ที่อยู่อาศัย เป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่ทุกคนต้องมี แล้วอสังหาริมทรัพย์แบบไหน? จะเหมาะกับคุณมากที่สุด สำหรับบทความนี้ P2M มีข้อดี ข้อสังเกตุ และสรุปข้อพิจารณา ให้เพื่อนๆ ไว้ Check List ตัดสินใจเวลาเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ซักโครงการ มาเริ่มกันที่ข้อดี ข้อเสียและวิธีการแก้ไขก่อนนะคะ

Home VS Condo

ข้อดี

บ้าน คอนโด
1. มีพื้นที่กว้างขวาง

บ้านที่มีบริเวณรอบ ๆ ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ก็ย่อมให้ความรู้สึกปลอดโปร่งมากกว่า รวมทั้งบ้านนั้นมักมีหน้าต่างโดยรอบ ทำให้มีการไหลเวียนถ่ายเทของอากาศที่ดีกว่า จึงไม่รู้สึกอึดอัด ผิดกับห้องคอนโดมิเนียมที่มีหน้าต่างด้านเดียว หรือมีแต่เพียงระเบียง ไม่มีช่องเปิดอีกหนึ่งทางเพื่อให้เกิดการไหลเวียนของลม เว้นเสียแต่จะเปิดประตูห้องทิ้งไว้ ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อเรื่องความปลอดภัย และสูญเสียความเป็นส่วนตัว

1.มักอยู่ในจุดที่เดินทางสะดวก

คอนโดส่วนใหญ่มีจุดเด่นอยู่ที่การเดินทางสะดวกสบาย เพราะมักอยู่ใกล้ถนนใหญ่, รถไฟลอยฟ้า หรือ รถไฟฟ้าใต้ดิน แทบทั้งนั้น จึงทำให้คอนโดเหมาะกับไลฟ์สไตล์แบบคนเมืองมากกว่า

2. มีจำนวนห้องมากกว่า

             ในบ้านหนึ่งหลังประกอบไปด้วย ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว รวมทั้งอาจมีห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร เพิ่มขึ้นมาต่างหากอีกก็ได้

2. ดูแลรักษาทำความสะอาดได้ง่าย

              ในการทำความสะอาดคอนโดที่มีพื้นที่น้อย สามารถทำความสะอาดเพียง รอบห้องพัก ห้องน้ำ และระเบียง ก็เพียงพอ โดยที่ไม่ต้องทำความสะอาดรอบบริเวณเหมือนการอยู่บ้าน ทำให้เหนื่อยน้อยลง

3. รองรับจำนวนสมาชิกในบ้านได้มาก

            บ้านเป็นหลังย่อมมีพื้นที่กว้างขวางกว่าการอยู่ห้องคอนโด เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิกเยอะ ทั้งยังสามารถต่อเติมพื้นที่ให้รองรับจำนวนคนที่เพิ่มมากขึ้นได้ด้วย

3. มีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาไม่มาก

             เพราะพื้นที่น้อยจึงทำให้มีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาไม่มากนัก เนื่องจากพื้นที่นอกห้องส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ซึ่งมีการบำรุงรักษาจากนิติบุคคลอยู่แล้ว เจ้าของห้องจึงมีค่าใช้จ่ายเพียงแค่ดูแลรักษาภายในห้องเท่านั้น

4. ออกแบบสภาพแวดล้อมได้อย่างอิสระ

              ต้องการสร้างบรรยากาศของบ้านให้เป็นแบบไหน ก็สามารถทำได้ด้วยด้วยขอบเขตของการตกแต่งบ้านที่มีตัวเลือกมากกว่า รวมทั้งการปลูกต้นไม้เพื่อสร้างความร่นรื่นแก่ตัวบ้านก็ย่อมทำได้ด้วย

4. มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

             จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของคอนโดก็คือ มีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน ทั้งฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, สนามกีฬา, ลานจอดรถ, และร้านค้าต่าง ๆ รวมถึงร้านสะดวกซื้อ ซึ่งทำให้ผู้อยู่อาศัยไม่ต้องเดินทางออกไปทำกิจกรรมไกลจากที่พักมากนัก

