ซีบีอาร์อีฯเผยแม้ตลาดอพาร์ตเมนต์ให้เช่าสำหรับต่างชาติในกรุงเทพฯ จะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากจากการที่เจ้าของคอนโดมิเนียมนำห้องชุดของตนมาปล่อยเช่า แต่ทำเลย่านใจกลางเมืองยังมีแนวโน้มที่ดี  ระบุต่างชาติที่ทำงานในกรุงเทพฯ สนใจเลือกเช่ามากกว่าซื้อที่พักอาศัย เหตุสามารถติดต่อทุกเรื่องได้โดยตรงจากผู้ดูแลอาคาร

 

 

นายธีราธร ประพันธ์พงศ์ หัวหน้าแผนกให้เช่าที่พักอาศัย บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงตลาดให้เช่าพักอาศัยสำหรับชาวต่างชาติว่า ยังมีการแข่งขันที่สูง เนื่องจากชาวต่างชาติที่ทำงานในกรุงเทพฯนั้น ไม่ได้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น  มีเพียงสัญชาติเดียวที่เพิ่มขึ้นก็คือชาวจีน แต่โดยทั่วไปชาวจีนส่วนใหญ่มีงบประมาณในการเช่าที่พักอาศัยต่ำกว่าผู้เช่าชาวญี่ปุ่น ชาวอเมริกัน และชาวยุโรปอยู่มาก ซึ่งเป็นที่มาของความต้องการในตลาดแต่เดิมสำหรับการเช่าที่พักอาศัยในย่านใจกลางกรุงเทพฯ(CBD)

 

จากการที่ซีบีอาร์อีปล่อยเช่าที่พักอาศัยในกรุงเทพฯมากกว่า 3,000 ธุรกรรมในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พบว่างบประมาณในการเช่าที่พักอาศัยของชาวต่างชาติไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้นแต่อย่างใด และมีค่ามัธยฐาน (Median) ของค่าเช่ารายเดือนหรือค่ากลางของค่าเช่ารายเดือนที่ประมาณ 90,000 บาท สำหรับขนาด 3 ห้องนอน และ 80,000 บาท สำหรับขนาด 2 ห้องนอน   ทั้งนี้เนื่องจากซีบีอาร์อี มีตลาดหลักเป็นกลุ่มผู้เช่าในระดับบนจึงทำให้ค่ากลางดังกล่าวสูงกว่าค่าเช่าโดยเฉลี่ยของตลาดให้เช่าที่พักอาศัยสำหรับชาวต่างชาติโดยรวม

 

สำหรับทำเลที่ชาวต่างชาติส่วนใหญ่ต้องการพักอาศัยนั้น มีเพียงไม่มากนัก  ได้แก่ อโศก ทองหล่อทำเลถนนสุขุมวิท ย่านลุมพินี และบางส่วนของย่านสาทร โดยตัวเลือกสำหรับชาวต่างชาติโดยส่วนใหญ่ ก็คือ การเช่าอพาร์ตเมนต์จากบุคคลเดียวเป็นเจ้าของทั้งอาคาร หรือจากนักลงทุนรายย่อยที่ซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อนำมาปล่อยเช่า

 

จากการสำรวจโดยแผนกวิจัยซีบีอาร์อีพบว่า มีอพาร์ตเมนต์ให้เช่าที่ได้มาตรฐานสำหรับชาวต่างชาติเพียงประมาณ 10,000 ยูนิตเท่านั้นที่ตั้งอยู่ในย่านใจกลางกรุงเทพฯ   ในขณะที่มีคอนโดมิเนียมราว 80,000 ยูนิตในทำเลเดียวกัน และซีบีอาร์อีประเมินว่า 35-40% ของคอนโดมิเนียมเหล่านี้เป็นของนักลงทุนที่ซื้อห้องชุดเพื่อนำมาปล่อยเช่า  ในด้านของซัพพลายอพาร์ตเมนต์ใหม่นั้นมีจำนวนจำกัด แต่คอนโดมิเนียมใหม่ยังคงจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

เปรียบเทียบจำนวนอพาร์ตเมนต์และคอนโดมิเนียมในย่านใจกลางกรุงเทพมหานคร

 

 

ทั้งนี้ผู้เช่าจำนวนมากโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น นิยมเช่าอพาร์ตเมนต์มากกว่า เพราะสามารถติดต่อทุกเรื่องได้โดยตรงกับผู้ดูแลอาคาร โดยที่ส่วนใหญ่จะมีช่างประจำอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับการบริหารอาคารหรือการซ่อมบำรุงภายในห้องพัก      ในขณะที่คอนโดมิเนียม ผู้จัดการอาคารจะรับผิดชอบเฉพาะการบริหารจัดการพื้นที่ส่วนกลางเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษาภายในห้องพัก

 

“แม้ว่าจำนวนผู้เช่าชาวต่างชาติและงบประมาณในการเช่าจะไม่เพิ่มขึ้น แต่ยังคงมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีสำหรับผู้พัฒนาโครงการอพาร์ตเมนต์อยู่ และการแข่งขันจะเพิ่มมากขึ้นจากการปล่อยเช่าห้องชุดในคอนโดมิเนียมก็ตาม โดยกุญแจสู่ความสำเร็จในการปล่อยเช่านั้นไม่ได้มีเพียงเรื่องทำเล แต่การมีขนาดห้องที่เหมาะสมซึ่งสามารถใช้ประโยชน์พื้นที่ได้สูงสุด และการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ เครื่องใช้ต่างๆ และการตกแต่งภายในห้องที่มีคุณภาพดีและสวยงามก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน” นายธีราธร กล่าว

 

ล่าสุด ซีบีอาร์อีได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนแต่เพียงผู้เดียวในการปล่อยเช่าและเป็นผู้บริหารอาคารให้กับ “จิติมนต์ เรสซิเด้นซ์” โครงการอพาร์ตเมนต์ใหม่ที่เพิ่งแล้วเสร็จในซอยทองหล่อ16 ซอยตรงข้ามเจ อเวนิว  โครงการนี้นับเป็นตัวอย่างหนึ่งที่ดีที่แสดงให้เห็นว่า อพาร์ตเมนต์ซึ่งมีบุคคลเดียวเป็นเจ้าของยังคงสามารถแข่งขันกับคอนโดมิเนียมได้ โดยมีห้องให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่ 1 – 3 ห้องนอน พร้อมด้วยการออกแบบและการเลือกใช้วัสดุต่างๆ ที่ดึงดูดผู้เช่าชาวต่างชาติ

 

นายธีราธร กล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่ได้คาดว่าจะมีจำนวนผู้เช่าชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก หรืองบประมาณในการเช่าของผู้เช่าชาวต่างชาติจะปรับตัวสูงขึ้น  แต่โครงการอพาร์ตเมนต์ ที่มีคุณภาพจะยังคงได้รับค่าเช่าและมีอัตราการเข้าพักในระดับที่สูงอยู่