จากการสำรวจข้อมูลอาคารชุดเปิดตัวและจดทะเบียนใหม่ครึ่งปีแรก2560ของสำนักวิจัย บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน)หรือLPN  พบว่ามีการเปิดตัวอาคารชุดรวม 60 โครงการ จำนวน 34,580 หน่วย สูงกว่าช่วงเดียวกันของปี2559 ที่มีการเปิดตัว 51 โครงการ จำนวน 28,444 หน่วย โดยภาพรวมจำนวนหน่วยการเปิดตัวโครงการใหม่ สูงขึ้น 22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมูลค่าโครงการพัฒนาอาคารชุดในครึ่งปีแรกปี2560 สูงขึ้น 51% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจาก มีการพัฒนาโครงการที่มีระดับราคาสูงกว่า 3 ล้านบาท เพิ่มมากขึ้น  และมีผู้ประกอบการหลายรายที่เคยเน้นกลุ่มตลาดกลาง-ล่าง เปลี่ยนไปเจาะกลุ่มระดับกลาง-บน

PS-ANANแชมป์เปิดโครงการมากสุด

สำหรับโครงการใหม่ที่เปิดตัวในครึ่งปีแรก2560 แบ่งเป็นโครงการจากบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯสัดส่วน 73% และจากบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ฯสัดส่วน 27% โดยส่วนแบ่งการตลาด 5 บริษัทลำดับแรกที่เปิดตัวโครงการคือ1. บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน)หรือPS สัดส่วน 14% 2.บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด(มหาชน)หรือ ANAN สัดส่วน 14%  3.บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน)หรือ หรือ ORI สัดส่วน 12% 4. บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน)หรือLPN สัดส่วน 11% และ 5. บริษัท เอเวอร์แลนด์ จํากัด (มหาชน)หรือ EVER สัดส่วน 8%

หากแยกเป็นรายไตรมาสพบว่าในไตรมาส1 /2560 ที่ผ่านมาภาพรวมการเปิดตัวยังคงทรงตัวเนื่องจาก

ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงเปิดตัวโครงการที่เลื่อนจากปี 2559 ในขณะที่ผู้ประกอบการรายใหญ่เริ่มเปิดตัวโครงการใหม่ทั้ง LPN,PS,บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด,บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(มหาชน)หรือ SENA และบริษัท ศุภาลัย จำกัด(มหาชน)หรือSPALIโดยทำเลที่มีการเปิดตัวสูงสุด คือทำเลรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อนนุช-บางนา-แบริ่ง

 

ส่วนไตรมาส2/2560 ภาพรวมการเปิดตัวสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เน้นการทำกิจกรรมการตลาดเชิงรุก เพื่อส่งเสริมการขายโดยการออกแคมเปญต่างๆโดยในเดือนมิถุนายน  บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด(มหาชน)หรือ ANANเปิดตัวใหม่ 5 โครงการ และบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน)หรือ หรือ ORI เปิดตัวใหม่ 4 โครงการ

คาดไตรมาส3 อาคารชุดมากกว่า 1.7 หมื่นหน่วย

สำหรับไตรมาส3/2560  คาดการณ์ว่าอาคารชุดเปิดตัวในไตรมาสที่3จะมีการเปิดตัวใหม่สูงขึ้นจากไตรมาสที่2

โดยคาดว่าจะมีจำนวนมากกว่า 17,000 หน่วย เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะเลื่อนแผนการเปิดตัวโครงการจากไตรมาสที่4 ซึ่งเป็นช่วงงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

 

โดยจะมีการเปิดตัวอาคารชุดระดับราคาตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไปเพิ่มมากขึ้นสูงสุดที่ 20,228 หน่วย (59%) ,โครงการระดับราคา 5 ล้านบาทขึ้นไปมียอดขายสูงสุดที่ 60%รองลงมาคือโครงการระดับราคา 1.5-2 ล้านบาท  ที่ 53% ส่วนโครงการระดับราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท แทบจะไม่มีการเปิดตัวในตลาดปีนี้เลยและมียอดขายโครงการน้อยสุดที่ 30% ลดลง 19%จากปีก่อนเนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ชานเมือง

 

ทั้งนี้ทำเลพระราม 9 -รัชดาภิเษกมีราคาเฉลี่ยสูงสุดที่ 148,696 บาท/ตารางเมตร  ขณะที่ทำเลถนนลาดพร้าวช่วงต้น-รัชโยธิน-เกษตร-นวมินทร์มีจำนวนหน่วยเปิดตัวใกล้เคียงทำเลอ่อนนุช บางนา แบริ่ง ทั้งยังมีราคาต่อตารางเมตรสูงกว่าถึง 35% แต่สามารถปิดการขายได้ดีกว่า ส่วนทำเลรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีม่วง(ช่วงบางซื่อ-พระนั่งเกล้า) มีจำนวนโครงการเปิดตัวใหม่อย่างต่อเนื่อง 4,216 หน่วย ในขณะที่มียอดขายต่ำสุดที่ 1,032 หน่วย (24%) เนื่องจากมีจำนวนซัพพลายเหลือขายสูงมากในทำเล จึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการระบายสินค้าคงเหลือ

