สโคปฯเผย ตลาดคอนโดฯระดับ “อินเตอร์เนชั่นแนล พรีเมี่ยม”ความต้องการยังสูง 6,500 ยูนิต/ปี รวมมูลค่า 90,000 ล้านบาท คาดปี62 ราคาย่านหลังสวนราคาพุ่งแตะ 800,000 บาท/ตารางเมตร ประกาศชัดเจนที่ดินราคาประวัติศาสตร์ผุดคอนโดฯหรู 500,000 บาท/ตารางเมตร มูลค่าโครงการกว่า 7,800 ล้านบาท ปี63 จ่อผุดอีก 2 โครงการทำเลทองหล่อและสุขุมวิท รวม 3 โครงการในมือมูลค่า 11,200 ล้านบาท

นายยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโคป จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SCในสัดส่วน 90% และนางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ สัดส่วน 10 % เปิดเผยว่า ปัจจุบันความต้องการคอนโดมิเนียมมาตรฐาน “อินเตอร์เนชั่นแนล พรีเมี่ยม” มีอยู่ประมาณ 6,500 ยูนิต/ปี ในทุกระดับราคา ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 90,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่พอสมควร และหากแยกเป็นตลาดคอนโดมิเนียมคุณภาพระดับสูงสุดในประเทศไทย  ราคา 200,000 บาท/ ตารางเมตร จะมีมูลค่าถึงประมาณ 78,506 ล้านบาท  จากจำนวนประมาณ 5,871 ยูนิต  และเชื่อว่าในปี2562 นี้  ราคาคอนโดมิเนียมระดับคุณภาพสูงสุดในทำเลย่านหลังสวน น่าจะสูงถึง 800,000 บาท/ตารางเมตร

สำหรับความคืบหน้าโครงการบนที่ดินย่านหลังสวน พื้นที่ 880 ตารางวา หรือกว่า 2 ไร่  ที่SC ซื้อมาจากตระกูล “พิชัยรณรงค์สงคราม”ด้วยราคาที่ดินมูลค่าเกือบ 3,000 ล้านบาท หรือประมาณ 3.2ล้านบาท/ตารางวา ซึ่งจะได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในวันที่ 11 มกราคม 2561 ที่ผ่านมานั้น มีแผนจะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม สูงกว่า 40 ชั้น ราคาขายคาดว่าจะเริ่มที่ประมาณ 500,000 บาท/ตารางเมตร มูลค่าโครงการกว่า 7,800 ล้านบาท ความคืบหน้าขณะนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้างห้องตัวอย่าง และปรับรูปแบบ ที่เน้นตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ซื้อเพื่อการลงทุนและอยู่อาศัย โดยสินค้าต้องตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย คาดว่าจะเปิดพรีเซลประมาณเดือนมิถุนายน 2562 นี้  และในปี 2563 บริษัทฯยังมีแผนที่จะเปิดตัวอีก 2 โครงการในย่านทองหล่อและถนนสุขุมวิท ซึ่งมีที่ดินรองรับเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ ซึ่งทั้ง 3 โครงการที่จะพัฒนานี้ คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 11,200 ล้านบาท  

นอกจากนี้บริษัทฯยังมีความนโยบายที่จะทำหน้าที่บริหารอาคารที่บริษัทสร้างขึ้น ให้ยาวนานเป็น 10 ปี จากปกติที่จะบริหารอาคารปีต่อปี  โดยบริษัทจัดสรรหน่วยงานภายในขององค์กรให้เป็นผู้ทำหน้าที่ดังกล่าว แทนที่จะใช้วิธีการตั้งบริษัทแยกออกมาใหม่ที่มุ่งหวังผลกำไรให้เป็นผู้ทำหน้าที่นั้น เหมือนอย่างในรูปแบบธุรกิจปกติทั่วไป เพราะเชื่อว่าการตั้งโครงสร้างแบบที่กำลังทำอยู่นี้ ทำให้สามารถส่งมอบประสบการณ์การใช้ชีวิตระดับอินเตอร์เนชั่นแนล พรีเมี่ยม ได้ดีกว่า ทั้งนี้คาดการณ์ว่าลูกค้าของสโคปฯจะเป็นคนไทยรุ่นใหม่ผู้มีฐานะและรสนิยมที่เป็นอินเตอร์เนชั่นแนล ประมาณ 80% และเป็นชาวต่างชาติผู้มองหาที่พักอาศัยคุณภาพระดับอินเตอร์เนชั่นแนลที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ประมาณ20%

 

“เรากำลังบุกเบิกเปิดตลาดใหม่สำหรับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเฉพาะทาง เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพมาตรฐานสูงสุดระดับสากล โดยอาศัยรูปแบบการทำธุรกิจ ที่ไม่เหมือนใคร มีโครงสร้างองค์กรที่แตกต่างไปจากแบบแผนเดิมในบริษัททั่วไป ทั้งนี้ ก็เพื่อให้สามารถยกระดับมาตรฐานของการพัฒนาที่อยู่อาศัยในประเทศไทยให้สูงยิ่งขึ้น และมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น”นายยงยุทธ กล่าวในที่สุด