5. มีที่จอดรถส่วนตัวภายในบ้าน

             เมื่อหาซื้อบ้านในสมัยนี้ จะมาพร้อมกับที่จอดรถอย่างน้อย 1 คันเป็นมาตรฐาน คุณจึงสามารถจอดรถภายในตัวบ้านได้ สอดส่องมองเห็นใกล้หูใกล้ตา ไม่ต้องกลัวหายเหมือนฝากจอดที่ลานจอดรถ

5.ระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนา

คอนโดมิเนียมในยุคนี้มักมากับระบบรักษาความปลอดภัย แบบ Triple Security เป็นมาตรฐานระบบรักษาความปลอดภัยแบบสามชั้นที่ทุกโครงการจะทำ คือ 1.ทางเข้าโครงการจะมี security guard 2. คีย์การ์ดสำหรับแสกนเพื่อเข้าอาคาร และ 3.ระบบลิฟต์แบบล๊อคชั้น

6. ซักผ้า-ตากผ้า ได้สะดวก

             บ้านมีพื้นที่ให้คุณได้ตากผ้าอย่างเพียงพอ ไม่ต้องเบียดตากที่ระเบียง แถมผ้ายังแห้งและถูกฆ่าเชื้อด้วยแดด ไม่ใช่ด้วยลมเป่าจากคอมเพรสเซอร์ของเครื่องปรับอากาศทีมักตั้งอยู่ที่ระเบียงห้องอีกด้วย

6. เป็นแหล่งลงทุนที่ดี

             เมื่อความต้องการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมมีสูง จึงทำให้คอนโดเป็นอีกหนึ่งอสังหาริมทรัพย์ที่เหมาะกับการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการซื้อไว้เพื่อปล่อยให้เช่า หรือ เพื่อปล่อยขายทำกำไร ซึ่งสามารถแยกได้เป็นการขายทั้งห้องหลังจากตกแต่งเสร็จแล้ว ขายดาวน์ หรือขายแค่ใบจองห้อง ก็สามารถทำกำไรให้นักลงทุนได้ทั้งสิ้น

7. เลี้ยงสัตว์ได้

             เป็นอีกหนึ่งข้อสำคัญสำหรับคนรักสัตว์ เนื่องจากหลายคนอยากเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเอาไว้เป็นเพื่อนคลายเหงา การตัดสินใจซื้อบ้านจะทำให้คุณสามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ตามต้องการ อีกทั้งยังมีบริเวณรอบบ้านให้สัตว์เลี้ยงได้วิ่งเล่นตามอัธยาศัยด้วย

7. ไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

             สิ่งสำคัญที่ทำให้คอนโดกลายเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วในช่วงนี้ ปัจจัยหนึ่งเป็นเพราะคอนโดได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมค่อนข้างน้อย เนื่องจากห้องพักอยู่สูง จึงไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมให้ห้องพักเสียหาย จะมีก็แต่ความเสียหายของพื้นที่ส่วนกลาง ที่อาจมีค่าใช้จ่ายค่าส่วนกลางในการบำรุงรักษา แต่ก็ยังเป็นค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าการซ่อมแซมบ้านทั้งหลังที่ถูกน้ำท่วม อีกทั้งยังสามารถเก็บไว้เป็นที่พักอาศัยชั่วคราวในยามฉุกเฉิน หากบ้านพักถูกน้ำท่วมได้ด้วย

8. มีความเป็นส่วนตัว

             อยู่ที่บ้านคุณสามารถดำเนินกิจกรรมบางประการได้อย่างเป็นส่วนตัวกว่า ไม่ว่าจะเป็นการล้างรถ (ล้างที่บ้านได้ ไม่ต้องไปที่คาร์แคร์) ทำกับข้าว (ทำอาหารหนัก ๆ ควันเยอะ กลิ่นแรงก็ย่อมได้) ซักผ้า (ซักเองได้ที่บ้าน ไม่ต้องใช้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ) ฯลฯ

