แสนสิริผนึก 7 พันธมิตรเปิดฟีเจอร์ “SANSIRI MOVE-IN EXPERIENCE” บนแอปพลิเคชั่น  Home Service เพิ่มทางเลือกไลฟ์สไตล์ลูกค้าและสิทธิพิเศษ  เผยระยะแรกครอบคลุมพื้นที่กทม.-ปริมณฑล คาดปลายปีลูกค้าใช้บริการเพิ่มแตะ 25,000 รายและพันธมิตรร่วมอีก 10 ราย

 

 

 

นายอุทัย อุทัยแสงสุขประธานผู้บริ หารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่าปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคในการอยู่อาศัยมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก มีความต้องการบริการหลังการขายมากขึ้น  ซึ่งเป็นสิ่งที่แสนสิริให้ความสำคัญมาโดยตลอด และจากการสำรวจพบว่าประเด็นหลักที่ลูกค้าคำนึกถึงและต้องการหาผู้ช่วยเป็นอันดับต้นๆหลังการซื้อที่อยู่อาศัย แบ่งเป็นได้ 4 กลุ่มหลัก คือ 1.การจัดแพ็คของและขนย้าย (moving) 2.การทำความสะอาด (cleaning) 3.คำแนะนำ  บริการการต่อเติมตกแต่ง (design)และ4. ความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตของสมาชิกในครอบครัวรวมถึงสมาชิกสี่ขา(easy living) ล่าสุดบริษัทฯจึงได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชั่น Home Serviceเวอร์ชั่น 2018 ด้วยบริการและฟังก์ชั่นสั่งการด้วยเสียงที่อำวยความสะดวกให้ลูกค้าในทุกมิติ และร่วมมือกับ 7 พันธมิตร เปิดฟีเจอร์ “SANSIRI MOVE-IN EXPERIENCE” บนแอปพลิเคชั่น  Home Service ได้แก่

 

1.SB FURNITUREทำให้การดีไซน์ จัดวางเฟอร์นิเจอร์มิกซ์ แอนด์ แมทช์ ทั้งของเก่าที่ย้ายมาและของใหม่ที่เพิ่มเติมได้อย่างลงตัวเหมาะสมกับแต่ละโครงการในสไตล์ต่างๆ ในงบประมาณที่ไม่บานปลาย

2.SCG วัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้านพร้อมตัวเลือกบริการติดตั้งถึงที่บ้าน

3.ESYBUILD บริการต่อเติม ซ่อมแซมบ้าน และคอนโดมิเนียม

4.PACK & MOVE  บริการย้ายบ้าน คอนโดฯและครบวงจร

5.DO4YOUบริการทำความสะอาดครั้งใหญ่ ทั้งก่อนและหลังการย้ายเข้าบ้าน

6.VIL LA MARKET บริการสั่งซื้ ออาหารและของใช้ภายในบ้านจากผ่านเว็บไซต์ และแคตตาล็อกพิเศษเฉพาะลูกบ้านแสนสิริ เพื่อพรีบุ๊คกิ้งสินค้าประจำเดือนนั้นๆ

7.โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ บริการสมาชิกสี่ขา ตั้งแต่อาบน้ำ ตัดตกแต่งขนสุนัข ฉีดวัคซีนถึงบ้าน ไปจนถึงการจองบริการว่ายน้ำ

 

ซึ่งบริการดังกล่าวลูกค้าของแสนสิริทุกเซกเมนต์ ทุกโครงการสามารถดำเนินการผ่าน 2 ช่องทางเลือก คือ แอปพลิเคชั่นและเว็บไซต์ของแสนสิริฯ โดยได้รับสิทธิพิเศษจากพันธมิตรที่ให้บริการ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกลุ่มสินค้า ซึ่งการบริการนี้ในระยะแรกจะครอบคลุมพื้นที่กทม.-ปริมณฑลก่อน ส่วนต่างจังหวัดหัวเมืองใหญ่ เช่น ภูเก็ต คาดว่าจะเริ่มต้นได้ในปี 2562

 

“เราคาดว่าจะได้ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มมิลเลนเนียล รวมไปถึงลูกค้าเก่าที่ต้องการซื้อสินค้าของแสนสิริเป็นสินทรัพย์เพิ่มขึ้นอีก ปัจจุบันมีลูกค้าทั้งสิ้น 85,000 ครอบครัวครอบคลุมทุกเซกเมนต์ และมีลูกค้าที่ใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่นเกือบ 20,000 ราย คาดว่าจนถึงสิ้นปี 2561 นี้จะมีลูกค้าใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 25,000 ราย ซึ่งที่ผ่านมาลูกค้าให้การตอบรับดีเป็นอย่างมาก”นายอุทัย กล่าว

 

ส่วนพันธมิตรที่เข้าร่วมบริการผ่านแอปพลิเคชั่นในปัจจุบันมีผู้ให้ความสนใจเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพันธมิตรที่จะเข้าร่วมบริการจะต้องมีการพัฒนาแอปพลิเคชั่นของตนเองให้สามารถรองรับเทคโนโลยีของแสนสิริได้ด้วย คาดว่าจนถึงปลายปีนี้จะมีพันธมิตรเพิ่มขึ้นมาอีกประมาณ 10 ราย ครอบคลุมทั้ง 4 กลุ่ม

 

และในเร็วนี้ๆบริษัทฯจะมีการเพิ่มบริการเกี่ยวกับด้านสุขภาพบนแอปพลิเคชั่น โดยร่วมมือกับโรงพยาบาลสมิติเวช ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ เพื่อเข้ามาเสริมเกี่ยวกับการบริการดูแลสุขภาพ การบริการนัดตรวจกับแพทย์ การบริการเรียกรถพยาบาล เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้ร่วมมือกับโรงพยาบาลสมิติเวชในการร่วมกันพัฒนาสนามเด็กในโครงการของบริษัทฯ