.png)
AREA ทิศทางใหม่ล่าสุดในเดือนเมษายน 2560 พบ ทาวน์เฮาส์แซงอาคารชุดแล้ว ส่วนใหญ่เน้นระดับราคา1-3ล้านบาทตั้งอยู่ในเขตเมืองชั้นกลางและส่วนต่อขยายของเมือง
ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย และบริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด เปิดเผยว่าอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในเดือนเมษายน 2560 มีการเปิดตัวโครงการลดลง เนื่องจากเดือนนี้มีวันหยุดราชการยาวต่อเนื่องหลายวัน และบางโครงการได้ทยอยเปิดตัวไปในไตรมาสแรกแล้ว โดยในเดือนนี้ มีจำนวนโครงการเปิดขายใหม่ทั้งหมด 23 โครงการ ลดลงจากเดือนมีนาคม 2560 จำนวน 11 โครงการ อีกทั้งจำนวนหน่วยขายและมูลค่าก็ลดลงตาม โดยลักษณะการพัฒนาเป็นกลุ่มที่อยู่อาศัยทั้งหมด 23 โครงการ มีจำนวนหน่วยขายรวม 5,440 หน่วย และมีมูลค่าการพัฒนาโครงการรวม 14,334 ล้านบาท
.jpg)
ประเภทที่มีมูลค่าการพัฒนาสูงสุด คือทาวน์เฮ้าส์มีมูลค่า 7,346 ล้านบาท (51.2%) รองลงมาคือ อาคารชุด 5,207 ล้านบาท (36.3%) ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านเดี่ยว 833 ล้านบาท (5.8%) ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมดตามลำดับ ดังนั้นภาพรวมของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเดือนนี้ส่วนใหญ่หากเป็นทาวน์เฮ้าส์จะเน้นที่ระดับราคา 1-3 ล้านบาท ส่วนบ้านเดี่ยวราคา 5-10 ล้านบาท และอาคารชุดจะเน้นที่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทเป็นสำคัญ
จากจำนวนหน่วยขาย และมูลค่าโครงการที่ลดลง ทำให้ราคาขายเฉลี่ยต่อยูนิตในเดือนนี้ลดลงด้วย ซึ่งราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยลดลง (ประมาณ -22%) เนื่องจากการพัฒนาในเดือนนี้มีจำนวนหน่วยขายที่มีราคาขายไม่เกิน 3 ล้านบาท มากถึงประมาณ 80% จึงทำให้ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยโดยรวมของเดือนนี้ลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับราคาขายเฉลี่ยของเดือนก่อน ซึ่งราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยของเดือนนี้มีราคาเฉลี่ยที่ประมาณ 2.635 ล้านบาท แต่เดือนที่ผ่านมามีราคาขายเฉลี่ยที่ 3.382 ล้านบาท ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางถึงค่อนข้างต่ำเป็นสำคัญ
ดร.โสภณ ชี้ว่า ผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ จะพบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) จำนวน 7 บริษัท คือ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) บริษัท ริชี่เพลส 2002 จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง
ในด้านทำเลที่ตั้งพบว่าในเดือนนี้มีโครงการที่เปิดตัวใหม่และตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพชั้นในจำนวน 2 โครงการ ตั้งอยู่ในเขตเมืองชั้นกลางและส่วนต่อขยายของเมือง (intermediate area) จำนวน 18 โครงการ เช่น ถนนประชาอุทิศ ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนพัฒนาการ ถนนรามคำแหง และถนนกาญจนาภิเษก เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีอีก 3 โครงการที่อยู่ในพื้นที่รอบนอกซึ่งเป็นย่านชุมชนที่อยู่อาศัยหรือแหล่งงานในย่านนั้น เช่น คลองหลวง บางบ่อ อ้อมน้อย เป็นต้น
หากพิจารณาภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดใหม่เดือนเมษายนของปีนี้กับเดือนเมษายนปี 2559 จะพบว่าในปีนี้มีจำนวนโครงการเปิดใหม่เพิ่ม 5 โครงการ (28%) มีจำนวนหน่วยขายเพิ่ม 2,276 หน่วย (72%) มีมูลค่าเพิ่ม 5,419 ล้านบาท (61%) แต่มีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยลดลงด้วยจาก 2.816 ล้านบาท เป็น 2.622 ล้านบาท (-6.5%) และหากพิจารณาภาพรวมใน 4 เดือนแรก 2560 (มกราคม-เมษายน 2560) เปรียบเทียบกับ 4 เดือนแรกปี 2559 มีจำนวนโครงการที่เปิดใหม่รวม 108 โครงการ (ลดลง -20%) มีจำนวนหน่วยขายรวม 29,705 หน่วย (ลดลงประมาณ -6%) มีมูลค่ารวม 94,435 ล้านบาท (-8%) และมีราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยลดลงจาก 3.264 ล้านบาทเป็น 3.179 ล้านบาท (3%) โดยกลุ่มที่อยู่อาศัยที่เปิดขายมากสุด คืออาคารชุดจำนวน 17,796 หน่วย (50%) รองลงมา คือ ทาวน์เฮ้าส์ 12,039 หน่วย (41%) และอันดับ 3 คือ บ้านเดี่ยว 1,204 หน่วย (4%)
“คาดว่าในเดือนพฤษภาคม 2560 จำนวนหน่วยเปิดขายใหม่ จะยังไม่กระเตื้องขึ้นมากนัก แต่เชื่อว่าภาพรวมของตลาดในช่วงหลังของปี น่าจะดีกว่าในช่วง 4 เดือนแรกนี้” ดร.โสภณกล่าวในตอนท้าย
