เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ วางกลยุทธ์ ผ่านแนวคิด “Small is BIG” โต้คลื่นเศรษฐกิจ-ธุรกิจอสังหาฯ ปี 2562 ลุยลงทุนรุกตลาดแนวราบเจาะกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ จ่อผุด 22 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 24,013 ล้านบาท เผยเดินหน้าร่วมทุนผนึกพันธมิตร “ฮันคิว ฮันชิน” พัฒนาที่อยู่อาศัยต่อเนื่อง พร้อมตั้งเป้าสิ้นปีมียอดขาย 19,639 ล้านบาท และ ตั้งเป้ามีรายได้ 8,278 ล้านบาท มั่นใจปี 2563 ปรับฐานรายได้สร้างสถิติใหม่แตะที่ 10,000 ล้านบาทครั้งแรก 

 

ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่าในปี 2562 บริษัทฯ โดยดำเนินการเชิงรุกผ่านโครงสร้างธุรกิจหลักๆ คือ Development/ Supporting  Business / Recurring Income และ Sena Solar Energy ในปีนี้ บริษัทฯได้กำหนดแผนธุรกิจและกลยุทธ์ผ่านแนวคิด “ Small is BIG” กล่าวคือ “เราจะมี Goal เล็กๆ เต็มไปหมดเพื่อจะไปสู่ Big  Dreams ตามเป้าหมายที่ต้องการ ประกอบด้วย

  • เดินหน้าขับเคลื่อนโปรเจกต์ทั้งปี 2562 ทั้งในกรุงเทพฯ/ปริมณฑล และเมืองรอง ต่างจังหวัด รวมถึงจังหวัดในกลุ่มพื้นที่ EEC รวม 22 โครงการ มูลค่ารวมกว่า  24,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวสูงใน กทม. 7 โครงการ และโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบ 7 โครงการ ส่วนโครงการแนบราบต่างจังหวัด เและในพื้นที่ EEC  8 โครงการ  โดยตั้งเป้ายอดขาย 19,639 ล้านบาทและเป้ารายได้ 8,278 ล้านบาท ทุกโครงการที่เปิดขายเจาะลูกค้ากลุ่มเรียลดีมานด์ โดยพิจารณาจาก การเปลี่ยนแปลงของผังเมืองในกรุงเทพฯ/ปริมณฑล การคเลื่อนย้ายของประชากร และการพัฒนาระบบขนส่ง ในขณะเดียวกันก็มองหาตลาดในทำเลใหม่ๆ เพิ่มขึ้น
  • ร่วมทุนพันธมิตรธุรกิจจากญี่ปุ่นพัฒนาโครงการต่อเนื่อง สำหรับกลุ่มโครงการที่อยู่อาศัยจะมีโครงการใหม่จากการลงทุนร่วมกับ ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป  อีกไม่ต่ำกว่า 7 โครงการ มีมูลค่ารวมประมาณ 16,600 กว่าล้านบาท
  • บุกตลาดแนบราบเจาะลูกค้าเรียลดีมานด์ต่างจังหวัดในกลุ่ม EEC ตามนโยบายในปี 2562 เสนามีแผนพัฒนาโครงการในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น จึงได้ร่วมกับบริษัท พราว วานิจ เน้นพัฒนาโครงการแนบราบเจาะตลาดเรียลดีมานด์ในต่างจังหวัดและพื้นที่ EEC อาทิ ชลบุรี สระบุรี (เขาใหญ่) ลพบุรี และอุดรธานี ภายใต้ชื่อ บริษัท  เสนา วณิช ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 600 ล้านบาท
  •  รุกตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง เสนาร่วมกับพาสเนอร์มืออาชีพ “แอคคิวท์ เรียลตี้” บริษัทตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ทำการตลาดให้กับโครงการเสนาทั้งในประเทศ และต่างประเทศ อาทิ จีน มาเลเชีย เวียดนาม สิงคโปร์ กัมพูชา และญี่ปุ่น เป็นต้น
  •  ตอกย้ำคอร์ปอร์เรทแคมเปญ MADE FROM HER 2019: เราพยายามคิดและพัฒนาที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด ประกอบด้วย 2S และ 2C คือ… 1. S = HER self (ความมั่นใจในตัวเองคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง) 2. S = HER Security (ไม่ใช่แค่ปลอดภัยแต่ต้องวางใจได้) 3. C = HER Comfort (1 วันมี 24 ชั่วโมง ถ้าเราต้องใช้เวลาเกือบทั้งหมดไปกับงานและการเดินทาง จึงเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องทำให้ทุกวินาทีของการพักผ่อนยอดเยี่ยม) 4. C = HER Circle (มากกว่าใช้ชีวิตคือแชร์ความสุข)  และในปี 2562  นี้ เสนายังสานต่อแคมเปญ Made From Her ต่อเนื่องเพื่อตอกย้ำจุดยืนในการพัฒนาที่อยู่อาศัย และการบริการให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบันสูงสุด
  •  ต่อยอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้ครบลูปเพื่อที่อยู่อาศัย ในปีนี้ทางเสนาจะมีพัฒนา New Feature Application  “SENA 360” ง่าย จบ ครบในแอพเดียว เน้นบริการและการขาย 360 องศา ยกระดับมาตรฐานการให้บริการของนิติบุคคล (Victory Property management) ให้เป็น International and Hotel Standard การให้บริการดูแลซ่อมแซมจากเสนา วีแคร์ (We Care)  และบริหารช่องทางการฝากซื้อ ขาย ฝาก เช่า บริการครบวงจรแบบมืออาชีพโดยแอคคิวท์ เรียลตี้ (Acute Realty)

