อนันดาฯ รุกธุรกิจใหม่ “เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์” ทุ่มเม็ดเงิน 6,000 ล้านบาทลงทุนเปิด  4 โครงการกว่า 1,400 ยูนิต บนทำเลศักยภาพย่าน CBD ของกรุงเทพฯ รวมมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท พร้อมดึง “แอสคอทท์”บริหาร มั่นใจดีมานด์ยังโตต่อเนื่อง เน้นจับกลุ่มชาวต่างชาติ นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยว หวังสร้างรายได้ 1,500 ล้านบาทต่อปี คิดเป็นสัดส่วน 4 % ของรายได้รวม

 

จากการที่ไทยยังเป็นศูนย์กลางทางการค้าของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีทรัพยากรทางธรรมชาติและศิลปวัฒนธรรมที่สวยงามเป็นที่ดึงดูดแก่นักท่องเที่ยวมากขึ้นในทุกปี  ทำให้ธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ (Serviced  Apartments) มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ล่าสุด บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ ANAN ได้ประกาศเปิดตัวธุรกิจใหม่ “เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์”  (Serviced Apartments) เพื่อสร้างรายได้ในระยะยาว พร้อมดึงแบรนด์ระดับโลก “ แอสคอทท์” (Ascott) เข้ามาบริหารเพื่อสร้างจุดแข็งในด้านมาตรฐานที่พักอาศัยและฐานของลูกค้า

นายชานนท์ เรืองกฤตยา

โดย “ชานนท์ เรืองกฤตยา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ อนันดาฯ กล่าวว่า ธุรกิจใหม่ “เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์”  (Serviced Apartments) ที่จะเพื่อสร้างรายได้ในระยะยาวโดยจะเปิดในปีนี้ 4 โครงการ กว่า 1,400 ยูนิต  มูลค่ากว่า 1จ,000 ล้านบาท คือ พระราม 9 ,สาทร,ทองหล่อ และที่สุขุมวิท ซ.8  โดยโครงการแรก ได้แก่ โครงการ ซัมเมอร์เซ็ท รามา 9 บางกอก (Somerset Rama 9 Bangkok) มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท จำนวน 445 ยูนิตขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 30-90 ตารางเมตร (ตร.ม.)กำหนดอัตราค่าเช่าอยู่ประมาณ 2,500-3,000 บาทต่อห้องต่อคืน  และอีก 3 โครงการอยู่ระหว่างดำเนินการ

 

โครงการ ซัมเมอร์เซ็ท รามา 9 บางกอก (Somerset Rama 9 Bangkok) แบรนด์เซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ที่ได้รับการยอมรับและมีชื่อเสียงระดับโลก อาคาร High-Rise 1 อาคาร สูง 35 ชั้น จำนวน 445 ห้องพัก พร้อมพื้นที่ร้านค้า พื้นที่จัดประชุม และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน บนย่านพระราม 9 ซึ่งเป็นย่านธุรกิจแห่งใหม่ (New CBD) รายล้อมไปด้วยแหล่งอาคารสำนักงาน ห้างสรรพินค้าและโรงพยาบาล  เป็นต้น

 

สำหรับอัตราการเช่าเฉลี่ยของเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ในทุกทำเลของกรุงเทพมหานครมากกว่า 74% และสามารถขยับขึ้นไปถึงประมาณ 90% ในบางทำเล โดยพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจและพื้นที่ตามแนวถนนสุขุมวิท เป็นทำเลยอดนิยมที่สุดสำหรับชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพมหานคร อัตราการเช่าเฉลี่ยจึงอยู่ที่ประมาณ 80% เนื่องจากความสะดวกในการเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายรวมไปถึงการเข้าถึงที่สะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้า BTS

 

ทั้งนี้ ธุรกิจใหม่“เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์”  จะเริ่มมีรายได้เข้าสู่บริษัทฯตั้งแต่ปี 2563 จากโครงการซัมเมอร์เซ็ท รามา 9 บางกอก และรับรู้รายได้ทั้งหมด 4 โครงการในปี 2564 เป็นต้นไป ประมาณปีละ 1,500 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 4 % ของรายได้รวม

 

ทั้ง 4 โครงการที่ลงทุนนั้นเป็นที่ดินเช่า 30 ปี โดย “เสริมศักดิ์ ขวัญพ่วง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการลงทุนของ อนันดาฯ ขยายความว่า ต่ละโครงการที่เปิดตั้งอยู่บนเนื้อที่ 3-4 ไร่ บริษัทฯจ่ายค่าเช่าที่ดินต่อแปลงอยู่ที่ 300-400 ล้านบาท ต่อ 30 ปี โดยทั้ง 4 โครงการใช้เม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 6,000 ล้านบาท  ใช้เวลา 7- 10 ปีถึงจุดคุ้มทุน

นายเควิน โกห์

ด้าน “เควิน โกห์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิ แอสคอทท์ จำกัด กล่าวว่า  เป้าหมายที่แอสคอทท์ตั้งไว้ทั้งหมด 14 แห่งในประเทศไทยภายในปี2566  และมีเครือข่ายทั่วโลกมีลูกค้าองค์กรต่างๆเกือบ 100,000 ราย จะช่วยสร้างโอกาสทางการตลาดให้ขยายเพิ่มมากขึ้นไปทั่วโลก “เราเชื่อมั่นว่าทั้ง 4 โครงการที่บริหารมห้กับอนันดาจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นพันธมิตรที่มีประสิทธิภาพได้อย่างแน่นอน”  ซึ่งการร่วมมือของอนันดากับแอสคอทท์ ในครั้งนี้จะช่วยสร้างความมั่นใจให้ประเทศไทยซึ่งเป็นตลาดสำคัญสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคอื่นๆทั่วโลก  มีความมั่นใจว่าจะมียอดขายได้มากกว่า 80,000 ยูนิตในปีนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มขึ้นถึง 160,000 ยูนิตภายในปี 2566

 

แผนงานในประเทศไทยจะมีการดำเนินงานมากกว่า 1,600 หน่วย ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า หรือมากกว่า 4,300 ยูนิตภายในปี 2567  ทั้งนี้รวมถึงโครงการทั้ง 4 แห่งกับอนันดาอีกด้วย

 

เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ใหม่ทั้ง 4 โครงการของอนันดาฯครั้งนี้ ได้ช่วยเพิ่มผลงานของแอสคอทท์ในประเทศไทยให้มีมากขึ้นรวมเป็น 21 แห่ง หรือกว่า 4,300 ยูนิตทั่วกรุงเทพฯ พัทยาและศรีราชา

 

ปัจจุบันแอสคอทท์มีโครงการที่พักอาศัยให้บริการอยู่มากกว่า 43,000 แห่งในเมืองสำคัญต่างๆในอเมริกา เอเชียแปซิฟิก ยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา และมีมากกว่า 29,000 ยูนิตซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนา ทำให้มีจำนวนโครงการทั้งหมดรวมกว่า 74,000 ยูนิตในกว่า 500 แห่ง  ซึ่งแบรนด์ของบริษัท ทั้ง 6 แบรนด์ ได้แก่ Ascott, Citadines, Somerset, Quest, The Crest Collection และ Lyth  ในปัจจุบันผลงานของแอสคอทท์ครอบคลุมกว่า 130 เมือง ในกว่า 30 ประเทศทั่วโลก