ออริจิ้นฯเผยไม่กังวลแม้อัตราดอกเบี้ยมีทิศทางปรับตัวขึ้น หนุนรัฐประกาศใช้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฯป้องนายทุนครองครองที่ดินมากเกิน ปลื้ม 6 เดือนยอดขายพุ่ง 12,000 ล้าน เกินเป้ากว่า50% เตรียมเปิดตัวอีก  6 โครงการใหม่ มูลค่ากว่า 44,000 ล้านบาท พร้อมชูจุดต่างปั้นแบรนด์ “พาร์ค ออริจิ้น” ผุดคอนโดกลางเมืองที่สร้างสมดุลการอยู่อาศัย ผสานธรรมชาติ เทคโนโลยี และสังคมคุณภาพในอาณาจักรมิกซ์ยูส ภายใต้แนวคิด A Perfect Living Platform ตอบโจทย์ผู้บริโภค ผุดโฆษณาฉีกกฎตลาด เตรียมจับมือพันธมิตรปลูกต้นไม้ปีละราว 10,000 ต้น ตามจำนวนยูนิตเปิดใหม่ นำร่องมอบต้นทองอุไรให้ กทม.กว่า 2,200 ต้น เพิ่มพื้นที่สีเขียวทั่วกรุงเทพฯ

 

 

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด(มหาชน)หรือORI เปิดเผยว่า จากการที่ทิศทางดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขาขึ้น บริษัทฯ ไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างใด เนื่องจากธนาคารต่างๆ ยังมีการแข่งขันอยู่ในระดับสูง และมีการจัดทำโปรโมชั่นให้กับลูกค้า แต่ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อลูกค้าที่ซื้อไปแล้วบ้าง ขณะที่พ.ร.บ.ภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างฯมองว่าจะสามารถลดความเหลื่อมล้ำได้ เพื่อไม่ให้นายทุนเข้าไปครอบครองพื้นที่มากจนเกินไป ซึ่งอยากให้มีผลบังคับใช้เร็ว ๆนี้

 

อย่างไรก็ตามในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯสามารถทำยอดขาย 12,000 ล้านบาท เกินกว่า 50% ของเป้าหมายยอดขายรวม โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มจำนวน 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 44,000 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการมิกซ์ยูส (Mixed-use) จำนวน 3 โครงการ บนทำเลใจกลางเมือง โดยจะเป็นโครงการใหม่ภายใต้แบรนด์”พาร์ค ออริจิ้น”ได้แก่ พาร์ค ออริจิ้น พญาไท คาดว่าจะเปิดขายในช่วงเดือนกันยายน 2561,โครงการพาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ และพาร์ค ออริจิ้น พร้อมพงศ์ คาดว่าจะเปิดขายในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งบริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายในช่วงแรกไว้ประมาณ 60-70% รวมถึงจะเปิดตัวโครงการบ้านจัดสรรอีก 3 โครงการ มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท

 

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคาดว่าภายหลังจากที่ นำโครงการมิกซ์ยูสจำนวน 3 โครงการ ไปโรดโชว์ในต่างประเทศ ได้แก่ ฮ่องกง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น และจีน เป็นต้น ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ซึ่งคาดว่าจะทำให้สัดส่วนยอดขายลูกค้าชาวต่างชาติในปีนี้ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 25-30% จากปีก่อนอยู่ที่ 20% 

 

นายพีระพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่าจากการที่บริษัทเล็งเห็นถึงปัญหาหลักอย่างหนึ่งของการพัฒนาเมือง คือผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ในฐานะที่บริษัทเป็นผู้ที่มีส่วนร่วมในการพัฒนาเมือง จึงต้องการที่จะตอบแทนสังคม ตลอดจนผู้บริโภค ด้วยการพัฒนาที่อยู่อาศัย โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภค ขณะเดียวกันก็รักษาพื้นที่สีเขียวไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

 

“วันนี้เราเติบโตขึ้นมาจนกลายเป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บริษัทหนึ่งของตลาด และเรามีความสามารถเพียงพอที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลรับผิดชอบสังคมอย่างดีที่สุด ในโอกาสการเพิ่มเซกเมนต์โครงการของออริจิ้น เข้าสู่ตลาดระดับลักชัวรี่อย่างเต็มรูปแบบ เราได้พัฒนาแบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น ให้เป็นแบรนด์คอนโดฯ หรูใจกลางเมือง ที่คำนึงถึงการสร้างความสมดุลระหว่างธรรมชาติกับองค์ประกอบอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต ภายใต้แนวคิด A Perfect Living Platform” นายพีระพงศ์ กล่าว

 