เดือนม.ค.ยอดขายสูงสุด67% – ทำเลรถไฟฟ้าสายสีเขียวฮอตสุด

โดยในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน 2560 พบว่าจะมีการเปิดตัวโครงการมากสุดในช่วงเดือนที่ 3 ของแต่ละไตรมาส แต่เดือนมิถุนายน จะมีการเปิดตัวอาคารชุดมากที่สุดถึง 9,158 หน่วย แต่สามารถทำยอดขายรวมได้ 40% ในขณะที่เดือนมกราคม มีการเปิดตัวโครงการที่น้อยกว่า คือ 3,058 หน่วย แต่กลับสามารถทำยอดขายได้สูงสุดคือ 67% ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะดีมานด์ได้อั้นกำลังซื้อมาตั้งแต่ช่วงไตรมาส4/2559 และเมื่อผ่านช่วงสภาวะโศกเศร้าจึงกลับเข้าสู่สภาวะปกติหันมาซื้อโครงการใหม่เมื่อตอนต้นปีที่ผ่านมาคาดการณ์ว่าทั้งปี 2560 จะมีโครงการใหม่เปิดตัวจำนวน 55,000-60,000 หน่วย

ทั้งนี้ 3 ทำเลที่มีอาคารชุดเปิดตัวใหม่สูงสุดในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาคือ 1.ทำเลรถไฟฟ้าสายสีเขียว(อ่อนนุช-บางนา-แบริ่ง) มีการเปิดตัว 6 โครงการ จำนวน 4,478 หน่วย มียอดขาย 51% มีจำนวนหน่วยเหลือขาย 2,177 หน่วย ราคาเฉลี่ยที่ 76,189 บาท/ตารางเมตร ส่วนใหญ่เป็นโครงการระดับราคา 1.5-2 ล้านบาท โดยยอดขายของระดับราคา 1-2 ล้านบาท สูงกว่าภาพรวมตลาดอยู่ที่ 25% ในขณะที่ราคา 2-5 ล้านบาทมียอดขายต่ำกว่าภาพรวมตลาด 20% โดยโครงการที่มียอดขาย ณ วันพรีเซล สูงสุด 100%คือโครงการ Lumpini Place Bangna km.3 ซึ่งสูงกว่ายอดขายเฉลี่ยของทำเล 49%เนื่องจากราคาขายที่ต่ำกว่าตลาดและอยู่ในทำเลที่เข้าถึงได้สะดวก ใกล้ห้างสรรพสินค้า และสิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการส่งผลให้มียอดขายสูงกว่าโครงการที่เปิดตัวในช่วงเดียวกัน

2.ทำเลถนนลาดพร้าวช่วงต้น-รัชโยธิน-เกษตรนวมินทร์ มีการเปิดตัว 10 โครงการ จำนวน 4,477 หน่วย มียอดขาย 63% มีหน่วยเหลือขาย 1,672 หน่วย ราคาเฉลี่ยที่ 102,569 บาท/ตารางเมตร ทำเลดังกล่าวมีจำนวนอาคารชุดเปิดตัวที่ 13% รองจากทำเลอ่อนนุช-บางนา-แบริ่งโดย โครงการส่วนใหญ่เป็นอาคารชุดรูปแบบ Low rise และโครงการระดับราคา 3-5 ล้านบาท โดยโครงการที่มียอดขายสูงสุดคือ The Selected Kaset-Ngamwongwan ของLPN ซึ่งปิดการขาย100%และมีหลายโครงการมียอดขายสูงกว่ายอดขายเฉลี่ยในทำเลเนื่องจากมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งห้างสรรพสินค้า ตลาดสำนักงาน รวมถึงยังใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวหมอชิต-คูคต และรถไฟฟ้าสายสีเหลือลาดพร้าว-สำโรง และ3.ทำเลรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-สะพานพระนั่งเกล้า มีการเปิด 3 โครงการ จำนวน 4,216 หน่วย มียอดขาย 24%

ยอดจดทะเบียนใหม่5เดือนกว่า3พันหน่วย

สำหรับอาคารชุดจดทะเบียนตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤษภาคม 2560 มีทั้งงสิ้น40 โครงการ จำนวน 3,107 หน่วย แบ่งเป็นโครงการของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ สัดส่วน 73% และบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ 27% มียอดขายเฉลี่ย 64%  โดยเดือนพฤษภาคม มีอาคารชุดจดทะเบียนมากที่สุด จำนวน 5,350 หน่วย และทำยอดขายได้สูงสุด 67%  ซึ่งส่วนแบ่งตลาดอาคารชุด 5 ลำดับ คือ 1.บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน)หรือLPN สัดส่วน 15% 2.บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด(มหาชน)หรือPS สัดส่วน 15% 3.บริษัท ศุภาลัย จำกัด(มหาชน)หรือ SPALI สัดส่วน 12% 4. บริษัท ไอริส กรุ๊ป จำกัด สัดส่วน 7% และ5.บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด สัดส่วน 7% โดยทำเลที่มีอาคารชุดจดทะเบียนสูงสุดคือ ปิ่นเกล้า-จรัญสนิทวงศ์ สัดส่วน 15% มี 3 โครงการ จำนวน 1,933 หน่วย เหลือขาย 720 หน่วย มียอดขาย 63%