แมกโนเลียฯเผยภาพรวมตลาดอสังหาฯครึ่งปีหลัง61 ยังทรงตัว เชื่อรายใหญ่และภาครัฐยังผุดโครงการยักษ์ต่อเนื่อง ส่งผลงานล้นมือ หวั่นเกิดปัญหาขาดแคลนแรงงานในปี62 รับปีนี้เปิดตัวไม่ได้ตามเป้า เหตุแต่ละโครงการมีมูลค่าสูง ส่วนที่เหลือเลื่อนเปิดขายปีหน้า ล่าสุดผนึก 4 พันธมิตร นำขยะพลาสติกแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม

 

นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเมนต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัดหรือMQDCปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯในครึ่งปีหลัง2561ว่ายังคงทรงตัว ผู้ประกอบการไม่กล้าเปิดตัวโครงการใหม่มากนัก บางรายรอให้มีความชัดเจนในการเลือกตั้งครั้งใหม่ก่อน ส่วนตลาดลักชัวรี่ ยังได้รับการตอบรับดี เพราะมีดีมานด์ แต่คาดว่าในครึ่งปีหลัง2561 ถึงปี 2562 ยังมีโครงการขนาดใหญ่จากผู้ประกอบการรายใหญ่ และโครงการจากภาครัฐเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ผู้รับเหมาก่อสร้างก็จะมีงานเข้ามาในมือมาก แต่อาจจะมีปัญหาในเรื่องการขาดแคลนแรงงานตามมาได้ ซึ่งต้องระมัดระวัง

 

สำหรับแผนการเปิดตัวโครงการในปี2561 ของบริษัทนั้นอาจจะไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ว่าจะเปิดตัวทั้งหมด 10 โครงการ รวมมูลค่าโครงการประมาณ 100,000 ล้านบาท ซึ่งมีที่ดินรองรับหมดแล้วทุกแปลง  สาเหตุที่บริษัทฯไม่สามารถเปิดตัวโครงการได้ตามแผน เพราะหลายโครงการที่เปิดตัวในปีนี้ ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่  และมีมูลค่าที่มาก โดยในครึ่งปีแรกเปิดตัวโครงการ “เดอะ ฟอเรสเทียส์” ย่านบางนา-ตราด กม.5 บนพื้นที่กว่า 300 ไร่ ซึ่งประกอบไปด้วย 9 โครงการในพื้นที่เดียวกัน มีมูลค่าโครงการไม่ต่ำกว่า 90,000 ล้านบาท และในครึ่งปีหลังจะเปิดตัวอีกประมาณ 5 โครงการ ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นคาดว่าจะเป็นโครงการที่พัทยา ซึ่งร่วมทุนกับจีน บนเนื้อที่ 40 ไร่ มูลค่าโครงการ 15,000-20,000 ล้านบาท และที่หัวลำโพง  ดังนั้นโครงการที่ไม่สามารถเปิดตัวในปีนี้ได้ก็จะเลื่อนไปเปิดตัวในปี 2562 แทน

 

สำหรับแผนงานในเรื่องการเสริมสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีนั้น ทาง MQDCให้ความสำคัญมาโดยตลอด เนื่องจากจะมีส่วนเชื่อมโยงชีวิตและไลฟ์สไตล์ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ซึ่งท่ามกลางความเจริญด้านวัตถุ ได้ส่งสัญญาณถึงปัญหาและส่งผลกระทบต่อโลก ทั้งนี้ บริษัทมีความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์และพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน โดยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ในการร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ล่าสุดบริษัทจึงได้ร่วมมือกับ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือGC ,มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร. ธัญบุรี) และศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนหรือศูนย์ RISC (Research & Innovation for Sustainability Center – RISC)ในการพัฒนาวัสดุก่อสร้างจากพลาสติกใช้แล้วเพื่อนำมาใช้ภายในโครงการของบริษัท นอกจากนี้บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะหาวิธีการใหม่ๆ ที่สามารถใช้วัดสุแปรรูปจากพลาสติกใช้แล้ว รวมไปถึงเศษวัสดุต่างๆจากทะเลนำกลับมาใช้ใหม่และสร้างเป็นผลงานอีกครั้ง

 

โดยนวัตกรรมที่จะนำมาพัฒนา เป็นวัสดุก่อสร้างจากพลาสติกใช้แล้ว คือ นวัตกรรม Upcycled ซึ่งจะเป็นวิธีการแก้ปัญหาพลาสติกเหลือทิ้ง โดยการนำขยะมาแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มโดยทำให้เป็นวัสดุใหม่ๆ โดยที่ไม่สร้างขยะกลับคืนสู่วงจรขยะพลาสติกอีกครั้ง ทั้งนี้กลยุทธ์การจัดการขยะพลาสติกที่สอดคล้องกับปรัชญาของบริษัทด้วยการพัฒนานวัตกรรมอย่างยั่งยืนเพื่อคุณภาพความเป็นอยู่ที่ดี อย่างไรก็ตามจากการร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นการช่วยปลุกกระแสให้มีการนำวัสดุใหม่นี้มาใช้ในรูปแบบต่างๆอย่างแพร่หลาย

 

 

“แนวทางของเรา จะนำมาใช้กับฟุตบาธและแลนด์สเคปภายนอกโครงการ โดยจะเริ่มใช้ขยะพลาสติกประมาณ 55 ตัน/ฟุตบาธในระยะทาง 5 กิโลเมตร นำร่องในโครงการ“เดอะ ฟอเรสเทียส์”ก่อนเป็นลำดับแรก แต่จะใช้ทั้งหมดจำนวนเท่าใดยังไม่สามารถเปิดเผยได้   โดยต้องการทำเป็นตัวอย่างให้ลูกค้าได้รับรู้และเกิดความมั่นใจก่อน ซึ่งขยะพลาสติกใช้ในครั้งนี้ เมื่อนำมาแปรรูปใหม่จะมีราคาที่สูงกว่าวัสดุก่อสร้างทั่วไปบวกลบประมาณ 10%  และในยังมีแผนจะนำไปใช้กับโครงการใหม่ๆที่จะพัฒนาในอนาคตด้วย โดยอาจจะไปใช้กับระบบฝ้าเพดานได้หรือไม่ คงต้องมาดูผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัย เช่น การระเหยที่จะเกิดขึ้น เป็นต้น”นายวิสิษฐ์ กล่าวในที่สุด