CEO ออลล์ อินสไปร์ฯ “ธนากร ธนวริทธิ์” ควักทุนส่วนตัวลุยธุรกิจอาหาร ล่าสุด ซื้อ Subway เชนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดัง 3-4 สาขาในไทย พร้อมเผย ยังคงเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ตามแผน แม้สภาพเศรษฐกิจและธุรกิจอสังหาฯโดยรวมไม่เอื้ออำนวย

 

นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL เปิดเผยถึงการขยายสู่ธุรกิจร้านอาหารว่า เป็นการลงทุนส่วนตัวของครอบครัว “ธนวริทธิ์” ที่ล่าสุดได้ควักทุนซื้อ แบรนด์ ซับเวย์ (Subway) เชนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดังจากประเทศสหรัฐอเมริกา “ ผมซื้อมา 3-4 สาขาเท่านั้น ภรรยาเป็นคนดูแล อันนี้ เงินส่วนตัวล้วนๆครับ ไม่เกี่ยวกับบริษัท ออลล์ อินสไปร์ฯ ”

อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆนี้ คณะกรรมการบริษัทฯไฟเขียว “ออลล์ อินสไปร์ ฯ” ลงทุนธุรกิจ Shopping Mall ใจกลางเมืองชลบุรี มูลค่ารวมประมาณ 600 ล้านบาท เพื่อเข้าลงทุนในสิทธิการเช่าช่วงอาคารศูนย์การค้า เดอะ นิว ฟอรั่ม พลาซ่า  พร้อมก่อสร้าง ดัดแปลง อาคารศูนย์การค้า  อายุสัญญาเช่า 29 ปี หวังติด Top of Mind ของลูกค้าเมืองชลบุรี พื้นที่ใกล้เคียง และเขตระเบียงเศรษฐกิจ EEC คาดว่าจะมีรายได้จากธุรกิจ Shopping Mall หลังจากเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในครึ่งปีหลัง 2563 โดยคาดมีรายได้รวมเดือนละกว่า 10 ล้านบาท และหลังจากเปิดบริการเต็มปีในปี 2564 จะส่งผลให้มีรายได้เฉลี่ย 200 ล้านบาทต่อปี ซึ่งมาจากรายได้ค่าเช่า 90% และอื่นๆ อีก 10%

นายธนากร ธนวริทธิ์

ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัท ออลล์ อินสไปร์ฯนั้น แม้โดยภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงหลายๆด้านที่ส่งผลกระบต่อตลาดและการขาย แต่บริษัทฯยังคงยึดตามแผนที่ประกาศไว้ ล่าสุดในเดือนกรกฎาคม 2562 นี้ บริษัทฯเปิดตัวโครงการ ดิ เอ็กเซล ลาดพร้าว – สุทธิสาร โครงการตั้งอยู่ในซอยลาดพร้าว 62 ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีโชคชัย 4 เพียง 550 เมตร บนเนื้อที่กว่า 3 ไร่เป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ (Low Rise) 8 ชั้น 2 อาคาร เน้นการตกแต่งและออกแบบให้เข้ากับวิถีคนเมืองที่ชื่นชอบสังคม ด้วยสไตล์ โมเดิร์น ชิค (Modern Chic) ภายใต้คอนเซปต์ “แรงบันดาลใจเกิดได้ทุกตารางเมตร : Inspiration is All Around” โครงการมีห้องชุด จำนวน 420 ยูนิต มีมูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท โดยมีขนาดห้องชุดเริ่มตั้งแต่ 1 ห้องนอน 24.50 – 30.10 ตารางเมตร หรือตร.ม. ไปจนถึง 1 ห้องนอน พลัส ขนาด 34.70 ตร.ม. ราคาขายเริ่มที่ 60,000 บาทต่อตร.ม. ทุกห้องมีเครื่องปรับอากาศและเฟอร์นิเจอร์ครบครัน (Fully Furnished) สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จับกลุ่มลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ

ทั้งนี้ โครงการได้รับการอนุมัติ EIA Approved เป็นที่เรียบร้อยกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2563 Sales Gallery ตั้งอยู่ปากซอยลาดพร้าว 42/1 (แยกภาวนา)  ในวันที่ 3 – 4 สิงหาคม2562 นี้ โครงการจัดโปรโมชั่น Pre – Sale ทุกชั้นราคาเดียว เริ่มต้นที่ 1.39 ลบ. ผ่อนสบาย 3,900 บาทต่อเดือน (ตามเงื่อนไขของโครงการ) ปัจจุบันมียอดคนลงทะเบียน 4,000 คนซึ่งมากกว่าจำนวนห้องชุดที่มีอยู่เพียง จำนวน 420 ยูนิตเท่านั้น

