ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี ปักหลักตลาดคอนกรีตในภาคตะวันออก “อาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม”เผยมีลูกค้าภาครัฐ เอกชน สั่งออเดอร์ ในเขตุพื้นที่ EEC เพิ่ม รักษา Backlog 2,000 ล้านบาท  ขณะที่ ผลประกอบการในไตรมาส 3 ปี 2561 รายได้เฉพาะกิจการ 454 ล้านบาท และมีรายได้จากงบการเงินรวม682.80 ล้านบาท ส่งผลกำไรเฉพาะกิจการ 26 ล้านบาท โต 435%

 

นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) (CCP) เปิดเผยว่า บริษัทฯยังคงมุ่งเน้นการเป็นผู้นำตลาดคอนกรีตในภาคตะวันออก พร้อมพัฒนาสินค้าและนวัตกรรมใหม่ เพื่อรองรับงานโครงสร้างพื้นฐาน ขณะเดียวกันยังคงเดินหน้าเข้าเสนองานใหม่กับลูกค้าภาครัฐ-เอกชน งานราชการส่วนท้องถิ่นต่างๆ ปัจจุบันบริษัทฯมีงานในมือ (Backlog ) อยู่ที่ประมาณ 2,000 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ 1.5 ปี

 

ส่วนแนวโน้มธุรกิจของบริษัทฯ ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2561  คาดว่าจะเติบโตในเกณฑ์ดี จากโครงการขนาดใหญ่มีการลงทุนก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีทิศทางในการขยาย ความสามารถในการแข่งขันใน สินค้าคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast) มีความต้องการใช้งานที่เพิ่มขึ้น  นอกจากนี้บริษัทยังมีคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) เข้ามาจากโครงการของภาครัฐ เอกชน ในเขตของโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ EEC อาทิ งานถนน และนิคมอุตสาหกรรม คาดว่าจะเริ่มดำเนินงานและรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2562

 

พร้อมกันนี้ นายอาทิตย์  ยังกล่าวถึงผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2561 มีรายได้เฉพาะกิจการ 454 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 412 ล้านบาท จำนวน 42 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10.46% และมีรายได้จาก งบการเงินรวม 682.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 633.14 ล้านบาท จำนวน 49.66 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.84% และมีกำไรเฉพาะกิจการ 26 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรเฉพาะกิจการ  4.85 ล้านบาท จำนวน 21.2  ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 435 % โดยในQ3/ 2560 มีกำไรจาก จากการขายแพลนท์และเครื่องจักร ในส่วนของคอนกรีตผสมเสร็จ (Ready Mixed) ให้กับพันธมิตร

 

ส่วนผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 2561 ว่า บริษัทฯมีรายได้รวม 1,861 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,765 ล้านบาท จำนวน 96 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.44% แต่มีขาดทุนสุทธิ 62 ล้านบาท เนื่องมาจากบริษัทฯมีการตั้งประมาณการหนี้สิน เบี้ยปรับภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกรมสรรพากร จำนวน 77.06 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการอุทธรณ์การประเมินภาษี