“วีรันดา รีสอร์ท” พร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เพื่อเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 75 ล้านหุ้น โดยมีวัตถุประสงค์ในการนำเงินระดมทุนไปเพื่อขยายธุรกิจ ชำระคืนเงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทอาคารชุดพักอาศัย และธุรกิจร้านอาหาร ได้กำหนดการนำเสนอข้อมูลต่อนักลงทุนเพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในวันที่ 19 เมษายน 2562 ณ ห้องประชุม ศุกรีย์ แก้วเจริญ ชั้น 3 อาคาร B  ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยนายวีรวัฒน์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท บริษัท วีรันดา รีสอร์ท เป็นผู้ให้รายละเอียด
ทั้งนี้ บริษัท วีรันดา รีสอร์ท เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai )หมวดบริการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน  โดยได้ Filing version แรก เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2561ภายใต้กรอบการอนุมัติของที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น  ครั้งที่ 2/2561 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/2562 เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2562 ได้พิจารณาถึงความเหมาะสมของจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จะจัดสรรดังกล่าว โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จึงได้มีมติอนุมัติการเปลี่ยนแปลงจำนวนหุ้นที่จัดสรรไว้สำหรับการเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เป็นจำนวนไม่เกิน 75,000,000 หุ้นคิดเป็นร้อยละ 23.46 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ดังนั้น ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนในครั้งนี้แล้ว บริษัทฯ จะมีทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้วทั้งสิ้น ไม่เกิน 1,598,408,360 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 319,681,672 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5.00 บาท

จากข้อมูลที่ระบุในหนังสือชี้ชวน แจ้งถึงวัตถุประสงค์การนำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ 1. เพื่อขยายธุรกิจของบริษัทฯ( โครงการวีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน /  โครงการโรงแรมเวอโซ หัวหิน) 2. ชำระคืนเงินกู้ยืมแก่สถาบันการเงิน และ 3.ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน

โครงการวีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน เป็นคอนโดมิเนียมประเภท Low rise สูง 3-7 ชั้น จำนวน 5 อาคาร มีจำนวนห้องชุด 270 ยูนิต และอาคารที่จอดรถ 1 อาคาร  โดยมีพื้นที่โครงการ ประมาณ 36,899 ตารางเมตร (ตร.ม.)และมีพื้นที่ขาย ประมาณ 18,791 ตารางเมตร ราคา 130,000 บาทต่อตารางเมตร มูลค่าโครงการ 2,461.65 ล้านบาท โดยเงินลงทุนโดยประมาณ1,635 ล้านบาท (เป็นส่วนของที่ดิน 419 ล้านบาท)

จุดเด่น โครงการ วีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน เป็นโครงการอาคารชุดพักอาศัย Low Rise ที่รูปแบบของโครงการเป็นลักษณะสถาปัตยกรรมแบบร่วมสมัย (Modern Contemporary) ตามแบบฉบับของกลุ่มบริษัทฯ ใกล้ชิดธรรมชาติทั้งภายในและภายนอก รวมทั้งบริเวณโครงการมีชายหาดส่วนตัว (Beach Front)โครงการประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย นอกจากนี้โครงการ วีรันดา เรสซิเดนซ์ หัวหิน ตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพสูง อยู่บนทำเลที่สามารถเดินทางได้สะดวก อยู่ใกล้โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้าและแหล่งท่องเที่ยว โดยมีประเภทห้องชุด ดังนี้

  1. ห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยประมาณ 41-46 ตารางเมตร จำนวน 105 ยูนิต
  2. ห้องชุดแบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยประมาณ 64-104 ตารางเมตร จำนวน 97 ยูนิต
  3. ห้องชุดแบบ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 87-111 ตารางเมตร จำนวน 41 ยูนิต
  4. ห้องชุดแบบ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 136-147 ตารางเมตร จำนวน 23 ยูนิต
  5. ห้องชุดแบบ Penthouse พื้นที่ใช้สอยประมาณ 160-213 ตารางเมตร จำนวน 4 ยูนิต
กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คือ กลุ่มนักลงทุนและกลุ่มคนที่ต้องการซื้อห้องชุดเก็บไว้สำหรับเป็นบ้านพักตากอากาศหลังที่สอง เริ่มเปิดขายตั้งแต่เดือนเมษายน 2560 เริ่มก่อสร้างไตรมาสที่ 1 ปี 2561 ช่วงเวลาที่คาดว่าก่อสร้างแล้วเสร็จ (โดยประมาณ)ไตรมาสที่ 1 ปี 2563 โดยได้ลงเสาเข็มเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างขึ้นงานโครงสร้างอาคาร
ส่วน โครงการโรงแรมเวอโซ หัวหิน พัฒนาเป็นโรงแรม พื้นที่โครงการ / พื้นที่ขาย 4,230 ตารางเมตร จำนวน39 ห้อง โดยมีห้องพักแบบ Deluxe พื้นที่ใช้สอยประมาณ 41 ตารางเมตร จำนวน 38 ห้อง และห้องพัก Pool Suite พื้นที่ใช้สอยประมาณ 172 ตารางเมตร จำนวน 1 ห้อง ใช้เงินลงทุนประมาณ 321 ล้านบาท (เป็นส่วนของที่ดิน 121 ล้านบาท)

กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย คือกลุ่มลูกค้าที่มาเที่ยวพักผ่อนจากทั้งในและต่างประเทศที่มาเป็นครอบครัว กลุ่มเพื่อน และคู่รัก รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเข้าพักในตัวเมืองหัวหิน อยู่ใกล้แหล่งห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร สามารถเดินทางได้สะดวก และไม่ต้องการพักไกลออกไปจากตัวเมืองหัวหิน ตามแผนเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 1 ปี 2562 ช่วงเวลาที่คาดว่าก่อสร้างแล้วเสร็จ (โดยประมาณ) และเริ่มเปิดบริการไตรมาสที่ 1 ปี 2563 ปัจจุบันโครงการก่อสร้างร้านอาหารเสร็จแล้ว 1 ร้าน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตัวโรงแรมยังไม่มีการเริ่มก่อสร้าง

สำหรับการขยายธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มนั้น กลุ่มบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยพิจารณารูปแบบการให้บริการ ในทำเลที่เหมาะกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ภายใต้งบประมาณและช่วงเวลาที่เหมาะสม โดยจากการได้รับกระแสตอบรับที่ดีของร้าน KOF สาขาสาทร และสาขาทองหล่อ กลุ่มบริษัทฯ จึงมีแผนที่จะขยายสาขาร้าน KOF อีก 1 สาขาในช่วงปลายปี 2562 ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างจัดหาพื้นที่ และคาดจะใช้เงินลงทุนประมาณ 4 ล้านบาท

นอกจากนี้ ภายในไตรมาส 2 ปี 2562 กลุ่มบริษัทฯ ยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม โดยการเปิดร้านอาหารและเครื่องดื่มอีกจำนวน 3 สาขา โดยจะแบ่งเป็นร้าน Skoop & Co. จำนวน 2 สาขาที่โครงการ เจ อเวนิว ทองหล่อ จังหวัดกรุงเทพมหานคร และโครงการ เดอ มาร์เช่ จังหวัดเชียงใหม่ และร้านชานมไข่มุก The Alley จำนวน 1 สาขาที่โครงการ เดอ มาร์เช่ จังหวัดเชียงใหม่ โดยปัจจุบันอยู่ในระหว่างการออกแบบรูปแบบร้าน และเตรียมการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนรวมสำหรับ 3 สาขาทั้งหมด ประมาณ 8 ล้านบาท

เกี่ยวกับฐานะการเงินและผลการดำเนินงาน

ในปี 2559 –2561กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวมเติบโตอย่างต่อเนื่องจาก 1,210.90 ล้านบาท ในปี 2559 เป็น 1,731.25 ล้านบาท ในปี 2560 หรือคิดเป็นอัตราเติบโตร้อยละ 23.87 ในปี 2560 และร้อยละ 40.44 ในปี 2561 หรือคิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ร้อยละ 41.70 ต่อปี

กำไร (ขาดทุน) สุทธิสำหรับปี 2559 ปี 2560 และปี 2561 เท่ากับ (17.85) ล้านบาท 22.23 ล้านบาท และ 235.78 ล้านบาท ตามลำดับ โดยคิดเป็นอัตรากำไร (ขาดทุน) สุทธิเท่ากับ ร้อยละ (1.47) ร้อยละ 1.28 และร้อยละ 9. 70

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 2560 2561 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมเท่ากับ 5,173.60 ล้านบาท 5,442.45 ล้านบาท และ 4,781.37 ล้านบาท ตามลำดับ

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2559 2560 และ 2561 หนี้สินรวมเท่ากับ 4,039.05 ล้านบาท 4,286.24 ล้านบาท และ 3,440.77 ล้านบาท ตามลำดับ