แผนการเปิดโครงการใหม่ในปี 2562 รวม 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 18,250 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมไฮไรส์ (High Rise) จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ ทำเล ทองหล่อ 12 ทองหล่อ 16 และโครงการ อิมเพรสชั่น เอกมัย (Impression Ekkamai)โครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ (Low Rise) จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ ทำเล ลาดพร้าว – สุทธิสาร, 20 มิถุนาแยก 5 ถนนรัชดาภิเษก และลาซาล 83

โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2562 บริษัทฯ โดยมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือมูลค่ารวม ประมาณ 7,200 ล้านบาท จาก 13 โครงการในมือ ซึ่งในปี 2562 บริษัทฯ จะทยอยรับรู้ประมาณ 60 – 70% ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2566 ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังมีสินค้าเหลือขาย (Inventory) ในมือมูลค่ารวมกว่า 12,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินค้าพร้อมโอนภายในปีนี้ ประมาณ 40%หรือประมาณ 4,800 ล้านบาทซึ่งจะสามารถรับรู้เป็นรายได้ทันทีหลังการขาย

สำหรับในปี 2562 บริษัทฯ จะมีโครงการคอนโดมิเนียมแล้วเสร็จ จำนวน 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 8,600 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายกว่า 7,000 ล้านบาท

ทำเลลาดพร้าวราคาที่ดินพุ่ง 3-4 เท่าตัว-คอนโดปล่อยเช่า Yield ที่ 6% ต่อปี

พร้อมกันนี้ นายธนากร ยังกล่าวให้ความเห็นถึงราคาที่ดินโซนลาดพร้าว โดยเฉพาะบริเวณถนนสายหลักและพื้นที่ใกล้เคียงทำเลโชคชัย 4 – เดอะมอลล์ บางกะปิ มีอัตราการเติบโตจาก 1 แสนบาทต่อตารางวา หรือตร.ว. เพิ่มขึ้นที่ประมาณ 3 – 4 แสนบาทต่อตร.ว. หรือเพิ่มขึ้นเป็น 3-4 เท่าตัว ขณะเดียวกัน กำไรจากการขายต่อ (Capital Gain) ของคอนโด Low Rise ในย่านลาดพร้าวอยู่ที่ 3.6% ต่อปี โดยกลุ่มที่มีผลตอบแทนสูงคือ โซนลาดพร้าว – โชคชัย 4 อยู่ที่ 4.2% ต่อปี ซึ่งเป็นทำเลที่ผู้คนนิยมอยู่อาศัยหนาแน่นในอัตรา 90 – 95% เป็นผู้อยู่อาศัยเอง 65% เป็นผู้เช่า 25% ขณะที่กำไรต่อการปล่อยเช่า (Gross Rental Yield) ในย่านนี้ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าสนใจ ด้วยผลตอบแทนอยู่ที่ 6% ต่อปี

ส่วนคอนโด Low Rise ในย่านนี้มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 75,000 บาท ต่อ ตร.ม. นับเป็นราคาที่กลุ่มคนวัยทำงานสามารถเป็นเจ้าของได้ กลุ่มคนในวัยทำงานส่วนใหญ่เป็นกลุ่ม Double Income, No Kids หรือ DINKs ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของคนยุคใหม่ที่มีชีวิตคู่แต่ (ยัง) ไม่มีลูกนั่นเอง เนื่องจากมีความพึงพอใจในการใช้ชีวิตแบบที่เป็น ผู้บริโภคกลุ่มนี้มีอัตราการขยายตัวมากขึ้นในปัจจุบันและมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ต้องการใช้ชีวิตอยู่แบบครอบครัวเดี่ยวที่ยังไม่อยากขยาย ต้องการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีในราคาที่เอื้อมถึง มีรายได้ประจำเฉลี่ยประมาณ 25,000 – 50,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน ซึ่งข้อดีของกลุ่มนี้ คือ สามารถกู้ร่วมได้ ทำให้สถาบันการเงินปล่อยกู้ได้ง่าย ยอดการปฏิเสธสินเชื่อจึงอยู่ในระดับต่ำ

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่

*