบบ นะคะ แล้วท่านจะซาบซึ้งถึงคำพูดนี้ค่ะ …ไปกันเลยยย

1 Bedroom 32.5 sq.m.

ห้องถัดมา เป็นแบบห้องที่นิยมสำหรับชาวคอนโดนั่นก็คือ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ซึ่งความเป็นจริง โครงการอื่นๆ แบบที่เป็น Studio แล้วมีบาน slide แบบนั้นเขาก็ เคลมว่าเป็น 1 Bedroom กันแล้วนะคะ

แต่ที่นี่ ซื่อสัตย์ ต่อลูกบ้านค่ะ  1 Bedroom ก็คือ มีการกั้นผนังแยกสัดส่วนกันชัดเจนจริงๆ ดูจาก Layout plan จะพบว่า ครัวเป็นรูปแบบเดียวกันกับห้อง Studio ขนาดและรูปแบบเดียวกัน เหมาะกับ Life style คนเมืองที่ไม่ค่อยได้ทำอาหารมากนักจึงให้น้ำหนักส่วนครัวไม่มาก

ที่เก๋ คือ มีตู้เก็บรองเท้าแบบฝังผนังมาให้ด้วย 1 ตู้ สูงเกือบถึงฝ้า เก็บรองเท้าได้เยอะเลยค่ะ ถูกใจจริงๆ ซึ่งเป็นการออกแบบที่ฉลาดมาก เพราะเป็นการใช้พื้นที่เดียวกันกับ Walk-in Closet ด้านใน แต่เปิดประตูคนละฝั่งกันนั่นเอง ให้ตู้รองเท้าเปิดออกจากด้านนอกเพราะรองเท้าเป็นอย่างแรกที่เราจะถอดและอย่างสุดท้ายที่เราจะใส่ ถูกไหมคะ การวางไว้หน้าห้องคือตำแหน่งที่ถูกต้องที่สุด และในห้องตัวอย่างเขาติดกระจกบานใหญ่มาให้ดูเป็นไอเดีย ว่าก่อนออกจากจากห้องคุณยังมีผนังว่างๆเหลือให้ติดกระจกนะ เอาไว้เช็กเสื้อผ้าหน้าผมก่อนออกจากบ้านไอเดียดีๆ ค่ะ

ชุดครัว และห้องน้ำ เป็นขนาดและสเปกเดียวกับ ห้อง Studio เมื่อสักครู่ค่ะ เพียงพอต่อการใช้งานของคนเมืองทีเดียว

เมื่อเข้าไปด้านใน จะเป็นบานกระจก Slide ที่สามารถเลื่อนกั้นปิด ให้พื้นที่ครัวตรงนี้เป็นครัวปิดได้ค่ะ สามารถกันกลิ่นไม่ให้เข้าไปส่วนพักอาศัยได้อย่างดี และการเอาครัวไว้หน้าห้องแบบนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนะคะ คนไทยอาจจะติดภาพว่า ครัวต้องมีหน้าต่างระบายอากาศ แต่ว่า ครัวสำหรับคนเมืองที่ไม่ได้ทำอาหารเยอะ เราใช้ไมโครเวฟ และเตาไฟฟ้า นิดหน่อย เครื่องดูดควันก็เพียงพอแล้วค่ะ เก็บพื้นที่อันมีค่าด้านที่เห็นวิวเอาไว้ในห้องนั่งเล่นกับห้องนอนดีกว่าจริงมั้ยคะ (หลายคนแอบพยักหน้าไปตามๆ กันใช่ไหมคะ)