8. มักมีเทคโนโลยีใหม่ๆล้ำสมัย

ไม่ว่าจะเป็น Bluetooth Sound System หรือ Home Automation เป็นเทคโนโลยีเปิด – ปิด น้ำ ไฟ แอร์ โทรทัศน์ เตาแก๊ส กระทั่งเปลี่ยนเพลง เปลี่ยนช่องโทรทัศน์จาก เพียงปลายนิ้วสัมผัสด้วย Smart Phone ของเราเองเป็นอีกจุดเด่นที่โครงการคอนโดมิเนียมสมัยนี้มักนำมาเป็นจุดขาย

9. ไม่ต้องหอบของไกล

             การอยู่บ้านทำให้ไม่ต้องขึ้นบันได ไม่ต้องรอลิฟท์เพื่อขึ้นไปหลาย ๆ ชั้นกว่าจะถึงห้องพัก ซึ่งแน่นอนว่าย่อมสะดวกต่อคุณมากกว่าในกรณีซื้อของชิ้นใหญ่เข้าบ้าน หรือหิ้วของพะรุงพะรัง

9. มีนิติบุคคลที่เสมือนคนคอยดูแลบ้านของคุณอยู่ตลอดเวลา

จะอยู่บ้านหรือไม่อยู่บ้าน มีไปรณีย์มาส่งของ หรือต้องรับพัศดุ ก็มีคนที่คอยจัดการเรื่องจุกจิกแบบนี้ให้คุณอยู่ตลอด ทั้งยังเรื่องฉีดปลวก ฉีดยุงกันแมลง ทิ้งขยะ แม้แต่เป็นธุระจัดการนิมนต์พระสงฆ์ มาทำบุญบ้านให้คุณทุกๆปี เพื่อเป็นศิริมงคลก็มีคนทำให้

good home vs condo

ข้อสังเกตุและวิธีแก้ไข

 บ้าน  คอนโด
 1. เดินทางลำบาก

ส่วนใหญ่บ้านที่ขายกันอยู่ในปัจุบันมักมีทำเลที่อยู่ค่อนข้างห่างจากตัวเมืองเนื่องด้วยข้อจำกัดทางพื้นที่ จึงทำให้การเดินทางไม่ค่อยสะดวกนัก ไกลจากขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟลอยฟ้าหรือรถไฟใต้ดิน

 1. พื้นที่น้อย ทำให้รองรับจำนวนสมาชิกได้ไม่มาก

ข้อเสียหลักของคอนโด คือมีพื้นที่น้อย บางห้องไม่มีหน้าต่างหรือระเบียงมากพอที่จะถ่ายเทได้สะดวก  นอกจากนี้ยังส่งผลต่อการรองรับจำนวนสมาชิกได้ไม่มากนัก ยิ่งถ้าคอนโดห้องไหนไม่มีการแบ่งห้องนอนเป็นสัดส่วน ก็จะยิ่งทำให้รองรับสมาชิกได้น้อยเข้าไปอีก รวมถึงทำให้ไม่เป็นส่วนตัวในการอยู่ร่วมกันอีกด้วย

 ไกลจากตัวเมือง มองอีกมุมหนึ่งคือเป็นส่วนตัวไม่พลุกพล่าน การเดินทางอาจไม่สะดวกกับ BTS แต่มีโครงการบ้านจัดสรรหลายโครงการที่อยู่ติดกับถนนสายหลัก หรือทางด่วน หมายความว่าถ้าคุณเลือกซื้อบ้าน คือคุณชอบเดินการทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวมากกว่าขนส่งมวลชน จริงค่ะ คอนโดให้พื้นที่น้อย วิธีการแก้ปัญหานี้ง่ายมากอยากได้พื้นที่เยอะก็ซื้อหลายๆห้องสิค่ะ จะซื้อยกทั้ง Floor แล้วแบ่งให้สมาชิกในครอบครัวคุณอยู่คนละห้องก็ได้ค่ะ ปัญหาอยู่ที่เงินในกระเป๋ามากกว่า..ลองคำนวนดูนะคะ ในพื้นที่เดียวกันสร้างบ้าน 5 ห้องนอน กับซื้อ Studio 5 ห้องราคาไม่หนีกันเท่าไหร่เลย..
2. ดูแลรักษายาก ค่าบำรุงรักษาเยอะ