โดยบริษัทศมีความมุ่งมั่นในการก้าวข้ามการพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบเดิมๆ แนวคิด A Perfect Living Platform ของแบรนด์พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin) จึงเป็นการสร้างรูปแบบการอยู่อาศัย ที่เข้าใจและตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองอย่างสมบูรณ์แบบ ผ่านการผสาน 3 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ 1.เทคโนโลยี โดยการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาพัฒนาเพื่อยกระดับการใช้ชีวิต และเชื่อมต่อกับระบบการสื่อสารไร้สายบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เรียกว่า Internet of Things หรือ IOT 2.ชุมชน  ที่ตอบโจทย์ทุกมิติในการใช้ชีวิตบนพื้นที่ที่เป็น “มากกว่าที่อยู่อาศัย” โดยมอบสิทธิประโยชน์และบริการอย่างครบวงจร เพื่อรองรับรูปแบบการใช้ชีวิตบนทำเลใจกลางเมือง และ 3. ธรรมชาติ โดยการออกแบบที่ผสานสถาปัตยกรรมที่ทันสมัย กับธรรมชาติอย่างลงตัว สร้างแหล่งออกซิเจนแห่งใหม่สำหรับคนเมือง เช่น อาคารรูปแบบใหม่ แนวคิด “Vertical Garden” ที่แตกต่างด้วยการสร้างสรรค์พื้นที่สีเขียวในการเล่นระดับเเป็นขั้นบันไดถึง 1,500 ขั้น ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญในการใช้ชีวิตกับธรรมชาติมากขึ้น

 

นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า เพื่อยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการสร้างที่อยู่อาศัยให้เกิดคุณค่าสูงสุด บริษัทจึงร่วมกับนายธนญชัย ศรศรีวิชัย หรือ ต่อ ผู้กำกับโฆษณาระดับท็อปของวงการ จากบริษัท ฟีโนมีนา จำกัด สร้างสรรค์ภาพยนตร์โฆษณาสะท้อนภาพของแบรนด์พาร์ค ออริจิ้น ในการพัฒนาคอนโดมิเนียมให้เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย สร้างสมดุลการใช้ชีวิตของคนเมืองอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการรักษาธรรมชาติ เพื่อเติมเต็มชีวิตให้สมบูรณ์แบบกับทำเลใจกลางเมือง และสามารถตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างมีคุณภาพ 

 

ขณะเดียวกัน บริษัทจะร่วมมือกับพันธมิตรในการสร้างพื้นที่สีเขียวให้กับกรุงเทพฯและท้องถิ่นต่างๆ ด้วยการปลูกต้นไม้เพิ่มอย่างน้อย 1 ต้นต่อที่อยู่อาศัย 1 ยูนิตที่เปิดขายใหม่ หรือคิดเป็นปีละราว 10,000 ต้น เพื่อช่วยเพิ่มออกซิเจน ทดแทนธรรมชาติที่ลดลงจากการพัฒนาเมือง กระตุ้นภาคธุรกิจในการสร้างสรรค์สิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับสังคม

 

เบื้องต้น จะมอบต้นทองอุไรให้แก่กรุงเทพมหานคร (กทม.) จำนวน 2,200 ต้น ตามจำนวนยูนิตเปิดใหม่ของโครงการคอนโดมิเนียมหรูแบรนด์พาร์ค ออริจิ้น 3 ทำเล รวม 2,200 ยูนิต เพื่อให้ กทม.นำไปปลูกในพื้นที่ 50 เขตทั่วกรุงเทพฯ  โดยโครงการภายใต้แบรนด์”พาร์ค ออริจิ้น” จะพัฒนาขึ้นใน 3 ทำเลใจกลางเมือง ได้แก่ 1.พาร์ค ออริจิ้น พญาไท 2.พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ และ 3.พาร์ค ออริจิ้น พร้อมพงศ์ โดยทั้ง 3 โครงการ จะเปิดให้ Register ได้ภายในงาน My Life My Origin งานอีเวนท์ใหญ่ประจำปีของออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ในวันที่ 8-9 กันยายน นี้ ณ ศูนย์การค้าสยาม พารากอน

 

อย่างก็ตามในครึ่งปีหลังนี้บริษัทฯได้เตรียมปรับเพิ่มเป้ายอดขาย และรายได้ จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตที่ 20,000 ล้านบาท และ 15,000 ล้านบาท ตามลำดับ แต่เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวดีขึ้น เป็นไปตามกำลังซื้อที่มีมากขึ้น แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขได้ จากปัจจุบันบริษัทฯ มียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ารวม 30,000 ล้านบาท โดยรับรู้ในช่วงครึ่งปีแรกไปแล้ว 4,000 ล้านบาท และจะทยอยรับรู้ในช่วงครึ่งปีหลังนี้อีกประมาณ 9,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ไปจนถึงปี2564