ส่วน Living Area ด้วยความที่เรามีเพดานสูง 3 เมตร และกระจกพื้นถึงฝ้า ทำให้ส่วนนี้เป็นจุดที่สวยมากดู Luxury โดยไม่ต้องทำอะไร ห้องนี้เขาให้เฟอร์มาครบๆ เช่นกัน ตามภาพที่เห็นนั้นจะได้ ชั้นวางทีวี โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง ชุดทานอาหารขนาด 2 ที่นั่ง (ประกอบด้วยโต๊ะ 1 ตัวและ เก้าอี้ 2 ตัว) พร็อพตกแต่งอื่นๆ ไม่มีให้นะคะ เช่น กีตาร์ โคมไฟ โต๊ะข้างโซฟา พวกนี้เขาเอามาตกแต่งเพื่อสร้างบรรยากาศเฉยๆ นะคะ

สำหรับเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว อย่างที่บอกนะคะ เราอาจจะไม่ได้ตามที่เห็นแต่ Built-in จะได้ตามแบบ ส่วนผนังที่มีวัสดุตกแต่งต่างๆ ห้องจริงจะเป็นปูนฉาบเรียบทาสีขาวเท่านั้นนะคะ

และการที่เขาเอาครัวกับห้องน้ำไว้ด้านชิดทางเดินของตึก แล้วเอาห้องนอนและระเบียงไว้ด้านนอกนั้น ก็มีข้อดี คือ เราได้นอนชมวิวด้านกระจก Full Height พื้นถึงฝ้าแบบเต็มๆ ฝั่งที่สมควรเห็นวิวก็ได้เห็นวิวเต็มทั้งผนัง เหตุนี้ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง สว่างไม่อึดอัดเลย และข้อดีอีกอย่างคือ เวลาที่เรานอนหลับเราจะไม่ได้ยินเสียงเดินไปมาของเพื่อนบ้านที่โถงทางเดินลิฟต์อีกด้วย เพราะคนอยู่คอนโดกลับบ้านกันไม่เป็นเวลาอยู่แล้ว การจัด lay out แบบนี้ ช่วยเรื่องเสียงรบกวนได้มากค่ะ

ส่วนเตียง วางเตียง 5 ฟุต มาให้ดูนะคะ มีโต๊ะหัวเตียงให้ เหลือที่ด้านข้างอยู่ แปลว่าเราจะใส่เตียง 6 ฟุต ก็ได้ตามอัธยาศัยค่ะ

ถัดจากเตียงก็เป็น Walk-in Closet ที่ MAZARINE Ratchayothin “ให้คุณได้ ใจป๋าพอ” สาวๆ เห็นแบบนี้ก็กราบงามๆ เลยทีเดียว และแนะนำว่าถ้าเวลาเราอยู่เองจริงๆ ติดกระจกสีชาที่ผนังแบบห้องตัวอย่างเลย เพราะนอกจากจะทำให้ห้องดูกว้างขึ้น ได้เห็นกระจกจากทุกมุมเวลาแต่งตัวแล้ว ก็ยังทำให้ห้องดูหรูขึ้นมาก ลงทุนน้อย ได้ผลมากค่ะ เชียร์ค่ะ

ห้องน้ำแน่นอนค่ะเป็นห้องน้ำสำเร็จรูป เกรดพรีเมี่ยม รับประกันโดย SCG คุณภาพดีที่สุดในประเทศไทย สวยหรู ดูดี เซอร์วิสง่าย เลิศเลอค่ะ