เนื่องจากบ้านมีบริเวณที่ค่อนข้างกว้างจึงทำให้มีเรื่องจุกจิกในการบำรุงรักษาเยอะขึ้น มีทั้งพื้นที่ในบ้านที่ต้องปัดกวาดเช็ดถู รวมไปถึงพื้นที่นอกบ้าน ทั้งต้นไม้ สนามหญ้า ฯลฯ ที่จำเป็นต้องรักษาให้อยู่ในสภาพดี พร้อมใช้งาน ป้องกันบ้านโทรม และอาจกลายเป็นที่อยู่ของสัตว์ที่ไม่พึงประสงค์ จึงอาจทำให้เหนื่อยกับการดูแล แถมยังต้องเสียค่าใช้จ่ายจิปาถะอีกด้วย

 2. ไม่มีพื้นที่ให้ปลูกต้นไม้หรือจัดสวน

หลายคนที่ชอบปลูกต้นไม้ หรือหลงรักพื้นที่สีเขียว คงจะไม่ถูกใจการพักอาศัยในคอนโดเท่าไหร่นัก เนื่องจากพื้นที่สีเขียวที่จะสามารถมองเห็นได้นั้น จะเป็นเพียงแค่บริเวณสวนสวยของคอนโดแต่ละแห่งให้นั่งเล่นร่วมกันเท่านั้น แต่คุณไม่สามารถมีสวนสวยส่วนตัว หรือเลือกต้นไม้มาปลูกตามใจชอบได้เลย เนื่องจากห้องพักไม่มีบริเวณมากพอให้ปลูกต้นไม้ เพื่อให้ความสดชื่นนั่นเอง

เรามองว่าเหมือนกับการเสียค่าส่วนกลาง ให้กับคอนโดมิเนียมนะ ที่อยู่อาศัย สถาปัตกรรมเป็นสิ่งที่ต้องทำนุบำรุง ดูแลรักษาทำความสะอาด ค่าบำรุงรักษาที่มาก ก็มากตามคนที่ใช้งานบ้านหลังนั้น หรือคนที่อยู่อาศัย ถ้าเทียบกับคอนโดที่ขนาดเล็กอยู่ได้ 1-2 ค่าบำรุงรักษาก็คูณอย่างมากเพียง 2 เท่า ในขนาดที่บ้านอยู่ได้ 3-5 คน หรืออาจะเป็น 10 คน ก็ต้องคูณ 10 ไป คนที่อยู่ในบ้านทุกคนมีส่วนที่ต้องช่วยออกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้  คุณคะคุณขา สมัยนี้เค้ามีสวนแนวตั้งแล้วนะคะ หรือแม้กระทั่งนวัตกรรมการรดน้ำต้นไม้อัตโนมัติ รดมากรดน้อยให้ต้นไม้ได้รับปริมาณน้ำเพียงพอ ไม่น้อยจนตาย และไม่มากจนเปรอะเปื้อนพื้นห้องของคุณ
3. ระบบรักษาความปลอดภัยไม่แน่นหนา

หากต้องเดินทางหรือค้างคืนนอกบ้าน ผู้เป็นเจ้าของบ้านมักรู้สึกเป็นกังวลมากกว่าเจ้าของห้องคอนโด เนื่องจากบ้านนั้นส่วนใหญ่จะอยู่ในหมู่บ้านที่เงียบสงบ หรืออยู่ในทำเลที่เปลี่ยว ซึ่งเจ้าของบ้านอาจเป็นกังวลว่ารปภ.จะดูแลไม่ทั่วถึง ต่างจากคอนโดที่มีคนพลุกพล่าน และส่วนใหญ่มักมีกล้องวงจรอยู่ทุกชั้น

3. การซักผ้า-ตากผ้าไม่ค่อยสะดวก

ปัญหาของผู้อยู่อาศัยในคอนโดอีกหนึ่งเรื่อง คือการซักผ้า ตากผ้า เพราะพื้นที่มีจำกัดทำให้ต้องทยอยซักผ้าและตากผ้าทีละน้อย ๆ ใครที่ซักผ้าด้วยตัวเอง ทั้งซักมือ, ซักด้วยเครื่องซักผ้าส่วนตัว หรือ เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ก็อาจต้องเสียทั้งแรง เสียเวลา เสียเงิน และเสียค่าไฟเพิ่มขึ้น

