ฮาบิแทท กรุ๊ป ไล่เก็บที่ดินรองรับแผนร่วมทุนต่างชาติ หวังเพิ่มสปีดการเติบโตทั้งยอดขาย และรายได้  ล่าสุดเปิดตัว “วาลเด้น สุขุมวิท 39” มูลค่า 950 ล้านบาท พร้อมโชว์ผลงานครึ่งปีแรกโกยยอดขายแล้ว 1,500 ล้านบาท มั่นใจสิ้นปีตามเป้า 3,000 ล้านบาท

 

นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างเจรจาร่วมทุนกับกลุ่มทุนต่างประเทศเพื่อร่วมพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ คาดว่าจะสรุป และเปิดเผยรายละเอียดต่างๆ ได้ในปี 2562 เพื่อรองรับแนวทางการดำเนินธุรกิจและการเติบโต บริษัทฯ จึงได้เริ่มซื้อที่ดินรองรับแผนการพัฒนา และการลงทุนร่วมกับกลุ่มทุนต่างชาติ ไว้แล้วทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด เพื่อความคล่องตัวการร่วมทุนจะเป็นรายโครงการ แต่ละโครงการจะเป็นขนาดกลางๆจำนวน 100-200 ยูนิตมูลค่าต่อโครงการอยู่ที่ 1,000-2,000 ล้านบาท

การร่วมทุนกับต่างชาติครั้งนี้ นอกจากจะเป็นเทรนด์ของธุรกิจแล้วยังจะช่วยเป็นตัวเร่งให้บริษัทฯ เติบโตได้เร็วยิ่งขึ้นจากบริษัทขนาดกลางสู่บริษัทที่มีขนาดใหญ่ขึ้นทั้งมูลค่าโครงการที่เปิดตัว ยอดขาย และยอดรายได้ จากการโอน “การร่วมทุนกับต่างชาติจะทำให้ Speed เราเร็วขึ้น คือ 1 บวก 1 ต้องเป็น 3 เป็น 4 ถึงจะ WIN-WIN” นายชนินทร์  พร้อมกับกล่าวว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องเป็นกว่า 100% ทุกปี โดยมียอดขายปี 2559 อยู่ที่ 600  ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 1,300 ล้านบาทในปี 2560 และจะเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ล้านบาทในปี 2561 คาดว่าจะได้ตามเป้าหมาย โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 มียอดขายอยู่ที่ 1,500 ล้านบาท ขณะที่ยอดรายได้ในปี 2559 อยู่ที่ 100-200 ล้านบาท, ในปี 2560 มีรายได้อยู่ที่ 200 ล้านบาท ส่วนปี 2561  ตั้งเป้ายรายได้อยู่ที่ 400-500 ล้านบาท และจะเพิ่มเป็น 1,000 ล้านบาทในปี 2562 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากโครงการที่พัฒนาและขายจะเริ่มสร้างเสร็จ และส่งมอบให้กับลูกค้าส่วนการลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาฯ นั้น ล่าสุดปีนี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 4,000 ล้านบาท ทำให้ในช่วง 3 ปีบริษัทฯ มีมูลค่ารวมจากโครงการที่พัฒนาทั้งสิ้น 8,000-9,000 ล้านบาท

 

ล่าสุด เปิดตัวโครงการ “วาลเด้น สุขุมวิท 39” เป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักชัวร์รี่ บนพื้นที่เกือบ 1 ไร่ อยู่ในซอยสุขุมวิท 39 ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีพร้อมพงษ์ จำนวน 1 อาคาร สูง 8 ชั้น รวม 116 ยูนิต มูลค่า 950 ล้านบาท ราคาขายเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท ประกอบด้วย ห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 34.56 -45.77 ตารางเมตร (ตร.ม.) จำนวน 95 ยูนิต, แบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 53.25-59.44 ตร.ม.จำนวน 14 ยูนิต และแบบลอฟท์ การ์เด้นท์ 2 ห้องนอน 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 60.53 ตร.ม.จำนวน 7 ยูนิต คาดเริ่มก่อสร้างในช่วงไตรมาส 3 ปี 2562 กำหนดแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ไตรมาส 2 ปี 2564

 

ดยกลุ่มเป้าหมายเน้นกลุ่มผู้ซื้อเพื่อการลงทุน 70% และกลุ่มผู้ซื้ออาศัยเอง 30% ทั้งนี้หากมองในแง่ของการลงทุนในทำเลสุขุมวิทจะให้กำไรได้ดีจากการปล่อยเช่าอยู่ที่ 30,000-60,000 บาทต่อเดือน และให้ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 4-5 % ต่อปี

 

ปัจจุบันบริษัทฯ มีฐานลูกค้าที่เป็นนักลงทุนประมาณ 1,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีอายุ 35-45 ปีระดับรายได้อยู่ที่ 70,000-80,000 บาทต่อเดือน โดยกลุ่มลูกค้าเก่าเหล่านี้บริษัทฯ ได้จัดส่วนลดราคาพิเศษให้มากกว่าลูกค้าทั่วไปประมาณ 500,000 บาท หรือคิดเป็น 5-8% ของราคาขาย ทั้งนี้ โครงการ “วาลเด้น สุขุมวิท 39” ได้เตรียมจัด Exclusive Booking Day ระหว่างวันที่ 22-23 กันยายน 2561 ที่ Sales Gallery บริษัทฯ ตั้งเป้าภายในสิ้นปีนี้มียอดขายกว่า 80%

 

นายชนินทร์ ยังกล่าวถึงตลาดคอนโดมิเนียมในทำเลสุขุมวิท (อโศก พร้อมพงษ์ ทองหล่อ) และทำเลซีบีดีอื่นๆ ในกรุงเทพฯ พบว่าในแต่ละปีจะมีการเปิดขายใหม่ที่ประมาณ  60,000-70,000 ยูนิตต่อปี สำหรับในปี 2561 ทำเลทองหล่อ-เอกมัย มีการเปิดตัวใหม่ ไม่เกิน 10,000 ยูนิต คาดในปี 2562 จะมีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมระดับลักชัวร์รี่ใหม่ประมาณ 10,000 ยูนิต เนื่องจากซัพพลายที่ดินมีค่อนข้างจำกัด ส่งผลทำให้ราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้นและมีผลต่อราคาขายคอนโดมิเนียม มีการปรับตัวขึ้น 5-10% ต่อปี หรือประมาณ 250,000 บาทต่อตร.ม. ทั้งนี้พบว่า ระดับราคาขายที่ 200,000-250,000 บาทต่อตร.ม. มีอัตราการขายอยู่ที่กว่า 80% ขณะที่ระดับราคาขายที่มากกว่า 250,000 บาทต่อตร.ม. มีอัตราการขายอยู่ที่ประมาณ 60%

 

ส่วนผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าอยู่ที่ 1,000 บาทต่อตร.ม.ต่อเดือน นอกจากนี้ยังพบว่ามีชาวต่างชาติอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น ซึ่งในปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 100,000 ครอบครัว หรือประมาณ 250,000 คน

โครงการ “วาลเด้น สุขุมวิท 39” ได้เตรียมจัด Exclusive Booking Day ระหว่างวันที่ 22-23 กันยายน 2561 ที่ Sales Gallery

แบบลอฟท์ การ์เด้นท์ 2 ห้องนอน 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 60.53 ตร.ม.