อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เดินหน้าขยายสาขาเพิ่มในประเทศ พร้อมรุกขยายสาขาผ่านแฟรนไชส์อีก 2 แห่ง ที่ประเทศอินโดนีเซีย

 

นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด เปิดเผยว่าในปี 2562 บริษัทฯมีแผนขยายสาขาเพิ่มทั้งในปรเทศไทยและต่างประเทศ  โดยกาขยายสาขาในประเทศไทยนั้นจะมีทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด รวม 4  แห่ง ได้แก่ สาขาชัยพฤกษ์, สาขาจันทบุรี, สาขารามอินทรา และสาขาสุขาภิบาล 3 ขณะที่การขยายสาขาต่างประเทศเตรียมวางแผนเดินหน้าขยายสาขาผ่านแฟรนไชส์อีก 2 แห่ง ที่ประเทศอินโดนีเซีย ในเมืองจาการ์ตาร์ และ บาหลี ทั้งนี้ บริษัทฯ มองว่าศักยภาพของตลาดค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านในอินโดนีเซีย ยังมีอัตราการเติบโตในทิศทางที่ดี โดยปัจจัยสำคัญมาจากฐานประชากรขนาดใหญ่ และการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรายได้ของประชากรและพฤติกรรมผู้บริโภค 

นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัทอินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด

“เราพร้อมปรับตัวตามสถานการณ์ ไม่หยุดนิ่ง  โดยยึดของดีมีคุณภาพ ในราคาจับต้องได้” นางสาวกฤษชนก  กล่าว พร้อมกับกล่าวให้ความเห็นว่า ยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย (ปี 2558- 2565)  โดยเฉพาะโครงข่ายพัฒนารถไฟฟ้าสายสีต่างๆ รวมถึงการจัดให้มีการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นต้นปี 2562 นี้  เป็นสัญญาณทางการตลาดที่ดี ทั้งเป็นปัจจัยหนุนตลาดเฟอร์นิเจอร์ และตลาดอสังหาฯ ให้เติบโตยิ่งขึ้น

 

นอกจากจะเปิดสาขาใหม่แล้วยังมีแผนรีโนเวทสาขาอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน ประเดิมที่สาขาบางนา ในปี 2561และอีก 6 สาขา ต่อเนื่องในปี 2562 ได้แก่ สาขาราชพฤกษ์, สาขาเกษตร-นวมินทร์, สาขารังสิต, สาขาพัทยา, สาขาภูเก็ต และสาขาอุดรธานี  โดยใช้งบประมาณในการรีโนเวททั้งหมดกว่า กว่า 165 ล้านบาท ทั้งนี้ การปรับโฉมใหม่จึงได้เพิ่มการโฟกัสกลุ่มลูกค้าระดับสูงมากขึ้น

 

นางสาวกฤษชนก ยังกล่าวถึงภาพรวมตลาดเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านสิ้นปี 2561 ประมาณการอยู่ที่ 80,000 ล้านบาท เติบโตแบบทรงตัว  เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจเฟอร์นิเจอร์เองมีการแข่งขันที่ดุเดือด โดยพยายามงัดกลยุทธ์ด้านโปรโมชั่นตลอดจนกิจกรรมการตลาด เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อกันต่อเนื่องโดยปัจจุบันบริษัทฯมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 20%  ของตลาดรวมเฟอร์นิเจอร์ในประเทศ ขณะที่ยอดสมาชิกบัตร JOY CARD ของ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ มีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 1.1 ล้านราย  ในช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.61) ที่ผ่านมา มียอดขาย 7,258 ล้านบาท เป็นการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Same Store Sales Growth) อยู่ที่ 4.6% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้