มีระบบดูดอากาศมาให้แล้วเรียบร้อยกับตัวห้องน้ำ ช่วยระบายความชื้น ได้ อย่างดี

มีฉากกั้นอาบน้ำ และ Shower Set ต่างๆ มาพร้อม เช่นเดียวกันทุก Type ค่ะ

1 Bedroom  FLEXI 41.50 sq.m.

อีกสิ่งหนึ่งที่ประทับใจ (คุณผู้อ่านคิดในใจว่า หลายสิ่งแล้วหนา) ประทับใจจริงๆ  ตรง “ความซื่อสัตย์ต่อผู้บริโภค” คือ ห้องตัวอย่าง โดยปกติ เขาจะทำห้องตัวอย่างให้ใหญ่ๆ เข้าไว้ เช่น 1 Bedroom FLEXI มีขนาด 41.50 – 43.00 ตารางเมตร โครงการทั่วไปเขาต้องทำห้องตัวอย่างขนาด 43.00 ตารางเมตร เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าห้องมันใหญ่นะคะ เพื่อให้ขายง่ายๆ แต่ที่นี่เขาเลือกที่จะทำห้องตัวอย่างเป็นขนาดที่เล็กที่สุดใน Type นั้นให้เห็นความจริงกันไปเลย จะเกินไปไหมคะ ถ้าจะขอใช้คำว่า “สุภาพบุรุษตัวจริง”

เริ่มจากด้านหน้าห้อง ตั้งแต่มองเข้าไปรู้สึกว่าห้องดูใหญ่กว่าขนาด 41.50 ที่เคยเห็นมามาก เพราะทั้งดูลึกและกว้างค่ะ พอดูแปลนถึงได้เห็นแนวความคิดในการออกแบบว่า ตั้งใจให้ห้อง ดูโล่ง โดยการผสานเอา Dining Area  Living Area และ ห้องนอนเข้าไว้ด้วยกัน เป็นพื้นที่หลักของห้อง เหมาะกับคนที่มี Lifestyle ที่หลากหลาย อาจจะเป็นคนที่กิจกรรมเยอะ ขี้เบื่อ เพื่อนเยอะ  หรือ มีแขกมาหาบ่อยๆ ดังนั้นจะต้องการพื้นที่ส่วนกลางนี้ใหญ่มาก

ส่วนของครัวจะเป็นเคาน์เตอร์รูปตัว L ที่มีการ built-in โต๊ะ ยาวเชื่อมต่อออกมา จนกลายเป็นตัว U ซึ่งเราสามารถ apply เป็นที่เตรียมอาหารก็ได้เพราะความสูงพอดีกับการทำอาหารของคนไทย หรือ พอทำเสร็จก็ปรับเป็นโต๊ะทานอาหารโดยใช้เก้าอี้ stool ทรงสูงนั่งทานอาหารได้ 2 ที่นั่งเก๋ๆ

ห้อง “FLEXI” นี้ มีแรงบันดาลใจที่ชัดเจนจาก Concept โครงการที่ว่า “For Your Extraordinary Reasons” เพราะ MAZARINE Ratchayothin เชื่อว่าแต่ละคนมีหลากหลายเหตุผลในการใช้ชีวิตและการเลือกที่อยู่อาศัยที่แตกต่างกัน

ห้องรูปแบบนี้จึงออกแบบมาให้ “Flexible” สามารถ ปรับเปรียนรูปแบบการใช้งานได้ เช่น ผนังเบาที่สามารถเลื่อนเปิด ปิด เพื่อสร้าง Space ใหม่ๆ ภายในห้องได้ ห้องน้ำสามารถเข้าออกได้ 3 ทาง ซึ่งตอบโจทย์ได้กับทุกเหตุผลในแต่ละวันของแต่ละคน

โดยแต่ละส่วนจะมีบาน slide ที่สามารถเลื่อนเปิดหรือปิดก็ได้ ตามการใช้งาน ตรงส่วน Dining Area และครัว จะเป็นบานกระจก ซึ่งหากเราต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเราก็สามารถหาม่านมาปิดอีกชั้นหนึ่งได้

และส่วนปลายเตียงจะเป็นผนังเบาะ 3 ตอนแบบทึบ ที่สามารถดึงมาปิดได้ถ้าเวลาที่แขกมาแล้วเราต้องการปิดส่วนห้องนอนที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวไม่ให้แขกเห็น เป็นต้น