สมัยนี้มีโครงการฝากบ้านไว้กับคุณตำรวจนะคะ ถ้ากังวลความไม่ปลอดภัย เข้าร่วมโครงการนี้เลยค่ะ สำหรับเรื่องนี้บางทีก็ต้องปลงใจนะคะ มันเป็นเรื่องของเวรกรรมนำพาด้วย ต่อให้จะระมัดระวังมากแค่ไหน ถ้าเวรกรรมมันมาถึงตัวก็ต้องยอมรับ  ส่วนใหญ่แล้ว ผู้อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม มักมีไลฟ์สไตล์ที่ชอบความสะดวกรวดเร็ว ทำอะไรกระฉับกระเฉง ว่องไว เรื่องการซักผ้าตากผ้ามักใช้ทั้ง เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าด้วย รวมทั้งบริการซักอบรีดก็เป็นอีกทางเลือกที่ทำให้คุณไม่ต้องกังวลเครื่องพื้นที่ตากผ้าไม่สะดวก
4. มีโอกาสได้รับผลกระทบหากเกิดน้ำท่วม

หลังจากเกิดเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ในประเทศไทย หมู่บ้านหลายแห่งในเขตชานเมือง กลายเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วมขัง ซึ่งทำให้ได้รับผลกระทบอย่างมากต่อตัวบ้านและของใช้ในบ้าน

 
พูดกันจริงๆ ปัญหาน้ำท่วมไม่ได้กระทบแค่คนที่อยู่ในบ้านหรอกค่ะ อยู่ที่ไหนก็กระทบ อยู่คอนโดถ้าน้ำท่วมก็ใช้ชีวิตยากเหมือนกัน แต่ที่คอนโดกระทบน้อยกว่า เพราะคอนโดมักสร้างในพื้นที่ที่ผังเมืองรวมกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินไว้เป็นสีส้ม สีแดง หรือสีน้ำตาล ซึ่งเป็นพื้นที่ถูกวิเคราะห์จากนักผังเมืองแล้วว่าเป็นพื้นที่ที่สมควรสร้างที่อยู่อาศัย วิธีการแก้ไขปัญหานี้ง่ายมากค่ะ ก่อนซื้อบ้านตรวจสอบว่าบ้านของคุณอยู่ในพื้นที่การใช้ประโยชน์ที่ดินจากผังเมืองรวมสีอะไร ไม่ควรซื้อหากอยู่ในพื้นที่สีเขียว และสีเขียวลายค่ะ   

bad condo vs home

สำหรับการตรวจสอบว่าพื้นที่บ้านของคุณอยู่ในพื้นที่ที่ผังเมืองรวมกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดิน เป็นสีอะไร? >> http://cpd.bangkok.go.th/map1_t.html

เมื่อทราบข้อดีข้อเสียทั้งหมดของการเลือกซื้อบ้านหรือคอนโดแล้ว เรามาดูกันค่ะจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ซักแห่งมีข้อควรพิจารณาอะไรบ้าง เพื่อให้คุณเลือกที่อยู่อาศัยได้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด

1.สถานที่ตั้ง

ก่อนอื่นต้องสำรวจความต้องการของตัวคุณ ว่าคุณต้องการอาศัยอยู่ในทำเลที่พักแบบไหน เป็นต้นว่าขออยู่ใกล้ตลาด มีของกินขายหาซื้อได้สะดวก ใกล้โรงพยาบาล ใกล้ห้างสรรพสินค้า ติดถนนใหญ่ เดินทางง่าย มีรถสาธารณะเข้าถึง Location และ Location เท่านั้นค่ะเป็นสิ่งสำคัญต่อการซื้อโครงการอสังหาริมทรพย์ทุกประเภท