ในปี 2562 นี้ เป็นอีกหนึ่งปีที่เต็มไปด้วยโจทย์ยากและความท้าทาย แต่ด้วยกลยุทธ์ของบริษัทฯ ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด การศึกษาเทคโนโยลีและนวัตกรรมใหม่ ๆ พร้อมทั้งนำมาพัฒนาสินค้าและบริการที่มีคุณภาพออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับพันธมิตรชั้นนำที่เข้ามามีส่วนช่วยผลักดันให้บริษัทเติบโต จึงทำให้มั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน

แผนการเปิดโครงการใหม่ปี 2562 รวม 22 โครงการ มูลค่ารวมกว่า  24,000 ล้านบาท

ควักทุนจ่ายดอกเบี้ยลูกค้าเพิ่มเงินดาวน์ปลดล็อกลูกค้าเข้าถึงแหล่งเงินกู้

พร้อมกันนี้ ดร.เกษรา กล่าวยอมรับว่า สิ่งที่ท้าทายที่บริษัทฯ ต้องเข้าไปแก้ไขปัญหานั่นคือ การเข้าถึงแหล่งเงินกู้ของลูกค้าที่ซื้อที่อยู่อาศัยในระดับราคา 2-3 ล้านบาท ซึ่งในปี 2561 บริษัทฯ ได้เปิดตัวคอนโดฯ ในช่วงระดับราคาดังกล่าวถึง 5,990 ยูนิต คิดเป็น 30 % ของ Mid Market และถึงแม้กลุ่มลูกค้าดังกล่าวจะเป็นเรียลดีมานด์และซื้อที่อยู่อาศัยเป็นบ้านหลังแรก แต่ด้วยกฎเกณฑ์ใหม่ของธนาคารแห่งประเทศไทยหรือ ธปท.มีการปรับสัดส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (แอลทีวี) ที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 เมษายน 2562 เป็นต้นไปนั้นยอมรับว่าส่งผลกระทบกับลูกค้ากลุ่มนี้พอสมควร

 

เพื่อรับมือกับความเสี่ยงดังกล่าว เบื้องต้นบริษัทฯ ได้ออกแคมเปญ ไฟแนนเชียล เช็ค อัพ เดย์ ให้ลูกค้ามาตรวจสอบสถานะทางการเงินเพื่อดูความพร้อมความสามารถในการขอกู้เงินจากธนาคารก่อนล่วงหน้า 1 ปี ก่อนที่โครงการจะก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอน ด้วยการนำร่อง คอนโดมิเนียมโครงการ นีชโมโน สุขุมวิท แบริ่ง เป็นโครงการแรก พร้อมกันนี้บริษัทฯ ยังได้มีข้อเสนอให้ผลตอบแทนดอกเบี้ยในอัตรา 7-8 % ต่อปีกับลูกค้าในกรณีที่ลูกค้าต้องการชำระเงินดาวน์เพิ่มจากวงเงินดาวน์ปกติ

 

