An image

เรียลแอสเสทฯ ตั้งทีม “ที่ปรึกษาที่อยู่อาศัย”หวังช่วยลูกค้าแก้ปัญหากู้ไม่ผ่าน พร้อมวอนรัฐออกนโยบายกระตุ้นตลาดอีกรอบหวังช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ส่วนตลาดที่อยู่อาศัยย่านบางนา-อ่อนนุช  รับอานิสงส์การขยายตัวรถไฟฟ้า มีอัตราเติบโตต่อเนื่อง ส่งผล 2 ปี ราคาที่ดินพุ่ง 10-12% แย้มปี60-61 จ่อผุด2-3 โครงการ มูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท

 

นายณัฏฐพร กลั่นเรืองแสง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯได้ตั้งทีม “ที่ปรึกษาที่อยู่อาศัย” เพื่อเป็นที่ปรึกษาทางด้านการเงินแก่ลูกค้าและช่วยตรวจสอบฐานะการเงินของลูกค้าที่ซื้อบ้านให้ได้รับอนุมัติสินเชื่อกู้ซื้อบ้านได้เพิ่มขึ้น ซึ่งก็ได้ผลค่อนข้างดี  เห็นได้จากยอดการปฏิเสธสินเชื่อกู้ซื้อบ้านลดลงจากที่มีอัตราที่สูงถึง 19 %ในปี2559 ลดลงมาเหลือเฉลี่ยไม่ถึง 10% ณ สิ้นไตรมาส 1/2560 อย่างไรก็ตามอยากให้รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในเรื่องมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง ซึ่งจะมีส่วนต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศ

 

สำหรับตลาดที่อยู่อาศัยย่านบางนาและอ่อนนุช ถือได้ว่าเป็นพื้นที่กรุงเทพฯฝั่งตะวันออกที่เป็นทำเลทอง เพราะมีศักยภาพสูง มีการเชื่อต่อมาจากศูนย์กลางพัฒนาเศรษฐกิจแห่งใหม่ (New CBD) และสุขุมวิทตอนกลาง มีเส้นทางคมนาคมที่เดินทางได้สะดวกหลายเส้นทาง รวมถึงมีโครงการถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มส่วนต่อขยายจากแบริ่งไปสมุทรปราการที่เริ่มเปิดใช้บริการแล้ว โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) คาดจะเริ่มก่อสร้างภายใน 1-2 ปี และโครงการรถไฟฟ้าในอนาคตสายสีเขียว(บางนา-สุวรรณภูมิ) ที่ได้บรรจุลงไปในแผนพัฒนาปี 2560 เพื่อรองรับการเติบโตของเมืองในอนาคตส่งผลให้ในช่วง3-5 ปีที่ผ่านมาย่าน บางนา-อ่อนนุช มีศักยภาพในการลงทุน และในอนาคตจะมีแหล่งพาณิชย์กรรม แหล่งงานเกิดขึ้นอย่างมาก เนื่องจากราคาที่ดินในบริเวณปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลไปถึงตลาดอาคารสำนักงานที่จะมากขึ้น และจะตามมาด้วยความต้องการที่อยู่อาศัย

 

ทั้งนี้จะพบว่า ในช่วง 2ปี ราคาที่ดินปรับขึ้นไป 10-15% ซึ่งปัจจุบันราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท/ไร่ และจากการศึกษาข้อมูลวิจัยของบริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลแอสเสท แอฟแฟร์ จำกัดพบว่า ในย่านดังกล่าวมีโครงการเปิดขาย ณ ปัจจุบัน จำนวน 37 โครงการ  ซึ่งคิดจำนวนหน่วยเปิดขายประมาณ 9,991 หน่วย ประกอบด้วย โครงการแนวราบ จำนวน 5,814 หน่วย (58%) และโครงการแนวสูง จำนวน 4,177 หน่วย (42%) แต่เมื่อพิจารณาในส่วนอัตราการขาย จะเห็นว่าโครงการแนวราบมีอัตราการขายได้สูงกว่าแนวสูง ซึ่งใช้เวลาในการระบายหน่วยเหลือขายประมาณ 3 ปี ในขณะที่แนวสูงจะอิงกับโครงข่ายรถไฟฟ้า คาดว่าจะใช้เวลาในการระบายหน่วยเหลือขายประมาณ 5 ปี

 

และเมื่อพิจารณาในส่วนโครงการแนวราบ สามารถจัดได้ 5 อันดับแรกที่สามารถขายได้ดีในบริเวณย่านบางนา-อ่อนนุช คือ บ้านแฝดระดับราคา 5-10 ล้านบาท ซึ่งได้อานิสงส์มาจากความนิยมจากบ้านแฝดในเมือง ทาวน์เฮาส์ระดับราคา 2-3 ล้านบาท ทาวน์เฮาส์ระดับราคา 3-5 ล้านบาท บ้านแฝดระดับ 3-5 ล้านบาท และบ้านเดี่ยวระดับ 5-10 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งทางบริษัทได้มีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในย่านดังกล่าวหลายโครงการ ทั้งทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ภายใต้แบรนด์  “สตอรีส์” ทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น แบรนด์ “เพล็กซ์” และบ้านเดี่ยว ภายใต้แบรนด์ “วิรัณยา” เพื่อรองรับการขยายตัวของเมือง และความต้องการที่อยู่อาศัยในอนาคต

 

ด้านนายวีระชัย หาญจริยากูล ผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์ธุรกิจบ้านจัดสรรและอาคารพาณิชย์ บริษัท เรียลแอสเสทฯ กล่าวถึงแผนการลงทุนในปี2560 -61 บริษัทเตรียมเปิดตัวประมาณ 2-3 โครงการ มูลค่าประมาณ 4,000 ล้านบาท แบ่งโครงการแนวราบจะเปิด 1 โครงการในช่วงปลายปี2560 และปี 2561 จะเปิดอีก 2 โครงการ แบ่งเป็นแนวราบ 1 โครงการและโครงการแนวสูงระดับลักชัวรี 1 โครงการ โดยตั้งงบจัดซื้อที่ดินในปีนี้ไว้ 1,000 ล้านบาท

An image

ส่วนความคืบหน้าโครงการ ” วิรัณยา ” ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 43 ไร่ พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยว ขนาดตั้งแต่ 50.6-116ตารางวา ราคาขายเริ่มต้นที่ 5.99-12 ล้านบาท จำนวน 169 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 1,100 ล้านบาท โดยแบ่งการขายเป็น 2 เฟสขณะนี้เฟสแรกซึ่งมีจำนวน 79 ยูนิต มียอดขายแล้วกว่า 50% ส่วนเฟส 2 มีจำนวน 90 ยูนิต โดยตั้งเป้าปิดการขายทั้ง 2 เฟส ภายในระยะเวลา 2 ปี

 

ในปี 2560 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายเฉพาะโครงการแนวราบอยู่ที่ 1,200 ล้านบาท เติบโตเกือบ 40% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมีโครงการที่กำลังอยู่ในขั้นการตอนโอนกรรมสิทธิ์ทั้งสิ้น 7 โครงการ ส่วนโครงการคอนโดมิเนียม 2 โครงการ คาดจะมียอดโอนประมาณ 1,000 ล้านบาท รวมยอดขายประมาณ 2,200-2,300 ล้านบาท

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*