แนวคิดที่ผู้คนส่วนใหญ่เข้าใจเกี่ยวกับทรัพย์สินส่วนกลางของคอนโดมิเนียมนั้นคือ มองว่ายิ่งมีมากเพียงใดก็ยิ่งเป็นภาระให้กับเจ้าของร่วมในระยะยาว เพราะทุกอย่างล้วนมีต้นทุนแห่งการดูแลและบำรุงรักษาเพื่อให้คงสภาพที่ดีดังเช่นวันแรกที่ได้รับการส่งมอบโครงการ แต่ในปัจจุบันความคิดเหล่านี้เริ่มจะมีการปรับเปลี่ยนไป จากเทรนด์ของคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ที่ความท้าทายไม่ได้มีเพียงการสร้างโครงการคุณภาพ ดีไซน์โดดเด่นบนทำเลศักยภาพ และบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยมเท่านั้น แต่การสร้างประสบการณ์และไลฟ์สไตล์ให้กับลูกค้าก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทุกๆ แบรนด์จะมองข้ามไม่ได้ ซึ่งจุดที่จะนำมาเชื่อมต่อระหว่างตัวโครงการกับการสร้างไลฟ์สไตล์ให้กับลูกบ้านที่เห็นได้เด่นชัดนั้นก็คือพื้นที่ส่วนกลางนั่นเอง

ในปัจจุบันเราจึงได้เห็นโครงการใหม่ๆ สร้างพื้นที่ส่วนกลางที่มีความหลากหลายและน่าสนใจมากกว่ายุคก่อน โดยมีทั้งการสร้างไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้ แหล่งพบปะสำหรับลูกบ้าน ห้องประชุมที่ใช้ร่วมกัน ห้องครัวและห้องจัดปาร์ตี้ที่ใช้ร่วมกัน และมากกว่านั้นคือพื้นที่ส่วนกลางยังถูกนำมาเพิ่มคุณค่าในรูปแบบของพิพิธภัณฑ์ย่อมๆ ที่เป็นแหล่งสะสมงานศิลปะที่ทรงคุณค่าและหายากที่มีเพียงไม่กี่ชิ้นในโลก อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้ให้แก่ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการแห่งนั้น และจะนำไปสู่ความภูมิใจให้กับเจ้าของร่วมอีกด้วย

งานศิลปะที่ถูกนำมาจัดวางไว้อย่างลงตัวในพื้นที่ส่วนกลางที่ได้รับการออกแบบจากดีไซเนอร์ชื่อดังที่ทางโครงการได้คัดสรรมาอย่างดีที่สุด เพื่อให้ชิ้นงานแต่ละชิ้นถูกจัดวางบนพื้นที่ที่มีความเหมาะสม เพื่อส่งให้งานศิลปะมีความโดดเด่น สมกับที่เป็นชิ้นงานที่มีคุณค่าที่เกินกว่าจะประเมินได้ และแม้ว่าทางโครงการเองได้จัดหาผลงานศิลปะมาจัดแสดงในพื้นที่ส่วนกลางโดยไม่ได้แสวงหากำไร หากแต่งานศิลปะเหล่านี้ก็แฝงไปด้วยมูลค่ามหาศาลที่ไม่ได้เสื่อมถอยไปตามกาลเวลา แต่กลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่แตกต่างจากอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าปรับเพิ่มขึ้นทุกปี นั่นหมายถึงมูลค่าของทรัพย์สินส่วนกลางของเจ้าของร่วมก็เพิ่มพูนขึ้นทุกปีเช่นเดียวกัน


อย่างไรก็ตามการจะทำให้โครงการระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่มีคุณค่า และสะท้อนไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยให้มีคุณค่าในระยะยาวเช่นเดียวกับชิ้นงานศิลปะนั้น การได้รับการดูแลรักษาชิ้นงานศิลปะอย่างมืออาชีพย่อมถือว่าเป็นหัวใจของโครงการคอนโดมิเนียม พนักงานที่ดูแลโครงการในปัจจุบันจึงได้มีการยกระดับความรู้และเสริมทักษะความสามารถที่พิเศษกว่าการดูแลโครงการทั่วๆไป เช่นเรื่องของการบำรุงรักษาวัสดุประเภทต่างๆที่ต้องใช้การดูแลเป็นพิเศษ เพื่อรักษาสภาพให้สวยงามและดูใหม่อยู่เสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน จึงถือว่าเป็นการยกระดับการให้บริการและสร้างมูลค่าเพิ่มให้โครงการด้วยอีกทางหนึ่ง

การลงทุนในยุคปัจจุบันได้ขยายกว้างมากขึ้น เรามีการลงทุนทางเลือก (Alternative Investment) ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ และนี่ก็คืออีกหนึ่งตัวอย่างของวงการอสังหาฯ ที่มีการพัฒนา ใส่ใจในทุกรายละเอียด นำทรัพย์สินส่วนกลางมาสร้างคุณค่าทางจิตใจ และสร้างเพิ่มมูลค่าเพิ่มในระยะยาวได้ด้วยเช่นกัน

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*