กานดาฯเชื่อหลังจัดตั้งรัฐบาลใหม่เศรษฐกิจปี 62 ยังทรงตัว ครึ่งปีแรกนโยบายพรรคการเมืองยังไม่ชัดเจน หวั่นมาตรการ LTV-ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฯ ตัวแปรสำคัญภาคอสังหาฯ เปิดแผนปีนี้จ่อผุด 9 โครงการใหม่ รวมมูลค่า 7,434  ล้านบาท คาดกวาดยอดขายทั้งปี 3,140 ล้านบาท รับรู้รายได้ 2,200 ล้านบาท
นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า การจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่คงไม่รวดเร็วนัก ซึ่งคงต้องรอประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคม 2562 นี้ หากมีการจัดตั้งรัฐบาลได้และยอมรับจากทุกฝ่าย ก็คิดว่าสภาวะเศรษฐกิจก็อาจจะยังไม่เปลี่ยนแปลงในเชิงบวกหรือลบมากนัก และยังไม่เห็นการขับเคลื่อนที่ชัดเจน  จะมีเพียงการเดินหน้าโครงการต่อเนื่องจากรัฐบาลที่ผ่านมาเท่านั้น  โดยเฉพาะการขับเคลื่อนระบบการคมนาคม ที่ยังเดินหน้าไม่ได้หยุดชะงักแต่อย่างใด ทำให้ในครึ่งปีแรก 2562 คงยังไม่เห็นภาพนโยบายที่พรรคการเมืองได้หาเสียงไว้  ส่วนภาคเอกชนก็ยังชะลอการลงทุนเพื่อรอดูท่าทีรัฐบาล  และมีความระมัดระวังในการลงทุน เพราะปี 2561 ที่ผ่านมาภาคอสังหาฯมีการเปิดตัวโครงการ โอนกรรมสิทธิ์กันมาก และยอดสินเชื่อพุ่งสูงสุดในรอบ 21 ปี

 

แต่สิ่งที่มีตัวแปรมากที่สุดน่าจะเป็นมาตรการกำกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (Loan to Value: LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ประกอบการต่างรอดูความชัดเจนถึงปลายเดือนเมษายนนี้ และตัวแปรที่สำคัญอีกเรื่องคือ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ…ที่จะประกาศใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2563   ส่วนรัฐบาลจะมีความมั่นคงนานเพียงใดก็ต้องรอดู แต่ผู้ประกอบการก็ต้องเดินหน้าในการพัฒนาโครงการ

สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2562 นี้จะเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่ทั้งสิ้น  9 โครงการ รวมมูลค่าประมาณ 7,434  ล้านบาท ได้แก่

1.โครงการ ไอลีฟ ทาวน์ 2 พระราม 2 กม. 18 ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 19 ไร่เศษ  พัฒนาในรูปแบบของทาวน์โฮม  จำนวน 201 ยูนิต  ราคาเริ่มต้นที่ 2.09 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 550 ล้านบาท โดยได้เปิดพรีเซลไปเมื่อเดือนมกราคม 2562 ที่ผ่านมา

 

2.โครงการ ไอลีฟ ไพร์ม พระราม 2 กม. 14 ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณ 49 ไร่เศษ  พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยว บ้านแฝด  จำนวน 130 ยูนิต  และทาวน์โฮม จำนวน  265 ยูนิต  จำนวนรวม 395 ยูนิต  ราคาขายเริ่มต้นที่ 2.19 ล้านบาท มูลค่าโครงการ  1,100 ล้านบาท  โดยได้เปิดพรีเซลไปเมื่อเดือนมีนาคม 2562 ที่ผ่านมา

 

3.โครงการ ไอลีฟ พาร์ค 2 รังสิตคลอง 4  พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยว บ้านแฝด  จำนวน  232  ยูนิต และทาวน์โฮม จำนวน  266  ยูนิต  จำนวนรวม 498 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,310 ล้านบาท  โดยจะเปิดพรีเซลในเดือนมิถุนายน 2562 นี้

 

4.โครงการ ไอลีฟ ทาวน์ เศรษฐกิจ-บางปลา พัฒนาในรูปแบบของบ้านแฝด  และทาวน์โฮม จำนวน 486 ยูนิต  มูลค่าโครงการ 1,011 ล้านบาท  ซึ่งจะเปิดพรีเซลในเดือนมิถุนายน 2562 นี้

 

5.โครงการ ไอลีฟ พาร์ค เศรษฐกิจ-บางปลา บ้านเดี่ยว และบ้านแฝด จำนวน 137 ยูนิต  มูลค่าโครงการ 460 ล้านบาท  โดยจะเปิดพรีเซลในเดือนมิถุนายน 2562 นี้

 

6.โครงการ ไอลีฟ ไพร์ม 2 ภูเก็ต พัฒนาในรูปแบบของทาวน์โฮม จำนวน 248 ยูนิต  มูลค่าโครงการ 587 ล้านบาท  โดยจะเปิดพรีเซลในเดือนตุลาคม 2562 นี้

 

7.โครงการ ไอลีฟ ทาวน์ เทพารักษ์-บางบ่อ พัฒนาในรูปแบบของทาวน์โฮม  จำนวน 467 ยูนิต  มูลค่าโครงการ 980 ล้านบาท โดยจะเปิดพรีเซลประมาณเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2562 นี้

 

8.โครงการ ไอลีฟ พาร์ค เทพารักษ์-บางบ่อ  พัฒนาในรูปแบบของบ้านเดี่ยว และบ้านแฝด  จำนวน 129 ยูนิต  มูลค่าโครงการ 420 ล้านบาท  โดยจะเปิดพรีเซลประมาณเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2562 นี้

 

9.โครงการ ไอลีฟ ทาวน์ 3 ประชาอุทิศ 90  พัฒนาในรูปแบบของทาวน์โฮม  จำนวน 484 ยูนิต  มูลค่าโครงการ 1,016 ล้านบาท  โดยจะเปิดพรีเซลประมาณเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2562 นี้

“ในปีนี้เราจะมีการเปิดโครงการทั้งในโซนเดิม คือ พระราม2 และโซนใหม่ย่านพุทธสาครและเทพารักษ์  ส่วนต่างจังหวัดก็ยังเน้นทำเลภูเก็ต ในพื้นที่ใหม่ใกล้สนามบิน ซึ่งการที่ไปเปิดทำเลใหม่ๆ นั้นก็เป็นการกระจายไปจากโครงการเดิมที่เคยพัฒนาในย่านใกล้เคียงกัน ซึ่งมั่นใจว่าแม้จะไม่ได้เป็นโครงการใหญ่มาก แต่ก็มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากดีมานด์ในพื้นที่ เพราะก่อนที่จะเข้าไปลงทุนจะมีการสำรวจข้อมูลในแต่ละพื้นที่เพื่อทราบถึงความต้องการ โดยเฉพาะพุทธสาคร พบว่าอุตสาหกรรมเกี่ยวกับอาหารยังมีอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นความต้องการที่อยู่อาศัยจึงยังมีอยู่อีกมาก” นายอิสระ กล่าว

 

อย่างไรก็ตามในปี 2562 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขาย 3,142 ล้านบาท รับรู้รายได้ 2,200 ล้านบาท เติบโตประมาณ 20%