2. งบประมาณ

สิ่งสำคัญแทบจะที่สุดก็คือเรื่องของงบประมาณ สำรวจเงินในกระเป๋าตัวเองกันค่ะ ถ้างบประมาณไม่ถึง อาจจำต้องลดสเปคลงมาก็เป็นได้ จากบ้าน 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ เป็น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ หรือคอนโด 2 Bedrooms เป็น 1 Bedroom Plus

3.ความเป็นส่วนตัว

คุณต้องการอยู่อย่างเงียบสงบเป็นส่วนตัว เป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง หรือต้องการเข้าสังคมบ้าง ถ้าคุณเลือกอยู่บ้านจะแค่คนในครอบครัวของคุณใน ขนาดที่เลือกอยู่คอนโดถ้าต้องการความเป็นส่วนตัวอาจจะอยู่ในยูนิตของคุณ และหากต้องการเข้าสังคมก็ลงมาใช้พื้นที่ส่วนกลางที่โครงการจัดเตรียมไว้ให้

4.อำนาจตัดสินใจในการจัดการบ้าน

หากคุณอยู่คอนโด แน่นอนล่ะว่าภายในห้องคุณสามารถจัดการมันอย่างไรก็ได้ตามที่คุณชอบ แต่ถ้าคุณอยู่บ้านและคิดจัดการบริเวณโดยรอบตัวบ้าน คุณต้องคิดถึงเพื่อนบ้านของคุณด้วย เช่น จะต่อเติมกันสาดอย่างไรไม่ให้ล้ำเขตเพื่อนบ้าน น้ำฝนจากหลังคาบ้านคุณกระเด็นเข้าบ้านเขาหรือไม่ แม้แต่วัสดุตกแต่งผิวบางประเภทที่สะท้อนแสงเข้าบ้านของคนอื่นก็ยังไม่ควรเลือกใช้

 5. การดูแลรักษา

ลองคิดง่าย ๆ ว่า คุณพร้อมไหมกับการต้องตัดหญ้าที่สนามเมื่อมันยาวเกินไป กำหนดเปลี่ยนมุ้งลวดให้ประตูหน้าต่างทุกบาน ขัดถูล้างลานบ้านหากเริ่มดำหรือมีตะไคร่ ฯลฯ เมื่อมีพื้นที่บ้านมากขึ้น ก็ต้องดูแลให้มากขึ้นด้วย หรือมีเงินมากพอที่จะสามารถจัดการทุกอย่างได้

พิจารณา VS-01 (1)

 

ข้อมูลทั้งหมดจากบทความนี้ ข้อดีและข้อเสียระหว่างบ้านและคอนโด ทำให้เพื่อนๆง่ายกับการเลือกซื้ออสังหาฯมากขึ้น แต่สุดท้ายแล้วความชอบหรือไม่ชอบ แบบไหน? อย่างไร? ก็ขึ้นอยู่กับวิถีชีวิตของแต่ละคนแล้ว ที่จะเป็นตัวตัดสินเองว่าระหว่าง บ้านกับคอนโด เหมาะสมกับอะไรมากกว่ากัน ด้วยปัจจัยต่างๆ เช่น สถานที่ตั้งที่ทำงาน, สถานะทางครอบครัว, วิถีชีวิต และอื่นๆ ซึ่งถ้าหากมีที่ทำงานอยู่ในตัวเมือง มีชีวิตโสด การเลือกคอนโดอาจจะเหมาะสมกว่า เพราะคอนโดจะอยู่ในตัวเมือง ใกล้รถไฟฟ้า เดินทางสะดวก แต่ถ้าหากต้องการสร้างครอบครัว ที่มีลูกหลายคน การสร้างบ้าน อาจจะเป็นคำตอบที่ใช่ เพราะสามารถอาศัยได้หลายคน มีความเป็นส่วนตัว ทำกิจกรรมได้หลากหลาย ลองคำนึงถึงความต้องการของตัวคุณ รวมทั้งสมาชิกที่จะอยู่ร่วมกับคุณ ดูจะได้คำตอบที่ดีที่สุดว่าควรเลือกซื้อบ้านหรือคอนโดดีกว่ากัน ..แล้วพบกันใหม่ บทความหน้าขอให้สนุกกับการเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์นะคะ บ๊าย บายยยย..

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*