ส่วน Living Area ขนาดใหญ่ โครงการจัดมาให้ 2 โซนเชื่อมต่อกัน มีโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง มาให้ 2 ตัวเลย และมีโต๊ะกลางให้ 1 ตัวด้วย (ให้เยอะมากๆ ใจดีเหลือหลาย เอาง่ายๆ ว่าสิ่งที่เห็นในห้องตัวอย่างนี้ 90% คุณได้ทั้งหมด สิ่งที่ไม่ได้ คือของตกแต่ง หรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็กชิ้นน้อย เช่น เก้าอี้อาร์มแชร์ Tea Table ดอกไม้โคมไฟ แจกัน ไม่ได้ให้เท่านั้นเอง

พื้นที่ระหว่างห้องนอน ไปถึงห้องน้ำ จัดให้เป็น Walk-in Closet ค่ะ Built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้ ซึ่งการออกแบบภายในตู้ก็ดีมากเพราะ ได้ทั้งแขวนชุดยาวๆ อย่าง เดรส หรือ สูท มีช่องเล็กๆ สำหรับใส่เข็มขัด กระเป๋า รองเท้า เป็นสัดส่วน มีลิ้นชักที่จุของได้เยอะ ส่วนหน้าบานก็ติดเป็นกระจกเงาไว้ให้แล้ว ซึ่ง ถ้าเราแต่งตัวเราออกไปยืนที่ห้อง Living เราจะสามารถเห็นตัวเองในกระจกจากห้องแต่งตัวได้ทั้งตัวเลย (คนออกแบบนี้รู้ใจจริงๆ)

ระเบียงของห้องแบบ 1 Bedroom FLEXI นี้ เป็นระเบียงกว้าง วางเครื่องซักผ้าแล้วยังเหลือที่อีก สำหรับติดตั้งราวตากผ้าก็ได้ หรือใครที่ไม่ได้ซักผ้าเอง ไม่ได้ใช้วางเครื่องซักผ้า พื้นที่ระเบียงนี้ก็เอาไว้วางเก้าอี้ตัวเล็กๆ นั่งชมวิว หรือจะปลูกไม้กระถางแทนก็สบายๆ ค่ะ เพราะเขามีระบบระบายน้ำไว้แล้วอย่างดี คอมเพรสเซอร์แอร์ก็ไม่เป่าลมร้อนมาที่ระเบียงด้วยค่ะ

เชื่อว่าบางคนอ่านไม่ถึงบรรทัดนี้นะคะ เพราะอาจจะหยิบโทรศัพท์จองโครงการกันไปเรียบร้อยแล้ว แต่ถ้ามีใครยังอ่านมาถึงก็มีข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับการจองและการทำสัญญาทิ้งท้ายให้ค่ะ …

ราคาจอง :
รูปแบบ Studio 30,000 บาท
รูปแบบ 1 Bedroom 30,000 – 40,000 บาท
รูปแบบ 2 Bedroom 50,000 บาท

ราคาทำสัญญา :
รูปแบบ Studio 100,000 – 130,000 บาท
รูปแบบ 1 Bedroom 150,000 – 210,000 บาท
รูปแบบ 2 Bedroom 220,000 – 240,000 บาท

การดาวน์ : วางดาวน์ 7%  ผ่อนดาวน์ 19 งวด,

ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับส่วนกลาง : ค่ากองทุน 500 บาท / ตร.ม.  ค่าส่วนกลาง 70 บาท / ตร.ม./เดือน

สอบถามข้อมูลโครงการเพิ่มเติมได้ที่

https://bit.ly/2Bd43oI
www.facebook.com/GrandUnityDevelopment

หรือ Tel: 02 652 4000

หรือ เข้าชมโครงการได้ ที่ Sale Gallery ตั้งอยู่เด่นเป็นตระหง่านที่ฝั่งตรงข้าม Major รัชโยธินได้ ทุกวัน เวลา 9.00 – 19.00 น. ค่ะ

หรือให้ง่ายกว่านั้นกด GPS ไปตาม link นี้ได้เลยค่ะ https://goo.gl/maps/rM9dj8F6eBU2