วี พร็อพเพอร์ตี้ฯมั่นใจมาตรการธปท.ส่งผลดีอสังหาฯระยะยาว แนวโน้มตลาดฯปี62เติบโตต่อเนื่องจากการลงทุนภาครัฐ เปิดแผน3-5 ปี ปักหมุดลงทุนเพื่อขาย-ปล่อยเช่าทำเลสุขุมวิท ปีหน้าเล็งผุด 2 คอนโดฯ 1 บ้านเดี่ยวลักชัวรี่ มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท ทั้งสนร่วมทุนพันธมิตรต่างชาติหวังดึงโนว์ฮาว-เม็ดเงินพัฒนา ล่าสุดเปิดตัว “เวอร์เทียร์” มูลค่า 1,800 ล้านบาท ประกาศเดินหน้าแต่งตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯตามแผน  คาดปี61 รับรู้รายได้ 2,300 ล้านบาท

 

นายพรชัย เลิศอนันต์โชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ย่าน CBD สุขุมวิท  เปิดเผยถึงมาตรการคุมเข้มสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ว่า อาจจะมีผลกระทบด้านจิตใจของผู้ซื้อบ้างเล็กน้อย แต่ถือว่าเป็นนโยบายที่ดี ทำให้ตลาดอสังหาฯโต ในระยะยาวเชื่อว่าไม่มีผลกระทบ ซึ่งในส่วนของบริษัทไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เพราะกำหนดให้ลูกค้าวางเงินดาวน์ตั้งแต่ 15-20% อยู่แล้ว ทำให้ไม่ส่งผลกระทบด้านการโอน และเชื่อว่าเศรษฐกิจในประเทศไทยหลังการเลือกตั้งน่าจะไปได้ดีอย่างแน่นอน

 

สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯปี2561 มองว่ายังเป็นปีที่ดี ภาครัฐยังคงเร่งสร้างระบบสาธารณูปโภคในกทม.-ปริมณฑล ให้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้ตลาดอสังหาฯเติบโตในระยะยาว ส่วนแนวโน้มปี 2562 มองว่าภาครัฐก็ยังผลักดันระบบสาธารณูปโภคให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งก็จะสร้างบรรยากาศการซื้อขายอสังหาฯให้เติบโตมากยิ่งขึ้น

 

ด้านแผนการดำเนินงานของบริษัทฯในระยะ3-5 ปีนี้ยังคงเน้นการลงทุนอสังหาฯทั้งเพื่อขายและปล่อยเช่าในพื้นที่สุขุมวิทชั้นในแต่ไม่เกินทำเลอ่อนนุช และอนาคตก็มองที่จะพัฒนาโครงการย่านใจกลางเมืองด้วย โดยแผนการดำเนินงานในปี 2562 จะเปิดตัวอย่างน้อย 3 โครงการ  มูลค่ารวมกว่า 3,000 ล้านบาท เป็นคอนโดฯ2โครงการ โดยเป็นคอนโดฯไฮไรส์ สูง 26 ชั้น ย่านทองหล่อ 1 โครงการ และย่านเอกมัย-พระโขนง 1โครงการ ส่วนอีก 1 โครงการจะเป็นบ้านเดี่ยวลักชัวรี่ สูง 4 ชั้น ย่านอ่อนนุช จำนวน 20 กว่ายูนิต ราคา 25-35 ล้านบาท มูลค่าโครงการกว่า 700 ล้านบาท ซึ่งโครงการแนวราบนั้นบริษัทฯมีแผนที่จะเปิดตัวในปลายไตรมาส4 แต่ถ้าหากไม่สามารถเปิดตัวได้ทันจึงจะเลื่อนมาเปิดตัวในปี2562 แทน  นอกจากนี้บริษัทฯอาจจะมีการพัฒนาโรงแรมระดับ 4 ดาว ย่านสุขุมวิท หรือพญาไท ขนาด 200 กว่าห้องพัก ราคาประมาณ 3,000-4,000 บาท/คืน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจากับเชนบริหารจากต่างประเทศ จึงยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

 

อย่างไรก็ตามบริษัทยังมีแผนที่จะร่วมทุนพัฒนาคอนโดฯร่วมกับนักลงทุนอสังหาฯจากญี่ปุ่น หรือสิงคโปร์ ด้วย ซึ่งขณะนี้ได้มีเข้ามาเจรจาผ่านโบรกเกอร์รายหนึ่งเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ยังไม่เคยเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และแนวโน้มว่าจะเป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่นมากกว่า ซึ่งหากมีการร่วมทุนสิ่งที่บริษัทต้องการจากพันธมิตรคือโนว์ฮาว และเม็ดเงินลงทุน คาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ภายในปี2562 นี้

สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทฯในปีนี้สามารถเปิดตัวได้เพียง 2-3โครงการ รวมมูลค่าประมาณ  2,500 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 3-4 โครงการ รวมมูลค่า 6,000-6,500 ล้านบาท ได้แค่โครงการไอคอน  ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 80% และโครงการ วีธารา สุขุมวิท 36 ซึ่งปิดการขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวโครงการ “เวอร์เทียร์” (Vertier)  ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่เศษ  เป็นคอนโดมิเนียมไฮไรส์ สูง  31 ชั้น 1 อาคาร ขนาดตั้งแต่ 28-86 ตารางเมตร จำนวน 227 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมกว่า 1,800 ล้านบาท โดยจะเปิดให้จองรอบVVIP Day เป็นครั้งแรกในวันที่ 3 – 4 พฤศจิกายน 2561 นี้ ปัจจุบันมียอดจองจากลูกค้าเก่าแล้ว 50% และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมียอดขายที่กว่า 60%

 

“สาเหตุที่เราไม่สามารถพัฒนาโครงการได้ตามแผน เนื่องจากไม่สามารถหาซื้อที่ดินได้ทันการพัฒนา ประกอบกับมองว่าแนวโน้มทิศทางอสังหาฯในปี2562 จะมีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้น จึงเลื่อนเปิดตัวบางโครงการในปีนี้ไปปีหน้า ซึ่งรวมไปถึงโครงการบ้านเดี่ยวย่านอ่อนนุชด้วย หากเปิดตัวในปลายปีนี้ทันก็จะดำเนินการ แต่หากไม่ทันก็จะเลื่อนไปเปิดตัวในปีหน้า” นายพรชัย กล่าว

นายพรชัย กล่าวเพิ่มเติม ถึงแผนการนำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์mai ว่า ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้คือปี 2562 แต่ก็มีความต้องการที่จะจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)ด้วยเช่นกัน เนื่องจากรายได้เข้าเกณฑ์ที่ทางตลาดหลักทรัพย์ฯกำหนด ซึ่งคงต้องปรึกษาทางด้านการเงินก่อน คือ บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด(มหาชน) ซึ่งการนำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯครั้งนี้ เพื่อต้องการระดมเงินจากการขายหุ้นประมาณ 2,000 ล้านบาท นำไปซื้อที่ดินและขยายโครงการได้มากขึ้น

 

อย่างไรก็ตามในปีนี้คาดว่าจะรับรู้รายได้อยู่ที่ประมาณ 2,300 ล้านบาท จากโครงการวีธารา สุขุมวิท 36 ส่วนในปี2562 คาดว่าจะรับรู้รายได้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท