โกลเด้นแลนด์ ไม่หวั่นตลาดบ้านเดี่ยวแข่งเดือด มั่นใจแบรนด์สินค้า เปิดแผนปี62 พร้อมเปิดบ้านเดี่ยว 6 โครงการใหม่ มูลค่า 10,000 ล้านบาท ทั้งเล็งที่ดินในเมืองเตรียมผุดบ้านเดี่ยว 3 ชั้น แบรนด์ใหม่รูปแบบ City Home ราคา10-20 ล้านบาท คาดพร้อมเปิดตัวปี63 ทุ่มงบตุนที่ดินอีก  2,800 ล้านบาท ตั้งเป้าขายปีนี้แตะ 8,000 ล้านบาท รับรู้รายได้ที่ 5,000 ล้านบาท 

 

นายวิรัชต์ มั่นเจริญพร กรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ โกลเด้นแลนด์ หรือ GOLD เปิดเผยถึง ภาพรวมตลาดบ้านเดี่ยวว่า แม้จะมีผู้ประกอบการรายใหญ่หันมาชิงส่วนแบ่งตลาดเป็นจำนวนมาก แต่บริษัทมีความได้เปรียบเพราะเน้นตลาดบ้านเดี่ยวมาตั้งแต่เริ่มพัฒนาโครงการ มีการออกแบบสินค้าที่สวยงาม ตอบโจทย์ลูกค้า และมีข้อมูลลูกค้าเที่เป็นเป็นเรียลดีมานด์จริงๆ สำหรับมาตรการควบคุมการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยทำให้ผู้ซื้อต้องวางเงินดาวน์เพิ่มขึ้นโดยอยู่ที่ราว 10-30% นั้นมองว่ากลุ่มตลาดกลาง-บน คือบ้านระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ไม่กระทบมากนักเพราะจากปัจจุบันบริษัทเก็บเงินดาวน์อยู่ที่ 20% เป็นปกติ ส่วนตลาดระดับราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านหลังแรก และมีการกู้สินเชื่อมาเกิน 3 ปีแล้ว จะวางดาวน์อยู่ที่ 10% ซึ่งเท่ากับที่บริษัทจัดเก็บอยู่  และกลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างมีกำลังซื้อจึงไม่น่าจะได้รับกระทบมากนัก อีกทั้งคาดว่าไตรมาส1/2562 นี้จะเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการมีการแข่งขันระบายสต๊อก  ทำให้มียอดโอนกรรมสิทธิ์สูงมากที่สุดในประวัติการณ์ ปัจจุบันบริษัทมีBacklog  สะสมยอดขายที่รอรับรู้รายได้จากการโอน จากการเปิดตัวโครงการใหม่เมื่อปีที่ผ่านมา 2 โครงการ คือโครงการ “แกรนดิโอ”(GRANDIO)บางแค และ “ทู แกรนด์ โมนาโค” (TWO GRANDE MONACO)บางนา-วงแหวน มูลค่า 800 ล้านบาท 

 

“ตลาดบ้านเดี่ยวระดับกลาง-สูง เป็นตลาดที่ไม่ได้มีความหวือหวามากนัก แต่มีการเติบโตทุกปี กลุ่มลูกค้าของบริษัท ส่วนใหญ่ไม่ได้ซื้อเป็นบ้านหลังแรก แต่ซื้อเพื่อขยับขยายหรือย้ายทำเล ซึ่งต้องการบ้านที่ใหญ่ขึ้น สะดวกสบายขึ้น ทำเลดีขึ้น ดังนั้นการพัฒนาบ้านของบริษัทจึงคำนึงถึงความโดดเด่นในเรื่องของความหรูหราทันสมัย ฟังก์ชั่นเพื่อการอยู่อาศัยที่ครบครันและมากกว่า เมื่อเทียบกับคู่แข่งในระดับราคาเดียวกัน เพื่อให้ลูกค้ามีความสะดวกสบายและภาคภูมิใจในบ้านหลังใหม่อย่างแท้จริง”นายวิรัชต์ กล่าว

 

 

สำหรับแผนการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวของบริษัทฯในปี 2562 นั้นจะเป็นปีที่รุกตลาดบ้านเดี่ยวมากขึ้น จากที่ผ่านมาจะเน้นระบายสต๊อกเก่าซึ่งเดิมที่ดำเนินการในนามบริษัท กรุงเทพบ้านและที่ดิน จำกัด(มหาชน)หรือ KLAND ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 3 ปี ในการระบายสต๊อกเดิม และเมื่อปีที่ผ่านมาแลนด์แบงก์เดิมเร่ิมหมด จึงได้มีการซื้อเพิ่มขึ้นมาใหม่ ดังนั้นในปีนี้จึงมีการพัฒนาบ้านเดี่ยวมากขึ้นถึง 6 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท จากปี 2561 ที่เปิดตัวไป 2 โครงการ มูลค่าประมาณ 3,360 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ “แกรนดิโอ”(GRANDIO)บางแค ระดับราคา 7-15 ล้านบาท และ “ทู แกรนด์ โมนาโค” (TWO GRANDE MONACO)บางนา-วงแหวน ระดับราคา 20-60 ล้านบาท

 

โดย 6 โครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในปีนี้นั้น จะพัฒนาภายใต้แบรนด์ “แกรนดิโอ” (GRANDIO) จำนวน 4 โครงการ และแบรนด์”เดอะ แกรนด์” (The Grand) ระดับราคา 20-100 ล้านบาท จำนวน 2 โครงการ จะเป็นการเปิดตัวในไตรมาส1/2562 จำนวน 1 โครงการ คือ “เดอะ แกรนด์ ลักซ์”(THE GRAND LUX)บางนา-สวนหลวง ตั้งอยู่บนพื้นที่ 36 ไร่ เป็นบ้านหรูบนที่ดินขนาดตั้งแต่ 100-250 ตารางวา ราคาตั้งแต่ 20-60 ล้านบาท จำนวน 61 ยูนิต มูลค่าโครงการ1,500 ล้านบาท โดยได้เปิดพรีเซลไปเมื่อวันที่ 16-17 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา ขณะนี้มียอดขายแล้วประมาณ 300 กว่าล้านบาท 

 

สำหรับไตรมาสที่ 2 จะเปิดตัวเปิดอีก 1 โครงการ มูลค่า 980 ล้านบาท ไตรมาส 3 เปิด 2 โครงการ มูลค่า 3,300 ล้านบาท และไตรมาสที่ 4 อีก 2 โครงการ มูลค่า 4,220 ล้านบาท

 

นอกจากนี้บริษัทฯยังมีแผนที่จะพัฒนาบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ในรูปแบบ City Home เน้นทำเลเมือง เพราะปัจจุบันผู้บริโภคมองหาบ้านทำเลในเมือง ซึ่งหาได้ค่อนข้างยาก บริษัทจึงเริ่มคิดค้นหาแนวทางเพื่อจัดสรรบ้านในเมือง ให้เป็นซิตี้โฮมที่แท้จริงไว้รองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ โดยจะเป็นบ้านที่มีฟังก์ชันครบตามสไตล์ โกลเด้นแลนด์ และอยู่ในเมือง อาทิ ย่านสาทร, ลาดพร้าว, แจ้งวัฒนะ เป็นต้น โดยกำหนดโครงสร้างขนาดที่ดิน 35-60 ตารางวา/ยูนิต ราคาขายในระดับ 10-20 ล้านบาท และจะเป็นการสร้างแบรนด์ใหม่ขึ้นมาเพื่อสร้างการจดจำสำหรับผู้บริโภค ความคืบหน้าขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจาซื้อที่ดินซึ่งจะต้องใช้พื้นที่ตั้งแต่ 15 ไร่ขึ้นไป จำนวนประมาณ 100 ยูนิต คาดว่าจะเริ่มพัฒนาได้ในปี2563 

 

 

อย่างไรก็ตามในปีนี้บริษัทตั้งเป้าซื้อที่ดินไว้ที่ 2,800 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวในปี2563 อีกประมาณ 7 โครงการ ในย่านบางนา รัตนาธิเบศร์ รังสิต และเพชรเกษม เป็นต้น จากปี2561 ที่ใช้งบในการซื้อที่ดินไปประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยที่ดินที่จะพัฒนาบ้านเดี่ยวแบรนด์แกรนดิโอ จะต้องอยู่ในราคา 6-10 ล้านบาท/ไร่ ขณะที่แบรนด์ เดอะแกรนด์ ราคาที่ดินจะสูงเกิน 10 ล้านบาทขึ้นไป/ไร่

 

 

สำหรับผลการดำเนินงานในธุรกิจที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวของบริษัท ในปี 2561 ที่ผ่านมามีการเติบโตทั้งด้านยอดขายและยอดรับรู้รายได้ คือมียอดขาย 6,839 ล้านบาท สูงขึ้นจากปี 2560 ถึง 2,235 ล้านบาท คิดเป็น 49% และยอดรับรู้ 4,171 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 945 ล้านบาท หรือ 29% ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของตลาดซึ่งอยู่ที่ 26% ในปี2562 นี้บริษัทได้ตั้งเป้ายอดขายสำหรับโครงการบ้านเดี่ยว 8,000 ล้านบาท และเป้ารับรู้รายได้ที่ 5,000 ล้านบาท คิดเป็น 27% ของเป้ารับรู้รายได้ธุรกิจที่อยู่อาศัยทั้งหมดของบริษัทที่ตั้งไว้ 18,000 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ที่มียอดรับรู้รายได้ 4,171 ล้านบาท และคาดว่าในปี2566 บริษัทฯจะมียอดรับรู้รายได้จากโครงการบ้านเดี่ยวที่ 10,000 ล้านบาท