ออริจิ้น มั่นใจครึ่งปีหลังอสังหาฯฟื้นตัว ผู้ประกอบการแห่ผุดโครงการ ระบุหลังบุกตลาดเกษตร-สะพานใหม่ รวม 8 โครงการ พบดีมานด์ยังมีแต่ที่ดินหายาก-ราคาปรับสูง เหตุติดผังสีน้ำเงินที่ดินส่วนราชการ ครึ่งปีหลังจ่อผุด3-4 โครงการ รวมมูลค่า6,000-7,000 ล้านบาท ล่าสุดเตรียมนำ 4 โครงการจัดพรีเซลพร้อมกัน 17 มิถุนายนนี้ คงเป้ายอดขายทั้งปี 13,000 ล้านบาท

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน)หรือ ORI เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในครึ่งปีหลัง2560 ว่าคาดมีแนวโน้มที่ดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก โดยเฉพาะไตรมาส3/2560น่าจะมีการเปิดตัวกันมาก ส่วนไตรมาส4 /2560จะไปเริ่มเปิดตัวในช่วงเดือนพฤศจิกายน โดยในส่วนของบริษัทฯยังคงดำเนินการตามแผนเน้นทำเลที่มีศักยภาพตามแนวรถไฟฟ้า อาทิทำเลย่านเกษตรฯ-สะพานใหม่ ปัจจุบันบริษัทฯได้เข้าไปพัฒนามาแล้ว8 โครงการ ปิดการขายไปแล้ว 6 โครงการ มียอดขายรวมแล้ว 80% ถือว่าเป็นย่านที่มียอดขายดี เพราะใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว และดีมานด์มีกำลังซื้อดี ส่งผลให้ปัจจุบันสินค้าคงเหลือย่านเกษตรฯ-สะพานใหม่มีเหลือน้อยมากเพียง 32% จากประมาณ 8 โครงการ โดยเป็นของ ORI จำนวน 6 โครงการ คาดว่าทุกโครงการจะสามารถปิดการขายได้หมดในปีนี้

ราคาที่ดินย่านเกษตรฯ-สะพานใหม่ปรับขึ้น36-47%

ส่วนราคาที่ดินย่านดังกล่าวที่อยู่ระยะ 300 เมตรจากรถไฟฟ้า ตั้งแต่ปี2559 ราคาอยู่ที่ 170,000-220,000 บาท/ตารางวา และปี2560 ปรับขึ้นมาที่ 250,000-300,000 บาท/ตารางวา โดยมีการปรับขึ้นประมาณ 36-47%  ส่วนราคาขายคอนโดฯมีการปรับตัวขึ้นแบบมีนัย  โดยปี2559 ราคาขายอยู่ที่ 85,000-95,000 บาท/ตารางเมตร และปี2560 ราคาขายอยู่ที่ 95,000-120,000 บาท/ตารางเมตร หรือปรับเพิ่มขึ้น 12-25%

ส่วนที่ดินย่านลาดพร้าว ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 950,000 บาท/ตารางวา ย่านรัชโยธิน ราคา 500,000-600,000 บาท/ตารางวา และย่านเกษตร-สะพานใหม่ ราคาอยู่ที่ประมาณ 300,000-400,000 บาท/ตารางวาถือว่าราคาที่ดินในโซนดังกล่าวนี้ยังมีความต่างกันมาก ไม่พุ่งแรงมากนัก ผู้ประกอบการยังสามารถพัฒนาโครงการได้อยู่ แต่ปัจจุบันที่ดินย่านสะพานใหม่ เริ่มหายากและราคาสูง เพราะผังเมืองส่วนใหญ่เป็นสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นหน่วยงานราชการ แต่ดีมานด์ยังมีอีกมาก  ส่วนคอนโดฯก็จำกัดความสูงไม่เกิน 15 ชั้น และห้องขนาดที่ขายดีที่สุดในย่านนี้คือราคากว่า 1-2 ล้านกว่าบาท ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมในย่านนี้ ส่วนราคาปล่อยเช่าขนาด 1 ห้องนอน จะอยู่ที่ประมาณ 8,000-9,000 บาท/เดือน คาดว่าอีกประมาณ 3 ปี ราคาเช่าจะปรับขึ้นมาที่ 10,000 บาทต้นๆ/เดือน

ลุยเปิดโครงการใหม่-ลงทุนโรงแรม3แห่ง

ทั้งนี้ในครึ่งปีหลังบริษัทฯมีแผนที่จะเปิดตัวใหม่อีกประมาณ 3-4 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 6,000-7,000 ล้านบาท ส่วนโรงแรมอีก 3 แห่งจะเริ่มทยอยดำเนินการก่อสร้าง โดยทำเลทองหล่อ เริ่มดำเนินการก่อสร้างในปลายปี2560 ,ทำเลแหลมฉบัง เริ่มก่อสร้างต้นปี2561 และทำเลศรีราชา เริ่มก่อสร้างกลางปี2561 ซึ่งใช้งบลงทุนแห่งละประมาณ 1,500 ล้านบาท โดยทั้ง 3 โครงการจะแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 2 ปีครึ่ง

ล่าสุดได้เตรียมเปิดตัวโครงการ “ไนท์บริดจ์ พหลโยธิน อินเตอร์เชนจ์”ถือเป็นโคงกาที่8 ของบริษัทฯที่พัฒนาในย่านดังกล่าว ตั้งอยู่บนพื้นที่ 5 ไร่เศษ เป็นคอนโดฯ สูง 15 ชั้น จำนวน 2 อาคาร ขนาดตั้งแต่ 21.3-62.0 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 82,000 บาท/ตารางเมตร หรือ 2-4 ล้านกว่าบาท จำนวน 726 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการ 2,100  ล้านบาทโดยจะเปิดพรีเซลในวันที่ 17 มิถุนายน 2560 นี้ และเริ่มดำเนินการก่อสร้างในไตรมาส2/2561 และแล้วเสร็จในไตรมาส2/2563

นอกจากนี้บริษัทฯยังได้เปิดพรีเซลอีก 3 โครงการพร้อมกันในวันที่ 17 มิถุนายน ด้วยคือ เคนซิงตัน สุขุมวิท-เทพารักษ์ มูลค่า 2,500 ล้านบาท ,นอตติ้ง ฮิลล์ สกายสแครปเปอร์ เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ มูลค่า 2,500 ล้านบาท ,นอตติ้ง ฮิลล์ สุขุมวิท 105 เฟส2 มูลค่า 1,300 ล้านบาท โดยทั้ง 4 โครงการจะมีมูลค่ารวมกว่า 8,400 ล้านบาท

ในไตรมาส 2 นี้บริษัทฯคาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 4,000 ล้านบาท ดังนั้นในครึ่งปีแรก 2560 คาดว่าจะมียอดขายรวมที่กว่า 5,000 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายทั้งปีไว้ที่ 13,000 ล้านบาท  และตั้งเป้าภายในระยะเวลา 5 ปีจะมีรายได้จากธุรกิจอื่นในสัดส่วนที่ 20% เพราะในอนาคตบริษัทจะขยายไลน์สู่ธุรกิจอื่นๆมากขึ้น โดยปัจจุบันอยู่ในระหว่าการเจรจาอีกประมาณ 10 ดีล แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้