วี พร็อพเพอร์ตี้ฯเปิดแผนปี62 รุกผุด2-3 โครงการ รวมมูลค่า 5,400 ล้านบาท ปักหมุดแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว ทำเลสุขุมวิทเป็นหลัก เผยสนใจรุกธุรกิจโรงแรม 4 ดาว หวังสร้างรายได้ระยะยาว ทั้งเล็งขยายตลาดแนวราบใจกลางเมือง-ชานเมือง ล่าสุดเจรจาอสังหาฯติดอันดับ1ใน10จากญี่ปุ่น รวมทุนโครงการแนวสูง มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท เตรียมเปิดพรีเซล “เวอร์เทียร์ สุขุมวิท”16-17 ก.พ.62 นี้ คาดปิดการขายภายในปีนี้

 

นายพรชัย เลิศอนันต์โชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด หรือ V Property เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯในปี 2562 ว่าอัตราการเติบโตชะลอตัวลดลงจากปี 2561 ประมาณ 5-10% อันเนื่องมาจากหลายปัจจัยลบ แต่การพัฒนาโครงการในบางทำเลก็ยังได้รับการตอบรับที่ดี ขณะเดียวกันบางทำเลซัพพลายคอนโดฯก็เริ่มล้นตลาด ซึ่งในส่วนของบริษัทฯเองก็มีความระมัดระวังในการหาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการเป็นอย่างมาก ซึ่งจะเน้นทำเลใกล้แนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวเป็นหลัก เนื่องจากเป็นทำเลที่ใกล้แหล่งงาน แหล่งช้อปปิ้ง และชาวต่างชาติพักอาศัยอยู่มาก เหมาะสำหรับนักลงทุนไทยที่ซื้อเพื่อปล่อยเช่าให้กับชาวต่างชาติ

 

สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2562 จะเปิดตัวประมาณ 2-3 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 5,400 ล้านบาท โดยแปลงแรกเป็นที่ดินย่านทองหล่อ ส่วนอีกแปลงก็อยู่ในทำเลรถไฟฟ้าสายสีเขียว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

 

 

นอกจากนี้บริษัทฯยังเล็งหาที่ดินเพื่อพัฒนาเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์หรือโรงแรม ระดับ 4 ดาว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทำเลที่ได้ แต่แนวโน้มจะเป็นการพัฒนาในรูปแบบของโรงแรมมากกว่า เพราะมองว่าชาวต่างชาติยังนิยมมาท่องเที่ยวและลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง จึงเห็นทิศทางของตลาดให้เช่าว่ายังมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ทั้งนี้การพัฒนาจะต้องมีดีไซน์ที่แตกต่าง ซึ่งคงพัฒนาในรูปแบบของ “ดีไซน์ โฮเทล” และให้เชนจากต่างประเทศเข้ามาบริหาร ระดับราคาประมาณ 3,000-4,000 บาท/คืน ซึ่งจะเน้นทำเลสุขุมวิทเป็นหลัก ซึ่งการพัฒนาในรูปแบบดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทมีรายได้ในระยะยาวด้วย

 

อีกทั้งยังสนใจที่จะพัฒนาโครงการแนวราบ ทำเลใกล้เมืองหรือใกล้รถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย โดยเฉพาะใกล้สายสีเขียว พื้นที่ประมาณ 3-5 ไร่ ส่วนจะเป็นในรูปแบบใดนั้น ขึ้นอยู่กับทำเลที่ซื้อมา หากเป็นทำเลกลางเมือง จะพัฒนาเป็นทาวน์เฮาส์ ระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป หากอยู่นอกเมืองก็จะพัฒนาเป็นทาวน์เฮาส์ ราคา 5-7 ล้านบาท หรือบ้านเดี่ยว ราคา 7-8 ล้านบาท

 

นอกจากนี้บริษัทฯยังอยู่ในระหว่างเจรจากับกลุ่มทุนญี่ปุ่น ซึ่งติดอันดับ1ใน10 ในการพัฒนาอสังหาฯครบวงจรในญี่ปุ่น เพื่อร่วมทุนพัฒนาโครงการแนวสูง มูลค่าตั้งแต่ 3,000 ล้านบาทขึ้นไปด้วย ซึ่งสาเหตุที่เลือกการร่วมทุนกับชาวญี่ปุ่นเพราะมีวัฒนธรรมในการดำเนินธุรกิจที่เข้ากันได้  คาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ในกลางปี2562 นี้

 

ด้านแผนการนำบริษัทฯเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภายในปีนี้ เพื่อนำเงินมาขยายธุรกิจนั้น ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งคาดว่าจะเป็นในช่วงปลายปี2562 นี้ หากสภาวะตลาดยังไม่เอื้ออำนวยก็อาจจะเลื่อนไปเป็นปีหน้า

ส่วนความคืบหน้าโครงการ “เวอร์เทียร์ สุขุมวิท” (Vertier Sukhumvit ) ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่เศษ พัฒนาในรูปแบบของคอนโดมิเนียม ไฮไรส์ 31 ชั้น 1 อาคาร พร้อมที่จอดรถอัจฉริยะ ทั้งอาคารมีห้องพักอาศัยทั้งสิ้น 227 ยูนิตรวมมูลค่า 1,800 ล้านบาท กำหนดราคาขายเริ่ม 180,000 บาทต่อตารางเมตร หรือ 5.5-10 ล้านบาทขึ้นไป  แบ่งชั้นพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 4-28 ชั้นส่วนกลางอยู่ชั้น 1-3 และชั้น 29-30  โดยแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 28 – 42 ตร.ม. จำนวน 183 ยูนิต ,แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 48 – 52 ตร.ม. จำนวน 38 ยูนิต และแบบ 3 ห้องนอน ขนาด 86 ตร.ม.จำนวน 6 ยูนิต (สามารถจดทะเบียนบริษัทได้)โดยโครงการมีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จไตรมาส 2 ปี 2564 (ค.ศ.2021) ซึ่งหลังจากที่เปิดพรีเซลรอบลูกค้าวีไอพีไปแล้ว ขณะนี้มียอดขายแล้ว 60% และขณะนี้มีนักลงทุนชาวญี่ปุ่นสนใจซื้อยก Floor ประมาณ 2-3 ชั้น จำนวนประมาณ 30 ยูนิต ราคาตารางเมตรละ 180,000 บาทขึ้นไป คาดว่าจะสามารถสรุปได้ในเร็วๆนี้ และในวันที่ 16-17 กุมภาพันธ์ 2562 จะเปิดพรีเซลรอบทั่วไป ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนรับส่วนลด 500,000 บาท คาดว่าจะสามารถทำยอดขายรวมได้ 80% และปิดการขายได้ภายในปีนี้