“ปกติเงินดาวน์อยู่ที่ 15 % แต่แบงก์ตรวจสอบสถานะของลูกค้าแล้วมีขีดความสามารถในการกู้แบงก์ได้แค่ 70 % เพื่อช่วยลูกค้าจึงเสนอให้ลูกค้าเพิ่มเงินดาวน์อีก 15% ด้วยการผ่อนให้กับเรา ส่วนต่างเงินดาวน์ที่เพิ่มขึ้นนี้ลูกค้าจะได้รับดอกเบี้ยจากเสนา” ดร.เกษรา กล่าวพร้อมกับย้ำว่า วิธีการนี้ส่งผลดีทั้งลูกค้าและบริษัทฯ โดยในส่วนของลูกค้านั้นจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายและเร็วขึ้น เมื่อถึงเวลาขอกู้แบงก์ลูกค้าก็สามารถกู้ได้ ในส่วนของบริษัทฯ เองก็มีรายได้จากการโอนและลดปัญหาการนำห้องชุดกลับมาขายใหม่ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายโครงการ เช่น โครงการคอนโดฯ ที่ปู่เจ้าบริษัทฯ ก็อาจต้องใช้วิธีการเดียวกับโครงการนีชโมโน สุขุมวิท แบริ่ง

 

ปี 63 เป็นปีปรับฐานรายได้ใหม่ครั้งแรกแตะหมื่นล้านบาท

ดร.เกษรา กล่าวด้วยว่า ในปี 2561 เป็นปีที่เสนาฯ ทำสถิติใหม่ในทุกๆ เรื่อง เป็นปีแห่ง “ Growth Hormone” ทั้งจำนวนโครงการที่เปิดมูลค่ารวม และ ยอดขายที่ได้ กล่าวคือ มีโครงการใหม่ที่เปิด 9 โครงการ จำนวน 6,395 ยูนิต มูลค่า 20,990 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน (ปี 2560 เปิดคอนโดฯ มูลค่า 8,479 ล้านบาท) ถึง 129 % ซึ่งนั้นก็สะท้อนภาพได้ว่า เสนาฯ ก็เป็นตัวจริงคนหนึ่งในเรื่องคอนโดฯ

 

ปี 2561 มียอดขายอยู่ที่ 9,177 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54 % จากปี 2560 ที่มี 5,950 ล้านบาท  มียอดขายรอโอน (Backlog) อยูที่ 10,210 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 109 % จากปี 2560 ที่มี 4,677 ล้านบาท มีโครงการรวมทุน 14,130 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 113 % จากปี 2560 ที่มี 6,640  ล้านบาท

 

“ทุก item เราเติบโตกว่า100 %  ยอดขายที่ได้แตะหมื่นหล้านบาท นี่คือ การปรับฐานยอดขายใหม่ของเสนา” ดร.เกษรา กล่าวพร้อมยอมรับว่าปัจจัยสนับสนุนหลักคือมาจากการร่วมทุนกับ ฮันคิวที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2560 และปีนี้ 2562 ก็ขึ้นปีที่ 3 ซึ่งก็มีโครงการร่วมทุนอีกกว่า 7 โครงการมูลค่ากว่า 16,600 ล้านบาท

 

ากการปูฐานการลงทุนในโครงการต่างๆและการขยายฐานเพื่อสร้างรายได้ในทุกช่องทางนั้น ในปี 2563 จะเป็นปีที่เสนาฯ ปรับฐานรายได้ทำสถิติใหม่แตะที่ 10,000 ล้านบาทครั้งแรก ด้วยเพราะยอด Backlog ที่มีอยู่ 10,210 ล้านบาทส่วนใหญ่แล้วจะโอนในปี 2563

 

ดร.เกษรา ยังกล่าวในตอนท้ายถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2562 ว่ายังมีทิศทางขยายตัวได้ในทิศทางที่ดี โดยเชื่อว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ประมาณ 4-4.3% อย่างไรก็ตามในปีนี้ยังคงมีความท้าทายในด้านกำลังซื้อผู้บริโภคน่าจะลดลง โดยมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการซื้อที่อยู่อาศัยจากอัตราดอกเบี้ย และความไม่มั่นใจจากเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีความผันผวน ในส่วนของปัจจัยหนุนจะมาจากโครงการลงทุนของภาครัฐ โดยเฉพาะในโครงการเมกะโปรเจกต์ต่างๆ การขยายการคมนาคม ที่ภาครัฐมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง